บทที่ 4
ไอ้เพื่อนเลว ไอ้เพื่อนชั่ว...
คิดแล้วก็ได้แต่มองค้อนเพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีไปกว่านั้น แถมด่าไปแล้วจนไม่รู้จะหาคำด่าอะไรอีก เพราะด่าไปแล้วเกือบชั่วโมงจนตอนนี้เหนื่อย แล้วก็เริ่มหิว...เธอพาเขาออกมาจากมหาวิทยาลัย เลี้ยวขวับเข้าไปที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง แล้วก็เริ่ม...ท้าวเอว...ก้านเพชรได้แต่มองเพื่อนสนิทตาปริบๆ อ้าปากค้าง ไม่เถียงสักคำ ปล่อยให้อโนมาบ่นด่าเขาให้หนำใจ
ขืนไปขัดสิ อารมณ์แบบนี้ เขาคงได้หลังหัก เห็นตัวเล็กตัวน้อย บอบบาง หน้าตาหมวยญี่ปุ่นแบบนี้ เจ้าหล่อนมีอาเป็นนักยูโดทีมชาติ แล้วศิษย์เอกก็คืออโนมาเสียด้วย
เหมือนจะรู้ใจว่าเธอกำลังคิดอะไร ก้านเพชรยิ้มแหยส่งให้เธอ แล้วก็ลุกขึ้นหายไปครู่หนึ่งก็กลับมาพร้อมกับถุงลูกชิ้นปิ้งกับไส้กรอก...ไส้กรอกสีแดงๆ ราคาย่อมเยาแบบที่เธอชอบกินมาก ถึงจะโดนแม่บ่น เพื่อนว่าทุกหนเวลาซื้อมันมาเกินก็เหอะ
“เอ้า...ด่ามาก หิวยัง...”
“หิว” ว่าแล้วเธอก็คว้าถุงไปจากมือเขา มองค้อนเขาไป จิ้มลูกชิ้นกินไปด้วยตุ้ยๆ
“คือ...เมื่อคืน...นี้ มันเกิดอะไรระหว่างเราวะ”
“จะบอกว่าจำไม่ได้” อโนมาเงยหน้าขึ้นมา ลูกกะตางี้เขียววับ แถมมีน้ำตาเริ่มคลอ แต่ก็ยังกินตุ้ยๆ ไปด้วยความโมโห
“ใครบอกว่าจำไม่ได้” จริงๆ ก็จำได้วับๆ แวมๆ แต่...อะไรบางอย่างมันทำให้ก้านเพชรรีบฉวยโอกาสนี้ไว้ เขาคุกเข่าลงข้างอโนมา แล้วจับมือเจ้าหล่อนหมับ
“จำได้ทุกอย่างเลย ว่าทำอะไรแกไปบ้าง ไอ้ออย”
“อ่า...” หนนี้ลูกชิ้นที่กำลังกิน กลิ้งตกออกมาจากปากของอโนมา เธอหน้าแดงก่ำ พยายามดึงมือหนีจากมือของก้านเพชร ที่อีกฝ่ายก็ไม่ปล่อยง่ายๆ
“เมื่อคืนนี้เรา...เราสองคน มันข้ามสถานะของคำว่าเพื่อนไปแล้วใช่มะ”
“คือ...เราจะลืมๆ มันก็ได้นะไอ้เกม ฉันเข้าใจว่าแกเมา ฉันก็...ฉันก็...งง เอ่อ เป็นอันว่าแกเมาฉันงง เรื่องมันเลย”
“มันเลยเถิดไปขนาดนั้นแล้วนะไอ้ออย” ก้านเพชรรีบว่า เขายังไม่ปล่อยมือนิ่มๆ ของอโนมา ที่เธอพยายามจะชักมือหนี
“มันไม่เถิดไปไกลหรอกน่า” พูดไป ภาพที่เขาซบกับอกเธอก็โผล่ขึ้นมาให้ได้รู้สึกร้อนวูบวาบ นี่เธอจะมองหน้าเขาคบกับเขาได้เหมือนวันเก่าๆ อีกไหมนะ
เธอคบกับเขามานานมาก สนิทรู้จักกันมานาน มีเวลาดีๆ ร่วมกันมามากมาย ความทรงจำทุกอย่างระหว่างกัน...มันจะต้องจบลงเพราะ...
เขาและเธอเผลอมองสบสายตากัน ต่างคนต่างเงียบไปชั่วครู่ อย่างจะชั่งใจ ว่าจะตัดสินใจอย่างไรกันดีกับเรื่องค่ำคืนที่ผ่านมา
เขาและเธอคบกันมามากว่าสิบปี
รู้จักรู้ใจกันมาทุกอย่าง เล่าให้กันฟังเกือบทุกเรื่องด้วยซ้ำ
“เอ่อ...”
“คือ...”
จู่ๆ ก็พูดขึ้นมาพร้อมกัน อโนมาหลบตาเขาแล้วกระแอม พลางพูดเสียงสั่นนิดๆ
“แกพูดก่อน”
“คือ...ไอ้ออย เรื่องเมื่อคืน แก...ซีเรียสไหม?” อยากจะตบปากตัวเองเมื่อเห็นนัยน์ตาของอโนมาที่มันสั่นระริกเมื่อเขาพูดออกไปแบบนั้น
“ไม่ซีเรียส...คือ...ลืมๆ ไปเถอะว่ะ”
“อืม...ลืมๆ ไปก็ได้เนาะ” ก้านเพชรตอบเธอน้ำเสียงนั่นเหมือนประชดหน่อยๆ ก่อนที่เขาและเธอจะหลบตากัน
อโนมาตัดสินใจแล้วว่า...เธอจะเลือกรักษาความสัมพันธ์ระหว่างกันไว้มากกว่า ส่วนเรื่องเขากับเธอ ก็อย่างที่เขาบอก เขาก็แค่เมายังไงล่ะ มันถึงได้เกิดอะไรแบบนั้นขึ้น แต่มันก็ไม่ได้ไปถึงขั้นสุดเสียหน่อย ก็แค่เสียหายนิดหน่อย
เฮ้อ...
อย่างน้อยเธอก็ได้รู้ล่ะ...ว่าจูบมันเป็นยังไง
“กลับไปมหาวิทยาลัยอีกไหม?” จู่ๆ ก้านเพชรก็เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น พร้อมกับลอบมองหน้าของคนข้างๆ ไปด้วยอย่างพินิจ
“ไม่อะ ขี้เกียจเจอยัยน้อย นี่ก็ข้อความมาด่ารัวที่หลอกมันวิ่งตามตุ๊ดคณะนิเทศ ไม่ใช่น้องไอเฟลของมัน เดี๋ยวมันจะซักเรื่อง...เรื่อง...นั่นล่ะ” อโนมายักไหล่ ก้านเพชรพอจะรู้ว่าเธอหมายถึงเรื่องอะไร
“สองสามวันก็หาย ช้ำขนาดนั้นต้องใช้เวลาหน่อย”
“รู้ดีนะยะ” เธอมองเขาแบบค้อนๆ ก้านเพชรอมยิ้ม แล้วใช้นิ้วจิ้มหน้าผากเธอแรงๆ อย่างจะแกล้ง
“ก็ทำบ่อยไง อิอิ”
“เหอะ...พ่อแคสโนว่า แล้วไหงอกหักเมายังกะหมาล่ะ ต่อไปนี้ห้ามแกมาเคาะห้องฉันดึกๆ ดื่นๆ อีกนะ ฉันจะไม่มีวันเปิดให้แกอีกแล้ว”
“เอาน่า...ต่อไปไม่ทำแล้วครับผม” ก้านเพชรตะเบ๊ะให้เธอ อโนมาทำตาดุๆ ใส่เขา แล้วคาดคั้นอีกรอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ห้าม...พูดถึงเรื่องนี้อีกนะไอ้เกม เราสองคนจะลืม”
“อืม...ลืม...ลืมให้หมดเลย”
“เอ่อ...ลืม”
สองหนุ่มสาวตกลงกันแม่นมั่นว่าจะลืม จับมือสัญญิงสัญญากันอย่างเรียบร้อย ทำเหมือนจะลืมง่ายดาย ทั้งที่จริงๆ แล้วมันไม่ได้ลืมง่ายอย่างปากเลยสักนิด