บทที่ 3
“ไอ้...ไอ้บ้า ไอ้เพื่อนเลว”
อโนมาก้มลงส่องดูตนเองไปพลาง ปากก็บ่นขมุบขมิบไปพลาง วันนี้เธอสวมเสื้อแขนยาวแบบมีฮู้ดคลุมเสื้อนักศึกษา ทั้งที่อากาศเมืองหลวงของประเทศไทยในขณะนี้ หนาว...จับจิตที่เฉียดสี่สิบองศา!
ไม่ให้ใส่แบบนี้ได้ยังไงกันเล่า ก็...โอ๊ย...พอเธอตื่นเช้าขึ้นมา หน้าของก้านเพชรยังซุกอยู่กับร่องอกเธอ หนวดเคราของเขาที่เพิ่งขึ้นใหม่ มันถูกับเนื้อตัวเธอจนแดงเถือกและมีผื่นจางๆ ขึ้น ไหนจะร่องรอย...การ...คอของเธอ ตามบ่าไหล่ มันมีร่องรอยการตีตราจากไอ้เพื่อนบ้า...เต็มไปหมด
คิดแล้วก็หน้าร้อน แก้มร้อน ตัวก็ร้อนวูบๆ วาบๆ เธอแงะตัวเองออกมาจากปีศาจปลาหมึกอย่างก้านเพชรได้ ก็รีบเผ่นแน่บมาที่มหาวิทยาลัย มาซ่อนตัวเงียบอยู่ในห้องสมุด ก้มหน้างุดไม่ยอมมองหน้า ยอมทักใคร ราวกับไปทำผิดใหญ่หลวงมา
ใจคิดเวียนวน วนเวียนแต่เรื่องเมื่อคืน บางประโยคของคนเมา ดังสะท้อนไปมาในหัว ถึงจะย้ำตัวเองว่าก้านเพชรเมา แต่...เธอไม่ได้เมานี่ แล้วมันก็ยังดังซ้ำไปซ้ำมา
ฉันชอบแกมานานแล้ว
ฉันชอบแกมานานแล้ว
แอร๊....
ไอ้เกม...
นี่เพื่อนแกนะ
แล้วนี่เธอจะทำยังไงดีเล่า...จะกล้ามองหน้ามันไหม? หรือจะหลบหน้ามันไปเลยดี หรือจะไป...โอ๊ยสับสน ทำตัวไม่ถูก ทำใจไม่ได้...
“ออย ออย”
เสียงเรียกทักดังขึ้น ทำให้สาวที่กำลังสับสนอลม่านกับตนเองสะดุ้งโหยง ก่อนจะหันไปมองคนเรียก ที่เห็นสภาพของเพื่อนแล้วก็เอามือล้วงกระเป๋า พลางขมวดคิ้ว สายตานั่นทำให้อโนมารู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ก่อนจะสูดลมหายใจเพื่อเรียกสติสตังที่เตลิดเปิดเปิงให้กลับมาหาตัวแต่โดยไว
“มีอะไร? แกมาเงียบๆ ตกใจหมดเลย”
“ไปทำอะไรมาหรือเปล่า”
“ทำอะไร”
โดยอัตโนมัติ คนที่มีชนักติดหลัง รีบเอามือกุมคอเสื้อ เพื่อเกลื่อนร่องรอย...คนที่มองอยู่แล้วก็จ้องเลยล่ะตอนนี้ แถมยังตะครุบเพื่อนตัวเล็กลากเข้ามาในอ้อมแขน แล้วเริ่มเปิดเสื้อที่เพื่อนพยายามกุมไว้แหวกดู อโนมาโวยวายเสียงลั่นเลยทีเดียว
“ปล่อยนะยัยน้อย ปล่อย...แกจะปล้ำฉันรึยังไงอ่า”
“แกทำตัวมีพิรุธไอ้ออย นี่ๆๆ นี่รอยอะไร แอร๊...” นรดีทำตาโต เมื่อเห็นรอยตรงคอของเพื่อนถนัดๆ มือที่ชี้มายังอโนมาสั่นระริก
“ไอ้ออยแกไปทำอะไรม้า!” น้ำเสียงนั่นสูงปรี๊ด อโนมาหน้าแดงเถือก แล้วรีบตะครุบปิดปากเพื่อน ก่อนที่นรดีจะกรี๊ดดังไปกว่านี้
“ชูว์ เงียบๆ สิ แกจะแหกปากแหกคอทำไมกันอะ”
“อื้อๆๆๆ”
นรดีพยายามแกะมือเพื่อนออก อโนมาหันซ้ายหันขวา แล้วถลึงตาใส่นรดี ที่ทำท่าจะหายใจไม่ออกเมื่อโดนตะครุบปิดปากปิดจมูกแบบนั้น
“ปล่อยแล้วแกเงียบๆ นะไอ้น้อย”
“อื้อ” นรดีพยักหน้า นั่นแหละเธอถึงถูกปล่อยออกมา “โอ๊ย...ไอ้ออย เกือบหายใจไม่ออกแล้วนะแก จะฆ่าเพื่อนเหรอ?”
“จะฆ่าถ้าแกเสียงดังแล้วก็ถามมาก”
ว่าแล้วก็ถลึงตาใส่ หน้าของหล่อนแดงก่ำตอนนี้ นรดีกอดอก พลางหรี่ตา มองเพื่อนสนิทของตน...แล้วกระแอม
“แอบไปมีแฟนตอนไหน”
“ใครมีแฟน”
“ถ้าไม่มีแล้วใครดูดคอแกเป็นรอยขนาดนั้นอะไอ้ออย...ก้าวหน้านะหล่อนน่ะ ทีฉันมีแฟนแกหวงแกห้ามสารพัด แล้วแกเองแอบไปลองของรึไงยะ”
นรดีทำตาดุวาวใส่เพื่อนสาว อโนมาอ้าปากค้างไปครู่ จะเถียงก็ไม่ได้ จะบอกก็ไม่ดี เลยได้แต่ทำอ้าปากหวอเป็นปลาทองอยู่แบบนั้น
“คอยดูเถอะ จะฟ้องไอ้เกมมัน”
“ห้ามไปบอกมันเลยนะ ไอ้บ้านั่นน่ะ”
ก็ไอ้บ้าเกมนั่นแหละ! คนทำ ฮือๆๆ
“จะเล่ารึเปล่า” นรดียังคาดคั้น อโนมานิ่งไปนิด แม้จะไม่ชอบโกหกเท่าไหร่ แถมโกหกไปก็ไม่เนียน แต่น่ะ...มันจะมีอะไรดีไปกว่าการโกหกปัดไปก่อนเล่า
“ก็...คือ...”
“เฮ้ๆ พวกแก...มาโดดเรียนอยู่ตรงนี้เอง”
เสียงห้าวๆ ดังขัดขึ้นมันเป็นเสียงของคนที่ทำให้อโนมาถึงกับเบิกตาโต แล้วเอามือกุมคอเสื้อไว้โดยอัตโนมัติ
“มาเหรอคะคุณเกม ดิฉันนึกว่าคุณไปเมาหัวราน้ำอยู่ที่ไหนแล้ว นี่ไอ้น่านมันก็โทรมาบอกให้ฉันเช็คชื่อกะอาจารย์เผื่อ มันบอกว่าแกน่ะพามันไปเมาแล้วก็ทิ้งมันไว้ที่ร้านตัวเองหนีหาย...พ่อเพื่อนที่แสนดี”
นรดีเปลี่ยนเป้าหมายไปยังเพื่อนอีกคนแทน เขาเดินก้าวยาวๆ มาหาพวกเธอ
อโนมาตัวแข็งทื่อ
ภาพอะไรต่อมิอะไรเมื่อคืน เริ่มฉายวาบขึ้นมาในห้วงนึก...โอย...ตายแล้วเธอจะกล้ามองหน้าเขาไหมนะ
“ไม่ได้หนีหายไปไหน ไปขอสิงนอนที่ห้องไอ้ออย” ว่าแล้วเขาก็โอบแขนมาที่บ่าบางของคนที่ยืนตัวแข็งอยู่ พร้อมกับยิ้มกว้างให้กับเธอ
“ขอบใจมากเพื่อนออย ที่ให้ที่พักพิงยามตกทุกข์หัวใจ”
“เอ๊ะ!” คิ้วของนรดีขมวดมุ่นเข้าหากัน เผลออุทานออกมาอย่างลืมตัว
“แกไปนอนห้องไอ้ออยเหรอเมื่อคืน แล้วเมื่อคืนนี้ใครดูดคอไอ้ออยอะ!”
“หืม?”
ก้านเพชรขมวดคิ้ว ส่วนอโนมารีบโวยวายกลบเกลื่อนความสงสัยของนรดี ด้วยการทำเป็นชี้ไม้ชี้มือไปทางตึกเรียน แล้วตะโกนเสียงดัง
“ไอ้น้อย นั่นมัน ไอเฟล ดาราหรือเปล่า ใช่แน่ๆ วันนี้ไอเฟลมาเรียน”
“ไหนอะ ไหน กรี๊ดดดดดดดดดดด”
กรีดร้องนำไปก่อนจะเห็นตัวไม่พอ เจ้าหล่อนยังวิ่งปรี่ไปตามทิศที่เพื่อนชี้ด้วยความไวแสง เปิดโอกาสให้อโนมา กึ่งลากกึ่งจูงก้านเพชให้รีบออกไปจากที่ตรงนั้น ก่อนที่นรดีจะกลับมาซักฟอกเธออีกรอบ
“มานี่ๆ มานี่ไอ้เกม”
“อะไรของแกน่ะ เฮ้...”
ก้านเพชรโวยวาย แต่ก็เดินตามเจ้าหล่อนไปแต่โดยดี ความเร่งรีบทำให้อโนมาลืมที่จะใส่ฮู้ดปิดบังตรงบริเวณซอกคอให้เรียบร้อย แล้วมันก็ทำให้สายตาของเขาสะดุดเข้ากับบางสิ่ง
หืม...
รอยนั่น...
รอย...
บนคอไอ้ออย แถมไม่ใช่แค่รอยเดียว
ภาพบางอย่างฉายวาบขึ้นมาในห้วงความทรงจำ
เฮ้ย...
ก้านเพชรเอามือปิดปากตัวเองก่อนที่จะหลุดอุทานออกไป อโนมาพาเขามาจนถึงลานจอดรถของมหาวิทยาลัย แล้วเปิดประตูรถด้วยรีโมท ก่อนจะจับเขายัดเข้าไปในนั้น
“จะมาทำไมน่ะ” เธอหันมาตวาดก้านเพชร ที่นั่งกะพริบตาปริบๆ แล้วพูดเสียงอ่อย
“อ้าว...ก็มาเรียน...แกบอกย้ำเมื่อคืนเองว่าวันนี้ยังไงก็ต้องมาให้ได้ ส่งข้อความไปหาตั้งสิบกว่าข้อความอะ...ว่าต้องมาเรียน เพื่อนก็มาไง...”
“โอ๊ย”
เธอหันไปถลึงตาให้เขา หมวดฮู้ดตกลงมาแล้วเรียบร้อยเปิดเผยให้เห็นลำคอขาวเนียนนั่น...ยิ่ง...ชัดเลย มือของก้านเพชรยื่นไปใกล้อโนมาแล้วจิ้มเบาๆ ที่รอยแดงช้ำ
“ไอ้ออยนี่มันรอย...”
“รอย...เอ่อ...รอย...ก็...รอย...”
อโนมาเอาฮู้ดใส่ไว้ตามเดิม ตอนนี้หน้าตาของเธอแดงก่ำไปหมดแล้ว ชัดเลย...แบบนี้ ไอ้ออยหลบตาเขาด้วย แถมยังเริ่มติดอ่าง อาการนี้เป็นอาการเวลาที่ไปทำผิดมาแล้วโดนจับได้ เขารู้ดีเพราะอยู่กับเจ้าหล่อนมาตั้งแต่สิบขวบ วิ่งเล่นตามก้นกันไปมาตั้งแต่เด็กจนโต รู้จักกันตั้งแต่เขายังไม่เสียจิ้นจนตอนนี้กลายเป็นเสือผู้หญิง
ใครทำรอยให้ไอ้ออย!
เมื่อคืนนี้เขาไปนอนเอกเขนกเมาปลิ้นที่ห้องของเพื่อนสาว
ในฝันรางเลือนนั่นเขา...
ก้านเพชรมองลดลงไปยังอวัยวะบางส่วนของอโนมา ที่เขาเคยแอบมองบ่อยๆ เอ่อ...น่ะ คิดไม่ซื่อกับเพื่อนบ้างอะไรบ้างมันก็เคย เพื่อนเขาอยากสวยน่ารักมากทำไม แถมไปวนเวียนในฝันเปียกยามไม่รู้ตัวบ่อยๆ ตื่นมาก็เลอะเทอะแล้ว (เฮ้อ...) เพื่อนที่ทำให้บรรดาแฟนของเขาบอกเลิก เพราะบอกว่าเขาสนใจอโนมาเสียยิ่งกว่าพวกเธอ
เมื่อคืนเขา...
เฮ้ย!
“ไอ้ออยนี่ฉัน...เมื่อคืนฉัน...”
“เอ่อ...โอ๊ย...ฮือๆๆ” ไม่รู้จะทำยังไงนอกจากยอมรับ แถมด้วยการร้องไห้โฮออกมา เพียงเท่านี้ มันก็ชัดยิ่งกว่าชัดไปล่ะ
ไอ้เกมนะไอ้เกม
นี่กูฟันเพื่อนไปแล้วหรือวะ...