3
Chapter 3
เขาซุกใบหน้าเข้าหาแก้มสาว ขบกัดดูดเม้มใบหูหอมสะอาด เธอร้องคราง เบี่ยงหน้าหนี แต่หนียังไงก็หนีไม่พ้น สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้เขาอยู่ดี
“คุณนัส ไม่นะคะ” เธอร้องปฏิเสธออกไปเมื่อเขาลากไล้ส่วนปลายของความแข็งแกร่งกับกลีบฉ่ำเยิ้ม สายตาคมกล้าของเขามองนิ่ง ก่อนจะค่อยๆ กดกายเข้าไปหา
“อ๊า... เจ็บค่ะคุณนัส”
“ชู่... นิดเดียว” เขาส่งเสียงปลอบโยน แล้วขยับสะโพกเข้าหาไม่รีบร้อน ปากก็บดจูบ ดูดเต้านมอวบๆ ของคนใต้ร่างไม่ละห่าง
เธอร้องครางเสียงสั่นๆ เมื่อเขาสอดกายเข้ามามากกว่าครึ่ง
“อ๊า...” สองเสียงครางพร้อมกันเมื่อเรือนกายหลอมรวมเข้าหากันและกัน เธอปรือตามองใบหน้าเหยเกของเขา
มนัสวีใบหน้าแดงก่ำ เขาเลื่อนมือข้างหนึ่งมาลูบสะโพกกลมกลึงของเธอไปมา
“เสียวไหม”
“เจ็บค่ะ”
“ครั้งแรกก็แบบนี้แหละ เดี๋ยวต่อไปจะไม่เจ็บอีก” เขาปล่อยมือที่กดรวบเอาไว้บนศีรษะ ก่อนที่จะเลื่อนมาฟอนเฟ้นเต้านมอวบอิ่มของเธอแทน
มือนิ่มที่ถูกปล่อยเป็นอิสระขยับมาจิกที่แผ่นหลังของเขาด้วยความเสียวซ่านปนด้วยความเจ็บตึงที่เขาสอดประสานร่างเข้ามา
เธอครวญครางทุกครั้งที่เขาขย่มร่างเข้าหา เนื้อกายที่เสียดสีกันและกันให้ความรู้สึกเสียวซ่านอย่างที่สุด
“อ๊ะ! อ๊า...” เธอครางเสียงหลง ส่ายหน้าไปมา ยามเมื่อเขากระแทกลงมาหา ปากร้อนดูดรวบยอดอกของเธอจนแข็งเป็นไต ขนในกายของพลอยใสลุกซู่ด้วยความกระสันเสียวเจ็บแปลบปนเปกันไปหมด
เขาช้อนสะโพกของเธอขึ้นให้รับการกดคลึง เธอหอบหายใจรุนแรง จิกมือกับแผ่นหลังของเขาแน่น ปากน้อยที่เผยออ้าค้าง ทำให้เขาต้องบดจูบหนักๆ
เสียงครวญครางของสาวน้อยดังสะท้านอยู่บนเตียงนอนใหญ่เกือบค่อนคืน เธอถึงได้ถูกปล่อยตัวจากอ้อมแขนแกร่งของเขา
“จะไปไหน” เขาเกี่ยวเอวบางเอาไว้ พลอยใสไม่ตอบ เธอจะหนีลงจากเตียงท่าเดียว
“ฉันถามว่าเธอจะไปไหน”
“พลอยจะกลับห้องค่ะ”
“ยังไม่ให้ไป” เขารั้งร่างน้อยมากอด บดจูบแก้มนวลอย่างหนักหน่วง
“อุ๊ย! คุณนัส” เธอลูบแก้มตัวเองเบาๆ ซุกหน้าเข้าหาหมอนอย่างเขินอาย ไม่กล้าหันไปมองเขา
“ฉันชอบหมอนข้างดิ้นได้ ถ้ายังไม่อนุญาตให้ไป เธอก็ไปไหนไม่ได้” คนเผด็จการสั่ง รัดเอวบางเอาไว้แน่นขึ้น เธอเลยหยุดดิ้น เพราะรู้สึกว่ายิ่งดิ้นยิ่งเสียดสีกับสัดส่วนที่ไม่สมควรมากขึ้น
“ไหนๆ ก็ตื่นแล้ว” เขาจับมือเธอมาสัมผัสกับแก่นกายชาย เธอสะดุ้งอุทาน ส่ายหน้าไปมาแทบจะทันที
“ส่ายหน้าหมายถึงจะบอกว่าอย่าช้าใช่ไหม”
“คุณนัส ไม่เอาค่ะ” เขาไม่ตอบแต่ขึ้นคร่อมทับร่างของเธอในทันที มือของเขาเลื่อนลูบไปตามเรียวขานุ่มละมุน กดเธอเอาไว้ใต้ร่าง
“พลอย”
“คะ?” เธอมองหน้าเขาแล้วเกร็งไปทั้งร่าง
“ฉันไม่ชอบขืนใจใครนะ ยอมดีๆ ได้ไหม ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับฉัน”
“คุณนัส” เธอคราง ก่อนจะผ่อนคลาย หายจากอาการเกร็ง
“ต่อไปเราต้องทำแบบนี้กันบ่อยๆ เรียนรู้ที่จะมีความสุขกับมัน แล้วเธอจะชอบ” เธอหลับตาพริ้มเมื่อเขาก้มใบหน้าลงมาบดจูบปากสวย
พลอยใสลืมตาเมื่อเขาขยับปากออกห่าง ดวงตาของเธอสบกับเขา
“อื้อ...” เธอครางรับเมื่อเขากดกายเข้าหา แทรกลึกในเนื้อนางอ่อนนุ่ม เธอตอดรัดเขาทุกทิศทาง มือบางถูกจับให้ลูบไล้แผงอกกว้าง
“ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับฉัน เธอเป็นของฉัน”
“อื้อ...” เธอหยัดกายขึ้นไปหาเขา ให้เขานำพาไปสู่ห้วงความสุขซ่าน สะโพกสอบแข็งแรงกดลงมาหาย้ำๆ เนื้อกายเสียดสีแนบชิด ร่างน้อยสั่นระริกดีดเด้งขึ้นลงอยู่บนเตียงกว้าง เสียงครางกระเส่าของเธอดังระงมไปทั่วห้อง ก่อนที่เธอจะหวีดร้อง เขาพลิกกายลงจากร่างน้อย รั้งเธอมากอดเอาไว้
“แล้วฉันจะไปหาที่ห้องนะ” เขากระซิบบอกเมื่อเธอทำท่าจะคลานลงจากเตียง พลอยใสกลับถึงห้องด้วยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนัก ถ้าใครรู้เรื่องที่เธอแอบไปพลาดท่าเสียทีมนัสวีเข้า คงโดนดูถูกเหมือนมารดาอีกเป็นแน่
ยิ่งคุณดาเรศ มารดาของมนัสวียิ่งรู้ไม่ได้เป็นอันขาด...
เธอรีบอาบน้ำแต่งตัวออกไปช่วยงานในบ้าน เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด แม้เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาจะไม่ได้หลับไม่ได้นอน แต่เธอไม่ใช่เจ้าของบ้านถึงจะได้หนีไปนอนอยู่ในห้องไม่ยอมออกไปช่วยงานคนอื่น
เธอเดินเข้าไปในครัว คนในครัวมองเธอแปลกๆ เด็กสาวเริ่มทำตัวไม่ถูก เพราะเห็นหลายคนมองมาเป็นตาเดียวกัน
“ป้าคะ ทำไมคนในครัวมองพลอยแบบนั้นล่ะคะ” พลอยใสเอ่ยถามจงจิตร นางถอนใจพรืด มองเธอนิ่ง ทำท่าเหมือนไม่อยากพูด แต่ก็หันมากระซิบบอกอยู่ดี
“แกมันโตเป็นสาวแล้ว สวยเตะตาคุณมนัสเข้าน่ะสิ”
“หมายความว่ายังไงคะ”
“อย่าโง่ไปหน่อยเลย สาวใช้ในบ้านใครสวยก็เสร็จคุณมนัสหมดนั่นแหละ”
“แต่หนูไม่ได้คิดอะไรกับคุณท่านนะคะ”
“แกจะคิดหรือไม่คิดมีใครสนใจด้วยเหรอ เขาคิดก็พอแล้ว เพราะเขาเป็นเจ้าของบ้าน ไม่นานเอ็งคงถูกเรียกไปบริการถึงเตียงเหมือนคนอื่น”
“หนูไม่ไปได้ไหมคะ” คนพูดทำท่าจะร้องไห้
“ขัดได้รึ คุณมนัสเจ้าชู้จะตายไป อยากได้ใครก็ต้องได้ นอกจากแกจะมีผัวไปแล้วเท่านั้น”
“หนูไม่เคยคิดเรื่องมีผัวเลยนะคะ”
“คิดไม่คิด เขาก็จะเอาแกทำเมียนั่นแหละ”
“ป้าจ๋า หนูจะทำยังไงดี”
“มีทางเดียว แกต้องออกไปจากบ้านหลังนี้”
“แต่หนูไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนนี่คะ” เธอพูดด้วยความว้าวุ่นใจ ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยนะ
“งั้นก็ต้องยอมเป็นเมียคุณมนัสแล้วล่ะ แกก็รู้นี่นังพลอย คุณมนัสน่ะรักและเอ็นดูแก ส่งให้เล่าเรียนเพราะหวังเรื่องนี้ ไม่ใช่แกคนเดียวหรอก เด็กสาวคนอื่นก็เหมือนกัน”
“แต่หนู...” พลอยใสส่ายหน้าไปมา อยากจะปล่อยโฮออกมา
“หนูไม่รู้จะหนีไปอยู่ที่ไหน”
“แกหนีไม่พ้นหรอก คุณมนัสกว้างขวางมีเส้นสาย แกหนีไปเขาก็ตามกลับมาจนได้ ดีไม่ดีโดนข้อหาหนักอีก”
“ข้อหาหนักอะไรจ๊ะ”
“ก็นังน้ำค้างเด็กสาวคนก่อนน่ะสิ มันหนีไป คุณมนัสเลยแจ้งข้อหาว่าขโมยของในบ้าน เลยหนีออกจากบ้านไป ติดคุกหัวโตน่ะสิ”
“จริงเหรอจ๊ะ”
“จริงสิ แม่แกยังหนีไม่รอดเลยนังพลอยเอ๊ย” จงจิตรพูดแล้วส่ายหน้าไปมา พลอยใสว้าวุ่นใจอย่างหนัก มนัสให้สาวใช้มาตามเธอขึ้นไปรับใช้บนห้องในคืนนั้น เด็กสาวเดินไปเดินมาอยู่ในห้องตัวเอง เธออยากจะหนีออกไปจากที่นี่ แต่ไม่รู้จะหนีไปไหน หรือจะหนีไปตายเอาดาบหน้า ไปหาเพื่อนสนิทอย่างดมิสาดี
คิดได้ดังนั้นเธอก็รีบโทร. หาเพื่อนว่าจะไปหา ดมิสารับคำ เพราะว่าอีกฝ่ายอยู่หอพักคนเดียว ให้เธอไปค้างได้ ไม่มีปัญหาอะไร
พลอยใสเก็บข้าวของยัดใส่กระเป๋า ก่อนจะค่อยๆ ย่องออกไปจากห้อง ไปเวลานี้ไม่มีใครเห็น เธอคิดว่าจะปีนรั้วหนีไป
“อือๆๆ” ขณะที่เธองับประตูห้อง ก็มีมือหนามาปิดปากของเธอเอาไว้ พอหันไปมองก็ต้องตาโตเมื่อเห็นว่าเป็นมนัสวีนั่นเอง
“คุณนัส!”
“จะหนีไปไหน”
“คือว่าพลอย คือว่า...” เธออึกอักอ้ำอึ้ง มองเขาหน้าตาตื่น
“ฉันถามว่าจะหนีไปไหน”
“พลอยเปล่าหนีนะคะ แค่... แค่จะไปนอนหอของดมิสาค่ะ”
“ไม่ให้ไป” เขาดันเธอเข้าห้องนอน เธอทำท่าจะร้องไห้
“ให้พลอยไปเถอะค่ะ”
“ทำไม”
“ก็... คุณท่านจะเอาพลอยทำเมีย” เธอโพล่งออกไปทำท่าจะร้องไห้หนักกว่าเดิม
“เธอไม่อยากเป็นเมียคุณพ่อหรือไง คุณพ่อรวยนะ” เขาพูดลองใจ
“พลอยยอมตายค่ะ”