บทย่อ
ซีรีส์หวามรักนักปกครอง 1 พี่ปลัดสุดจัด เมื่อย้ายมา ณ ทุ่งหนองวัวแดง ปลัดหนุ่มได้เจอกับลูกสาวกำนันสุดซ่า แสบนัก น่ารักนัก พี่ปลัดเลยจับปล้ำ ทำเมียเสียจะได้หายซ่า “หอมมาก พิงค์ขา” เขาพูดเสียงอ่อน...หวานเสนาะ อ้อนอย่างลืมตัว เวียงพิงค์ใจเต้นแรงกับคำที่เขาพูดขาน ปรกติแล้วปลัดหาญชายไม่เคยคะขา...หน้าของเขาดูดุกร้าวเป็นคนกระด้าง น่ากลัวมากด้วยอะ แต่เธอก็ดันชอบไปแหย่เสืออย่างเขา ใครจะไปคิดเล่า ว่าตอนนี้เสือกำลังกลายร่างอ้อนยังกะลูกแมว แบบนี้เธอยิ่งระทดระทวยเพราะความที่เขาช่างอ้อนไม่เหมือนปลัดหาญชายคนดุ คนเดิม...เขาเงยหน้าขึ้นสบตาเธอ นัยน์ตานั้นอ่อนเชื่อม เวียงพิงค์ปรือตาขึ้นมองเขา...มือของเขาเลื่อนขึ้นมาเกลี่ยแก้มนุ่ม ก่อนจะเลื่อนกายขึ้นมากระซิบแนบปากอิ่ม “เด็กดื้อ พิงค์เป็นเด็กดื้อ ร้ายกาจ” ว่าเท่านั้นแล้วก็บดจูบลงมาอย่างดูดดื่ม เวียงพิงค์ตัวอ่อนจูบตอบเขา เคลิ้มหลงไปกับจูบอันหวานร้อนนั่น มือของเขาอีกข้างเลื่อนลงไปยังหน้าท้องนุ่มเนียน ไถลเรื่อยไปจนถึงกระดุมกางเกงยีนของเธอ ปลดมันออกทีละเม็ดอย่างใจเย็น ขณะที่ยังจูบเคล้าคลอสาวน้อย ปะเหลาะให้อยู่ในวังวนสวาท ที่คนไม่เคยสัมผัสรสลองลิ้ม ได้แต่เนื้อตัวสั่นในอ้อมกอดเขา และเผลอกายเผลอใจไปกับคนตัวโตหน้าดุ ยอมให้เขากอดจูบล่วงล้ำ 2 พี่ผู้ใหญ่จัดดุ น้องเมียคือสิ่งต้องห้าม! ผู้ใหญ่พลท่องไว้แบบนั้น พอเมียตายจากด้วยโรคร้าย เขาก็ต้องคอยเลี้ยงต้อย เอ๊ย เลี้ยงน้องเพราะเมียฝากฝังไว้ เจ้าหล่อนพึ่งจะขบเผาะ ส่วนเขา 34 เป็นพ่อหล่อนก็ยังได้ อะนะ... แต่พิษหวง พิษหึงมันทำเหตุ พี่ผู้ใหญ่เลยจับสาวน้อยมาจัดดุ เคลมเป็นของตัวเองเสียเลย โปรยปราย “โอ...กุ้งยังไม่เคยใช่ไหมถึงได้แน่นแบบนี้” “จะไปเคยกับใครล่ะ” สาวน้อยตอบเสียงอ่อย แล้วก็ทำตาโตเมื่อพอจะรับรู้แล้วว่าโดนพี่เขยจับฟัดแบบนี้ เพราะอะไร ไปเข้าใจอะไรผิดมาล่ะนั่น ไม่ไว้ใจกันเลยสินะ มือน้อยทุบอกเขาเบาๆ อย่างชักจะโมโห ตาที่อ่อนเชื่อมก็แข็งกร้าวขึ้นก่อนจะเอ็ดเขาเบาๆ “ออกไปเลยนะ อย่ามายุ่งกับกุ้งนะ อุ๊ย” “ออกไปไม่ได้ เข้าแล้วเข้าเลยนะกุ้งจ๋า อืม...นมสวยเหลือเกิน” ว่าแล้วก็ก้มลงฟัดเต้าขาวที่ล่อตาอีกหน ไม่สนว่าน้องจะทุบเขา กุ้งแก้วตอนแรกก็กะจะใจแข็งผลักเขาออก แต่โดนพี่ทั้งดูดทั้งคลึงแบบนั้นก็ปล่อยกายใจไปกับเขาอีกอย่างลืมตัว อะไรที่ค้างๆ คาๆ ไว้ตอนนี้มันก็ค่อยๆ เลื่อนเข้าทีละนิด ทีละนิด
พี่ปลัดสุดจัด บทที่ 1
เสียงกึกกักแปลกๆ และการควบคุมที่ผิดเพี้ยนไป เพราะรถส่ายเสียการทรงตัว จนทำให้คนขับสบถออกมาอย่างหัวเสีย...เขาคิดอยู่แล้วว่ามันจะต้องมีอะไรแปลกๆ ตั้งแต่ที่...ใครบางคนเดินป้วนเปี้ยนอยู่กับรถของเขา
ยัยตัวแสบประจำทุ่งหนองวัวแดง!
ปลัดหาญชายจอดรถที่กำลังส่ายจนเกือบเสียหลัก ไว้ข้างทางแล้วลงมาดูยางด้านหลัง แน่นอนว่ามันแบนทั้งสองล้อ ตะปูขนาดใหญ่บอกว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วก็คงมีคนเดียวนั่นแหละที่ทำแบบนี้
เด็กเวียงพิงค์
หาญชายเตะไปที่ล้อรถอย่างหัวเสีย เขาท้าวเอว ตามองไปรอบๆบริเวณ กว่าจะถึงบ้านพักของเขาอีกหลายสิบกิโลเมตร และบริเวณนี้ก็ห่างจากบ้านคนพอสมควรด้วยสิ แน่นอนว่าแม่ตัวดีคงกะแล้วว่าเขาจะมาทางนี้ถึงได้วางยาเขาไว้ หล่อนฉลาด หล่อนกล้า ปราดเปรียว และหน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตา
แต่แสบและร้ายกาจมาก
อายุไม่เท่าไหร่แต่วีรกรรมแซ่บเยอะเหลือเกิน หึ!
เขาเดินไปที่หน้ารถเพื่อหาโทรศัพท์ โลกตอนนี้มันพัฒนาแล้ว แน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมเดินไปขอความช่วยเหลือให้เหนื่อยหรอก ปลัดหนุ่มคว้าเอากระเป๋าสะพายที่ตนใช้ประจำยามออกตรวจ แล้วเปิดซิปด้านหน้าที่เขาใช้เก็บโทรศัพท์ไว้ ก่อนจะขมวดคิ้ว เมื่อควานดูไม่พบกับโทรศัพท์ กลับดันเจอกระดาษแทนเลยล้วงเอาออกมาดู
ปลัดลืมโทรศัพท์ไว้ที่นี่นะคะ อยากจะบอกแต่ว่าเกรงใจน่ะค่ะ เลยเขียนโน้ตให้แทน
เวียงพิงค์
"อื้อหึ เล่นกันแบบนี้หรือเด็กแสบ"
เขาพึมพำ แล้วขยำกระดาษโน้ตโยนทิ้งไปในรถ ตามองไปยังทางลูกรังที่ทอดยาว มีต้นไม้รกครึ้มสองข้างทาง ตอนนี้เวลาพลบค่ำแล้ว แน่นอนล่ะ เขามีทางเลือกสองทาง คือเดินกลับไปยังบ้านของแม่ตัวร้ายนั่น หรือไม่ก็เดินกลับไปบ้านพักของตนเอง
ด้วยระยะห่างและอารมณ์ตอนนี้ เขาเลือกเดินกลับไปหาเวียงพิงค์
เดี๋ยวเถอะน่า จะได้รู้จักปลัดหาญชาย ว่าใครจะมาแหย่หยอกกระตุกหนวดเสือเล่นไม่ได้ง่ายๆ
.................
"พี่ไปแกล้งปลัดแกแบบนั้น เดี๋ยวแกก็มาจัดเอาหรอก"
ไม้มองลูกพี่ ที่เป็นสาววัยยี่สิบตัวกระทัดรัด หล่อนอยู่บนต้นไม้กำลังปีนเก็บมะม่วงสุก โดยมีเขาเป็นลูกมืออยู่ข้างล่าง
แน่ล่ะว่าเขากับลูกพี่เพิ่งไปก่อวีรกรรมกับรถของปลัดอำเภอหาญชายมา ข้อหาที่เวียงพิงค์บอกว่าเราจะต้องจัดการอีตาปลัดใหม่ขี้เก๊กคนนี้นั่นก็คือไม่ถูกชะตาอย่างแรง
จะให้ถูกชะตาได้ยังไง ก็เล่นมาฟ้องพ่อกำนัน ว่าลูกสาวตัวร้ายทำการเปิดบ่อนชนไก่ลับๆ ที่หลังป่าช้า...หมดกันรายได้ของเธอ เอ่อเห้อ กำลังมีลูกค้าดีๆ เลยเชียว แล้วแบบนี้เธอจะฝึกได้พญาลอไปเพื่ออะไร พญาลอคือชื่อไก่ชนตัวโปรดของเวียงพิงค์ ที่ได้ทำการฝึกซ้อมขุนกันมาเป็นอย่างดี ไก่สวย ชนะมาสองเวที ค่าตัวแรงพอสมควรมีคนอยากมาซื้อต่อ แต่เธอไม่ขาย เลยโดนหมายปองร้ายจากผู้ใหญ่วรรณ ที่เปิดบ่อนไก่ และมีไก่ชนตัวเอกอยู่ไก่ชนของเขาแพ้ไก่ของเวียงพิงค์ เลยอยากได้ไก่ของเธอ ขอซื้อเวียงพิงค์ก็ไม่ขาย แถมยังด่าอีกต่างหาก สร้างความคับแค้นให้กับผู้ใหญ่วรรณ ที่เมื่อไม่ได้ ก็ตั้งท่าจะเป่าไก่ตัวโปรดของเวียงพิงค์ให้ดับดิ้นสิ้นชื่อไปเสียเลย
แบบนี้ยังไงล่ะเธอถึงเอาเจ้าตัวโปรดไปชนที่บ่อนของผู้ใหญ่วรรณ และละแวกนี้ไม่ได้ เพราะกลัวว่าเจ้าพญาลอจะสิ้นชื่อเอา ผู้ใหญ่วรรณจะตุกติกทำอะไรไก่เธอไหมล่ะ? ถ้าเกิดเธอไปถิ่นเขา แม่ตัวแสบเลยแอบเปิดบ่อนไก่ขึ้นเสียเลย เปิดมาได้ไม่กี่อาทิตย์ กำลังดีๆ ก็มีมารมาผจญ
นึกถึงหน้าเขาแล้วเวียงพิงค์ก็ย่นจมูกน้อยๆ ปลัดหาญชาย เพิ่งย้ายมาใหม่ ไฟแรงเอาการ ฟังจากพ่อว่า...หมอนี่ดูจะซอกแซก ซอกซอน และทำความวุ่นวายให้พวกที่ทำธุรกิจสีเทาอยู่ในอำเภอนี้แน่ล่ะ
ไฟก็แรงแต่แรกๆ ล่ะว้า...
เห็นมาหลายคนแล้ว พอเจอเงินง้างเข้าก็อ่อน นอนกินเงิน หลับหูหลับตาไปเสียหมดนั่นแหละ
เวียงพิงค์คิดอย่างหมิ่นๆ
"โอ๊ย คนอย่างพี่กลัวที่ไหนล่ะ ไอ้ไม้ โด่...ถ้ากลัวก็คงไม่ทำอะ เอ้า...รับ"
เธอโยนมะม่วงห่ามมาให้ลูกน้องที่คอยรับอยู่ด้านล่าง ไม้วิ่งรับแล้วเอาไปกองรวมกันไว้ เพื่อเตรียมบ่ม ของโปรดของพ่อกำนันนั่นแหละลูกสาวถึงได้ปีนเก็บให้กับมือแบบนี้
"ลูกพี่ไม่กลัวก็ดี แต่ระวังตัวก็ดีเด้อ จะหาว่าไอ้ไม้ไม่เตือน หูตาแกวับๆ เอาเรื่องนา"
"เอาเรื่องแบบไหนล่ะ" ยัยตัวแสบยักคิ้ว
"หึ...ถ้ามายุ่งมากเข้าอย่าหาว่าแม่ไม่เตือน"
"ใครๆ ก็กลัวเกรงลูกพี่แหละ"
ไม้ออกลูกรับ ยอลูกพี่ไว้ก่อน เวียงพิงค์เลยยิ้มชอบใจพร้อมกับตบไหล่เขาเบาๆ
"หึ...พูดดี ถูกใจ เอามะม่วงไปบ่มกัน เดี๋ยวพี่จะได้เอาไว้ทำข้าวเหนียวมะม่วงให้พ่อ"
"หูย ข้าวเหนียวมะม่วงฝีมือลูกพี่"
ไม้ถึงกับน้ำลายสอรอ เวียงพิงค์ถึงจะห้าว จะห่าม เกินหญิงไปบ้าง แต่มีฝีมือปลายจวัก เรียกได้ว่ากินเข้าไปแล้วต้องเคลิ้ม แต่นานๆ ทำทีเพราะเจ้าหล่อนเอาเวลาไปทำอย่างอื่นมากกว่า ยิ่งตอนนี้มุ่งมั่นหาเงินเป็นอย่างมาก จนถึงกับแอบทำอะไรสีเทาๆ เสี่ยงกับการโดนพ่อด่าก็ทำ
เป้าหมายของเวียงพิงค์ค่อนข้างจะยิ่งใหญ่เลยแหละ
แล้วเธอจะต้องทำให้สำเร็จโดยไม่เลือกวิธีการเสียด้วยสิ
อีตาปลัดหาญชายกล้ามาจุ้นกับหนทางหาเงินของเธอ แค่สั่งสอนไปนิดๆ หน่อยๆ ถือว่าเบาๆ ถ้ามาหนหน้ายุ่งกับธุรกิจเธออีกล่ะก็เจอจัดหนักให้เข็ดแน่ๆ ล่ะ
ยัยตัวร้ายคิดแล้วยักไหล่ ก่อนจะชวนลูกน้องหอบมะม่วงเข้าไปด้านหลังครัว