ซีรีส์หวานนักรักนี้

56.0K · จบแล้ว
B.J.
28
บท
2.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

หวานนักรักนี้ ประกอบด้วย 1. เพื่อนรักษ์ที่เรียกว่าแฟน 2. พลิกล็อกรัก

นิยายรักโรแมนติก

1

Chapter 1

รักษ์ เทพรักษา กำลังวิ่งหน้าตั้งยิ้มแฉ่งมาหาเอื้องจันทร์ เพื่อนสนิทของเขาที่รู้จักกันตั้งแต่ปีหนึ่ง เธอเรียนคณะทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่วนเขาเรียนคณะเกษตรศาสตร์

วันนี้รักษ์มามหาวิทยาลัยสายเล็กน้อย เพราะทะเลาะกับวิญญาณผี เด็กน้อยที่ชื่อวุ้น วุ้นเป็นเด็กน้อยข้างบ้านที่เสียชีวิตกะทันหัน แต่วิญญาณไม่ได้ไปไหน ชอบมาให้เขาเห็นบ่อยๆ มาขอให้เขาทำบุญไปให้เพราะอยากกินโน่นกินนี่ เขาก็ทำบุญไปให้บ่อยๆ เพราะต้องทำบุญไปให้บิดามารดาอยู่แล้ว จึงทำบุญเผื่อเด็กวุ้นด้วย เขามีน้ำใจกับวุ้น ผีเด็กน้อยจึงคอยช่วยเหลือเขาอยู่ตลอด แถมยังคอยยุให้เขาจีบเอื้องจันทร์แทนที่จะไปชอบฤดี แต่เขาก็ดุกลับไปว่าเป็นแค่เพื่อนกัน

“พี่เอื้องน่ารักจะตายไป” นั่นเป็นประโยคที่ผีเด็กวุ้นพูดกับเขาบ่อยๆ

รักษ์เคยช่วยเอื้องจันทร์เอาไว้จากการโดนกระชากกระเป๋าเมื่อหลายปีก่อน ทำให้ทั้งสองเป็นเพื่อนกัน รักษ์อยู่ตัวคนเดียว ส่งเสียตัวเองเรียน จึงทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย บิดามารดาของรักษ์เสียชีวิตตั้งแต่รักษ์ขึ้นปีสอง

เอื้องจันทร์นั้นเป็นเด็กสาวบ้านป่าเข้ามาเรียนในเมืองใหญ่ เธอมีเพื่อนสนิทอีกหนึ่งคนที่เรียนต่างคณะกัน แต่ก็อาศัยอยู่ด้วยกันเพราะเป็นเด็กต่างถิ่นเหมือนกันชื่อว่าฤดี ฤดีเป็นสาวสวยอดีตดาวคณะ มีหนุ่มๆ มารุมจีบมากมาย เธอเป็นสาวชาวกรุงที่ย้ายมาอยู่ต่างจังหวัด มาเรียนไกลถึงที่นี่เพราะเคยอกหักเลยอยากหนีจากจุดเกิดเหตุ มาเรียนมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้คิดว่าจะเรียนตั้งแต่แรก

“เป็นยังไงบ้างรักษ์ ช่วงนี้งานยุ่งเหรอ” เอื้องจันทร์เอ่ยถามเพื่อนที่แอบรักมานานหลายปี แต่เพื่อนของเธอดันไปชอบฤดีแทนที่จะเป็นเธอ ทำไมเธอจะไม่รู้ว่ารักษ์ชอบฤดีมากขนาดไหน

เมื่อรู้ว่าไม่มีสิทธิ์ คนแอบรักจึงได้แต่เก็บความรู้สึกนั้นเอาไว้ลึกๆ ในใจ

“ยุ่งมาก ต้องอ่านหนังสือสอบด้วย เพราะใกล้สอบแล้ว สอบรอบนี้ก็เรียนจบแล้วนะ” รักษ์พูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เขาอยากเรียนจบไวๆ เพราะจะได้ทำงาน ทำตามฝันที่ตัวเองหวังเอาไว้

“รักษ์เก่ง ขนาดเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยยังสอบได้เอเกือบทุกวิชาเรียนจบได้เกียรตินิยมแน่ๆ เลย”

“ฤดีไม่มาด้วยเหรอ” รักษ์เอ่ยถามถึงหญิงสาวที่เขาแอบชอบมานาน หลายปี แต่ไม่เคยกล้าบอกความในใจสักที เวลามีเทศกาลต่างๆ ก็แอบฝากของขวัญไปให้โดยที่ไม่ให้เจ้าตัวรู้ ของขวัญของเขาเป็นของขวัญชิ้นเล็กๆ ราคาไม่แพงมากนัก ปะปนกับของขวัญชิ้นใหญ่ๆ ของหนุ่มคนอื่นๆ

“ไม่ได้มาด้วยกันหรอก ฤดีมีเรียนช่วงบ่าย แหม... น่าน้อยใจจังเลย มาถึงก็ถามหาแต่ฤดี”

“น้อยใจอะไรกันล่ะ เราก็แค่ถามถึงเท่านั้นเอง”

“ชอบฤดีมากเหรอรักษ์”

“อืม... เธอเองก็รู้ว่าเราแอบชอบฤดีมานานแล้ว แต่ไม่กล้าบอก”

“ใกล้เรียนจบแล้ว ไม่คิดที่จะสารภาพรักกับฤดีเหรอ” คนอยากรู้เลียบๆ เคียงๆ ถาม

“เราไม่กล้าหรอก” คนขี้อายลูบท้ายทอยไปมา

“ไม่กล้าแล้วเมื่อไหร่จะได้บอกล่ะ เรียนใกล้จบแล้วนะ พอเรียนจบทุกคนก็ต้องแยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง อาจจะไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกแล้ว”

แม้แต่เอื้องจันทร์เองก็ใจหายไม่น้อยที่จะไม่ได้เจอกับรักษ์อีก

“จะให้เราเริ่มยังไงดีล่ะ”

“เราช่วยเอาไหม”

“ช่วยยังไงเหรอ”

“ลองสมมุติว่าเราเป็นแฟนสิ”

“สมมุติว่าเอื้องเป็นแฟนเหรอ”

“ใช่ เช่นไปดูหนังด้วยกัน ไปกินข้าวด้วยกัน มีกิจกรรมทำร่วมกัน หัดเอาไว้ พอสารภาพรักกับฤดีก็ทำแบบนี้กับฤดีเลย” คนอยากมีโมเมนต์น่ารักๆ แบบนั้นกับรักษ์เอ่ยขึ้น แม้จะเป็นแค่แฟนหลอกๆ แต่เธอก็ยังอยากเก็บความรู้สึกดีๆ แบบนี้เอาไว้เป็นความทรงจำครั้งหนึ่งว่าเคยเป็นแฟนกับเขา เคยไปดูหนังด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกันในฐานะแฟน เอื้องจันทร์มองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตารักใคร่ แต่รักษ์ไม่เคยได้สังเกตเห็นมันเลยสักครั้ง

“ขอบใจเอื้องมากนะ แล้วเราจะเริ่มยังไงก่อนดี” รักษ์เอ่ยถามเพื่อน

“เริ่มจากเลิกเรียนเย็นนี้ เราไปกินข้าวกันดีไหม”

“ก็ดีนะ เย็นนี้วันหยุดพอดี” เขาทำงานพาร์ทไทม์ มีวันหยุดของร้านให้ด้วยหรือถ้ามีเหตุจำเป็นก็ขออนุญาตเจ้าของร้านได้เพราะกันเอง ไม่ได้มีปัญหาอะไร

แม้เขาจะทำงานหลังเลิกเรียนก็ได้หยุดอาทิตย์ละหนึ่งวัน นอกจากทำงานหลังเลิกเรียนแล้วเขายังทำงานอย่างอื่นด้วย ทั้งทำงานห้องสมุด ทั้งช่วยแจกใบปลิว รับจ้างพิมพ์งาน ทำงานปั๊ม หรือรับเช็กสต็อกของให้ร้านก็ยังมี เรียกว่าทำงานทุกอย่างให้ได้เงิน แต่เป็นงานสุจริตเพื่อที่จะได้มีเงินเรียน ดีหน่อยที่ก่อนจากไปบิดามารดาทิ้งบ้านเอาไว้ให้เขาหลังหนึ่ง จึงไม่ต้องเสียค่าเช่า แต่ท่านก็ทำงานรับจ้างทั่วไป จึงไม่ได้มีเงินเก็บอะไรมากมาย ดีหน่อยตรงที่ไม่มีหนี้สินเท่านั้น ที่เขาเลือกเรียนเกษตรศาสตร์เพราะอยากมีที่ดินเป็นของตัวเอง อยากปลูกทุกอย่างที่กินได้ ทำสวนทำนา มีชีวิตที่สงบสุขและอยู่ในที่อากาศดีๆ เขาอยากพาพ่อแม่ไปอยู่ด้วยกันเมื่อบั้นปลาย อยากมีครอบครัวเล็กๆ มีลูกๆ น่ารักสักสองถึงสามคน นั่นคือความใฝ่ฝันของเขา แต่บิดามารดาไม่ทันได้เห็นความสำเร็จของเขา ก็มาด่วนจากไปเสียก่อน

ที่เขาทำงานเป็นบ้าเป็นหลังและตั้งใจเรียนไม่ใช่เพราะอยากมีเงินเรียนอย่างเดียว แต่เพราะอยากมีเงินเก็บเอาไว้ซื้อที่ดินผืนเล็กๆ เผื่อไว้ตอนเรียนจบเขาจะย้ายไปอยู่ที่นั่น และทำเกษตรอย่างเต็มตัว เขาหลงใหลธรรมชาติ รักต้นไม้ ป่าเขาลำเนาไพร กิจกรรมที่ทำระหว่างศึกษาคือค่ายอาสาพัฒนา ปลูกต้นไม้ และอะไรที่ทำเพื่อสิ่งแวดล้อมเขาจะทำมันทุกอย่าง เขาคิดว่าทรัพยากรธรรมชาติคือชีวิต คือลมหายใจ สำหรับเขาเงินทองเป็นมายาคือกระดาษที่เป็นอัตราแลกเปลี่ยนเท่านั้น ถ้าไม่มีทรัพยากรธรรมชาติ ต่อให้มีกระดาษที่เรียกว่าเงินเยอะแค่ไหน เราก็ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้

เขาไม่ได้ต้องการงานประจำที่ต้องทำงานไปเช้าเย็นกลับ แต่อยากมีอาชีพอิสระที่ได้อยู่กับธรรมชาติ จะเรียกว่าเขามักน้อยก็ได้ แต่เขาคิดว่าเงินมีความสำคัญน้อยกว่าทรัพยากรธรรมชาติ ถ้าหากเราไม่มีทรัพยากรธรรมชาติ ไม่มีอากาศดีๆ น้ำดีๆ ถึงมีเงินก็แค่กระดาษแผ่นหนึ่งที่ไร้ค่า จะเอาเงินมาแทะกินยังไม่ได้เลย ความคิดของเขาค่อนข้างสุดโต่ง เขารู้ข้อนี้ดี และไม่มั่นใจว่าผู้หญิงที่จะมาเป็นภรรยาของเขาจะรับได้ไหม นั่นทำให้เขาไม่มั่นใจว่าฤดีจะตกลงรับรักเขาไหม เขาจึงไม่เคยกล้าสารภาพว่าชอบเธอ แต่ส่วนลึกเขาก็ยังแอบหวังว่าเธออาจจะชอบชีวิตเรียบง่ายอย่างที่เขาชอบ

“งั้นตกลงตามนี้นะ เย็นนี้เราจะมารอตรงนี้นะ” ตรงนี้คือม้าหินอ่อนทางเข้ามหาวิทยาลัย เป็นสถานที่สำหรับนั่งพักผ่อนหรือนัดเจอกัน รักษ์พยักหน้าให้เพื่อนด้วยสีหน้าตื่นเต้นไม่น้อย

“งั้นเราขอตัวก่อนนะ” เอื้องจันทร์เอ่ยขอตัว พอหันหลังให้เพื่อนก็อมยิ้มแทบจะทันที ใกล้เรียนจบแล้วเธอจะได้ออกเดตกับรักษ์เป็นครั้งแรก หรืออาจจะเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับเธอ แต่เธอก็ขอเก็บความรู้สึกดีๆ นี้เอาไว้ในหัวใจ

ใช่ว่าไม่เคยไปกินข้าวด้วยกัน แต่ไปในรอบนี้คือไปในสถานะแฟน ทำให้เธอตื่นเต้นไม่น้อย

แกไม่เอา ฉันเอานะ

นั่นเป็นประโยคที่เอื้องจันทร์บอกเพื่อนในใจ เธอเคยคุยเรื่องรักษ์กับฤดีแล้ว ฤดีก็รู้ว่ารักษ์ชอบตน แต่ฤดีไม่ได้ชอบรักษ์แบบนั้น และยังรู้ด้วยว่าเธอแอบชอบรักษ์มานานแล้ว ฤดีเลยยุส่งให้เธอวางแผนไปออกเดตกับรักษ์เสียเลย ซึ่งเธอก็เห็นด้วยและยินดีทำตามแผนของเพื่อน เพราะถึงแม้ฤดีจะดูเจ้าชู้ แรงๆ มีผู้ชายมาชอบมากมายแบบว่าสวยเลือกได้แต่ก็มีความจริงใจระดับหนึ่ง ฤดีจึงเป็นเพื่อนที่ดีของเธอคนหนึ่งตลอดสี่ปีที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยแห่งนี้

ใช่ว่าเธอจะสวยน้อยกว่าฤดี เพราะมีหนุ่มๆ มาตามจีบมากมาย แต่เพราะเธอไม่เคยชอบใครจริงจัง นอกจากรักษ์ ผู้ชายหน้าตาซื่อๆ ที่เคยช่วยเธอเอาไว้เมื่อสี่ปีก่อน เธอยกหัวใจดวงนี้ให้เขาหมดทั้งดวงแล้ว