#คุณแสนร้าย บทที่ 3 แค่นางบำเรอ
เที่ยงวันที่มหาวิทยาลัย
“ หนึ่ง แกดูสิ ชุดนี้เซ็กซี่ม้าก ฉันจะซื้อมาไว้ใส่ต้อนรับตอนผัวกลับมาจาก’เมกา รอบหน้า แกว่าไง ” เสียงของเพื่อนชายใจหญิงผู้ล่ำสันของหนึ่งฤทัยเรียกขึ้น นางชื่อจิตรกร ชื่อเล่นคือเจ แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็น เจนี่ ซึ่งนางกำลังกินมื้อเที่ยงอยู่กับหนึ่งฤทัยซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันและมือกำลังสไลด์หน้าจอมือถืออยู่
“ หนึ่ง ” เจนี่เรียกอีกทีเมื่อไม่ได้ยินอีกฝ่ายตอบรับและยังคงเงียบ จึงเงยหน้าจากมือถือไปมองเพื่อนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม พบว่าเจ้าหล่อนกำลังยกแก้วชาเขียวขึ้นดูดแต่หลอดนั้นไม่ได้ลงถึงน้ำชาเขียว มันลอยเหนือน้ำ ส่วนดวงตานั้นเหม่อมองไปในอากาศอย่างไม่มีจุดหมาย
“ อีหนึ่ง ! ” เจนี่จิกเสียงเรียกดังขึ้นจนเพื่อนสะดุ้งเฮือก
“ อะไรของแกวะเจนี่ เสียงดัง ตกใจหมดเลย เบา ๆ ก็ได้ นี่โรงอาหารนะโว้ย เกรงใจคนอื่นหน่อย ” เจนี่เบ้ปาก เหลือบตามองบน
“ ก็ฉันน่ะเรียกแกแบบผู้ดิบผู้ดีมาสองสามหนึ่งแล้ว แต่แกก็ยังไม่ได้ยิน ไม่รู้วิญญาณออกจากร่างไปไหนต่อไหน ”
“ วิญญาณออกจากร่างอะไร แกก็พูดไปเรื่อย ”
“ เหรอ แกไม่ได้ดูดชาเขียวเลยนะ ดูดอากาศอยู่ รู้ตัวไหม ” หนึ่งฤทัยไม่ได้ตอบ ทำเพียงหลบตาแล้ววางแก้วลงบนโต๊ะ
“ แกเป็นอะไร มีอะไรก็บอกกันมาสิ ”
“ เปล่า ”
“ โอ๊ย อมโบสถ์มาพูดฉันก็ไม่เชื่อ สภาพดูไม่ได้ ดวงตาเลื่อนลอยเหมือนไร้วิญญาณขนาดนี้ ”
“ ฉัน... ไม่รู้จะเริ่มยังไง ”
“ หนึ่ง แกไม่ไว้ใจฉันเหรอ ” เจนี่ว่า คำพูดนั้นทำให้หนึ่งฤทัยเงยหน้าขึ้นมองตาอีกฝ่าย และนางกำลังจ้องมาด้วยแววตาเคร่งเครียด
“ ไว้ใจ แต่เรื่องบางเรื่องฉันก็ลำบากใจที่จะพูด ”
“ อย่างเรื่องที่แกนอนกับคุณแสนน่ะเหรอ ”
คำพูดของเพื่อนทำให้หนึ่งฤทัยลนลานจนมือเผลอปัดแก้วชาเขียวคว่ำ อีกฝ่ายต้องช่วยเก็บและเช็ดทำความสะอาด
“ แก... รู้เหรอเจนี่ ” เจนี่ถอนใจยาวก่อนจะพยักหน้า
“ เวลาที่แกพูดถึงเขา ดวงตามันเป็นประกายเหลือเกิน ไม่พูดออกมาฉันก็รู้ แล้วอาการแกน่ะไม่สนผู้ชายคนอื่นที่มาขายขนมจีบเลย ต่อให้ดีให้เริ่ดแค่ไหนแกก็เฉย ๆ ฉันยังแอบเสียดายแทน ” เจนี่ว่า
เพราะหนึ่งฤทัยเป็นคนสวย ผิวขาว หุ่นทรงนาฬิกาทราย ผมยาวสลวยดำขลับถึงกลางหลัง มันดูน่ามอง มันมีเสน่ห์และดึงดูดผู้ชายหลายคนให้เข้าหาแต่ก็ต้องผิดหวังกลับไปทุกรายเพราะเธอไม่สนใครทั้งนั้น
“ แล้วยังไง เขามีคนอื่นหรือว่ายังไง ทะเลาะกันเหรอ ”
หนึ่งฤทัยกลืนน้ำลายลงคอก่อนตอบกลับ
“ ฉันไม่มีสิทธิ์อะไรจะไปทะเลาะกับเขา แกก็รู้ว่าฉันก็แค่เด็กบ้านนอกที่ได้รับอุปการะจากคุณท่านสิริ แม่ของคุณแสน ทั้งการเรียนทั้งที่อยู่ ”
“ แต่แกก็มีสิทธิ์ในตัวเองนะ เขาไม่ได้เป็นเจ้าชีวิตแกเสียหน่อย คบหากัน เป็นแฟนกันก็ทะเลาะกันเรื่องธรรมดา ”
“ ฉัน... ไม่ได้อยู่ในฐานะแฟนของคุณแสน ไม่ได้มีฐานะอะไรเลย ” คำตอบแผ่วเบาน้ำเสียงแห้งแล้งนั้นทำให้เจนี่พอจะเดาออก และเอื้อมมือไปกุมมือเพื่อนที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างสงสารและเห็นใจ
“ ฉันเป็นแค่นางบำเรอของคุณแสน ” ในที่สุดหนึ่งฤทัยก็พูดมันออกมา
“ นี่แม่เขารู้หรือเปล่า ”
“ ต่อหน้าคนอื่นคุณแสนไม่ได้แสดงออกอะไรทั้งนั้น ”
“ กินแค่ในที่ลับว่างั้น ” หนึ่งฤทัยพยักหน้าแทนคำตอบ
“ เห็นแก่ตัวฉิบหาย มันทำแบบนี้ได้ยังไงวะ เห็นว่าเป็นเด็กในบ้านแล้วจะทำยังไงก็ได้อย่างนั้นเหรอ ฉันไม่ยอมหรอก แกต้องออกมาจากที่นั่นนะ ร่างกายของเราเป็นของเรา จะปล่อยให้มันกินฟรีสึกหรอไปเรื่อย ๆ ไม่ได้ ”
“ เอ่อ อันที่จริงคุณแสนก็ไม่ได้นอนกับฉันเปล่า ๆ หรอก เขาให้เงินใช้รายเดือนด้วย ”
“ เหรอ เท่าไร ”
“ ก็ไม่แน่นอนในแต่ละเดือน ”
“ หึ มันก็คงเอาเศษตังค์ให้ประสาผู้ชายเห็นแก่ตัวสินะ ”
“ ก็พอสมควรอยู่ สองปีนี้ฉันมีเงินเก็บล้านกว่าบาท ”
“ ฮะ ! ” เจนี่ยกมือขึ้นปิดปาก ทำตาโต
“ ฉันขอถอนคำพูดที่ว่าคุณแสนเห็นแก่ตัว อโหสิให้คำพูดพล่อย ๆ ของเจนี่ด้วยนะคะ คุณแสน ” นางว่าพลางยกมือขึ้นไหว้ท่วมหัว เรียกเสียงหัวเราะจากหนึ่งฤทัยออกมาได้เบา ๆ
“ แล้วยังไง เขาจะเลิกเลี้ยงแกหรือยังไง ถึงได้มาทำหน้าซังกะตายแบบนี้ ” หนึ่งฤทัยนิ่งไปพักหนึ่งก่อนโพล่งออกมา
“ เขาจะแต่งงาน ”
“ ว้าย ! ” เป็นอีกครั้งที่กะเทยตาเหลือก ทั้งคู่นั่งนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ก่อนที่เจนี่จะพูดออกมา
“ แล้วยังไงต่อวะ คือแกเสียใจที่เขาแต่งงาน จะไม่เลี้ยงแกต่อหรือว่ายังไง ”
“ เขาไม่ได้พูดอะไรหรอก แต่ฉันก็รู้สึกว่าควรจะออกมา ”
“ ไม่เห็นจะต้องออกมาเลย แกก็อยู่นั่น อยู่ในที่ของแกเงียบ ๆ เก็บเงินไปเรื่อย ๆ สิวะ ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก ” แต่คิ้วสวยที่มุ่นอยู่ตลอดและแววตาแห้งผากนั่นก็ทำให้เจนี่ต้องเปลี่ยนคำพูด
“ หรือว่าแกคิด ”
“ ฉัน... ”
“ แกรักเขา ”
“ ... ”
“ แล้วแกก็รักอยู่ฝ่ายเดียวด้วย แต่เขาไม่ได้คิดอะไรเลย ”
“ ก็ไม่ได้ขนาดนั้น ”
“ จะเอายังไงต่อ ”
“ ฉันรู้สึกผิด เมื่อก่อนเขาไม่มีใคร แต่ตอนนี้เขาจะแต่งงานมีภรรยาอย่างถูกต้องและเหมาะสมคู่ควร เป็นคนที่คุณสิริเลือกให้เอง ” น้ำเสียงนั้นสั่นเครือเพราะความน้อยเนื้อต่ำใจ เจนี่มองเพื่อนอย่างสงสาร
“ ฉันเข้าใจแกดี ความสัมพันธ์แบบนี้มันก็คล้ายกับ Friend with benefit ที่ต่างคนต่างสนุก ต่างได้ผลประโยชน์จากกันแต่ไม่มีสถานะ แต่มันมีกฎอย่างหนึ่งรู้ไหม ”
“ กฎอะไรวะ ”
“ กฎที่ว่าไม่ควรรู้สึกอะไรมากไปกว่าเซ็กส์ ไอ้ความสัมพันธ์แบบนี้น่ะ ใครรู้สึกก่อนก็แพ้ มีแต่เจ็บเท่านั้น ”
ในใจแปลบปลาบหนักหน่วงขึ้นทันทีที่เพื่อนพูดจบ
ใช่ เจนี่พูดถูกทุกประการ