#คุณแสนร้าย บทที่ 2 เธอไม่ได้ชอบเบา ๆ หรอก
“ ฉันคิดถึงเธอ ไม่ได้เอาตั้งหลายวัน ”
“ พรุ่งนี้หนึ่งมีเรียนเช้า ” เธอบอกเพื่อเป็นการปฏิเสธกลาย ๆ
“ คิดว่าฉันสนหรือไง ”
เขาตอบกลับมาหน้าตาเฉย ดวงตากลมโตที่มีขนตางอนเป็นแพประดับอยู่จ้องมองเขาอย่างไม่พอใจ เขารับรู้ความรู้สึกนั้นได้
“ ไม่คิดถึงกันบ้างเหรอ ”
“ เราไม่ควรทำแบบนี้กันอีก หนึ่งขอตัวค่ะ ” พูดพลางจะเดินหนีแต่ถูกกระชากแขนทีเดียวก็ปลิวหวือมาปะทะร่างเปลือยของเขาแล้ว
“ อะไรควรไม่ควรฉันตัดสินเองได้ ฉันอายุสามสิบเอ็ด ไม่ใช่สามขวบ ”
ปากพูด มือก็ไม่อยู่นิ่ง ซุกซนปล้ำถอดชุดนอนผ้านุ่มของเธอ แต่คราวนี้เจ้าตัวไม่ได้ศิโรราบเช่นที่ผ่านมา เธอทั้งผลักทั้งดันพัลวัน
แต่อาการต่อต้านที่คนเงียบ ๆ อยู่ในโอวาทมาตลอดที่หนึ่งฤทัยแสดงออกมานั้นกลับกระตุ้นให้ชายหนุ่มยิ่งพลุ่งพล่านหนัก เขาทั้งปลุกปล้ำกระชากดึงจนกระทั่งถอดเสื้อนอนและกางเกงนอนชั้นนอกออกมาได้ เหลือเพียงกางเกงชั้นในตัวเดียว ส่วนบราเซียนั้นเธอไม่ได้สวมเวลาจะนอนเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
“ อย่านะ คุณแสน ! ” เธอต่อต้านสุดฤทธิ์ แต่มีหรือหญิงสาวอรชรอ้อนแอ้นจะสู้แรงชายฉกรรจ์สูงเมตรแปดสิบห้าที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอได้
“ กล้าดื้อกับฉันเหรอหนึ่ง ”
“ หนึ่งบอกให้ปล่อยไง ”
“ เดี๋ยวก็รู้ว่าจะดื้อไปได้สักกี่น้ำ ”
ร่างอวบอัดถูกกดลงบนโต๊ะหินอ่อนสีดำข้างเคาน์เตอร์บาร์ สองแขนถูกสองมือแข็งแรงของเขากดตรึงไว้เหนือศีรษะด้วยมือข้างเดียวไม่ให้ดิ้นรนต่อสู้ได้ ส่วนอีกมือหนึ่งเขาซุกเข้าใต้ชั้นในของเธอแล้วสอดลึกสองนิ้วเข้าสู่ภายใน
“ อื้อ ” เธอเผลอเล็ดลอดเสียงร้องออกมาทั้งที่กัดริมฝีปากไว้แน่น เขาขยับข้อมือให้สองนิ้วเคลื่อนเข้าออกในกายเธอไม่หยุด
“ แฉะขนาดนี้จะห้ามฉันทำไมนะ ”
คำพูดพร้อมรอยยิ้มเย้ยหยันนั้นมันทำให้เธอต้องอับอาย ใจเธอ ปากเธอ ความคิดเธอที่มีศีลธรรมกำกับบอกว่าไม่ แต่ร่างกายกลับทรยศทุกสิ่งอย่าง
มันห้ามยาก แค่เห็นเขาเธอก็เปียกฉ่ำแล้ว
สองขาที่ถีบดิ้นต่อต้านเริ่มอ่อนแรงกลายเป็นกระหวัดเกี่ยวไปที่เอวสอบ โต๊ะหินอ่อนมันเย็นเฉียบทำให้ร่างเปลือยของเธอพลอยหนาวเย็นไปด้วย แต่ความฉ่ำร้อนตรงกลางระหว่างขาที่เขากำลังใช้นิ้วพร่างพรมมันทำให้เหงื่อออกชุ่มกายในคราวเดียวกัน และมันยิ่งไหลพรากมากขึ้นเมื่อเขาปล่อยสองมือเธอให้เป็นอิสระ ก่อนฉกปากวูบมาบนเนินเนื้อที่นิ้วสอดซุกอยู่นั้น
เขาขบ เขาเม้มดูดแรง ๆ ไปบนบริเวณสองพูอวบและเกสรกระสันกลางกลีบ ใช้ปากและลิ้นขยี้ละเลงเลีย พร้อมกับขยับนิ้วชักเข้าออกในโพรงนุ่มหนึบ สัมผัสเริงร้อนที่เขาสอนให้ร่างกายเธอตอบรับอัตโนมัติอย่างสาแก่ใจ จากผลักใสกลายเป็นยกสองขาขึ้นพาดไหล่หนา กดศีรษะทุยให้ใบหน้าหล่อเหลาจมลึกมากขึ้น ซึ่งแม้จะมีผ้าบาง ๆ สีขาวของชั้นในเป็นปราการแต่มันก็ไม่ได้ลดทอนความซ่านเสียวลงเลย
“ อีกนิดเดียวค่ะ อีกนิด ” ออดอ้อนเสียงหวานแต่เขาไม่ปล่อยให้เธอสุขสม เขาหยัดยืนขึ้นแล้วดึงสะโพกอวบให้มาอยู่ที่ขอบโต๊ะ แหวกชั้นในไปอีกทางแล้วเสือกไสตัวเองเข้าไปในตัวเธอจนหมดในคราวเดียว
“ เจ็บค่ะ ” เธอมุ่นคิ้วแล้วใช้สองมือดันหน้าขาของเขาไว้ เป็นภาษากายว่าให้ยั้งก่อน
หากจังหวะโจนจ้วงไม่ได้เบาลง ไม่ได้ถดถอย แต่กลับหนักแน่นเข้าสุดออกสุด จนเธอต้องวอนขออีกครั้ง
“ หนึ่งเจ็บค่ะคุณแสน เบา ๆ ก่อน ”
สิ่งที่หนึ่งฤทัยได้กลับมาคือรอยยิ้มมุมปากที่ผุดพรายขึ้นบนใบหล่อเหลาคมเข้ม ส่วนที่ขอว่า ‘ เบา ๆ ก่อน ’ นั้น มันไม่ได้เกิดขึ้นเลย
“ เธอไม่ได้ชอบเบา ๆ หรอก ฉันรู้ดี ” เขาตอบกลับเสียงสั่นพร่า
เอวสอบยังขยับล้ำลึกสม่ำเสมอ ความรัดรึงหนึบแน่นจนแทบขยับไม่ได้ บวกกับน้ำเสียงออดอ้อน สายตาเว้าวอนแสนน่าสงสารนั้น มันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเมตตาและเบาลงแม้แต่นิด
ตรงกันข้าม เขายิ่งเร่งจังหวะโจนจ้วงให้ยิ่งล้ำลึก เข้าสุด ออกสุด หนักแน่นทุกการเคลื่อนไหว ดวงตาสีนิลฉ่ำวาวไปด้วยกระไอแห่งตัณหาราคะ เขาจ้องมองเธอที่กำลังดิ้นเร่าอยู่ภายใต้ร่างตนอย่างไม่ละสายตา
แรกเจอเธอเมื่อสองปีก่อน เธอยังเป็นสาวน้อยวัยแรกแย้มที่เหมือนกับดอกบัวตูมที่เริ่มผลิบาน เมื่อถูกภมรอย่างเขาดมดอมคราแล้วคราเล่า ดอกบัวตูมนี้ก็เบ่งบานเต็มที่
หนึ่งฤทัยเป็นคนผิวขาวตามกรรมพันธุ์ ตอนนั้นบัวตูมเต่งตึงยังเป็นกะเปาะน้อย ยอดอกเล็ก ๆ เป็นสีชมพูระเรื่อ แต่เมื่อถูกกลืนถูกกินบ่อย ๆ บวกกับฮอร์โมนจากยาคุมกำเนิดก็ทำให้เริ่มอวบใหญ่จนล้นฝ่ามือ เนินโหนกสะโพกอวบผายออกเย้ายวน
เสมือนต้นไม้ดอกไม้ที่ได้รดน้ำอย่างชุ่มฉ่ำ เขาเองก็ให้น้ำเธอบ่อย ๆ เสียด้วยสิ
อวบอัดเพราะได้น้ำดี มันน่าจะจริง
สองเต้ากระเพื่อมไหวตามจังหวะกระทั้นลึก ตัวตนยิ่งใหญ่ที่แทรกสอดในกลีบโหนกอูมอวบเกลี้ยงเกลาไร้ขนระคายตายามดันเข้ากลีบนั้นก็ยู่ย่นตามแรงกด เกสรนุ่มกลางกลีบที่แบอ้าบวมเป่งตามแรงกำหนัด เสียงหวานที่แปรเปลี่ยนจากวอนขอให้เบากลับกลายเป็นอีกอย่าง
“ เร็วอีกนิดค่ะ ” พร้อมทั้งยกสองขาขึ้นรวบรัดเอวสอบเอาไว้แล้วยกเนินเนื้อสอดรับเข้ากับจังหวะโจนจ้วงของเขา
นี่แหละเธอของเขา หนึ่งฤทัยของแสนสราญ หญิงสาวหน้าซื่อที่ซุกซ่อนความเร่าร้อนไว้เต็มพิกัด
เธอร่าน เธอร้อน จนทำให้เขาลุ่มหลงชนิดโงหัวไม่ขึ้น
ไม่น่าเชื่อว่าเด็กสาวคนหนึ่งจะทำให้เสือผู้หญิงอย่างเขาหัวปักหัวปำได้ขนาดนี้
“ อะไรนะ ” เขาแกล้งถามซ้ำทั้งยังยั้งจังหวะให้ช้าลง เธอลืมตา มุ่นคิ้วอย่างขัดอกขัดใจ
“ คุณแสนขา อย่าแกล้งสิคะ ”
“ อยากได้อะไรก็ขอสิ ฉันจะได้จัดให้ ”
“ หนึ่งพูดไปแล้ว ”
“ ฉันได้ยินไม่ชัด ” เขาเย้าพลางแกล้งกระแทกบั้นเอวให้หนักแน่นขึ้น เธอสูดปากราวจะขาดใจ
“ หนึ่งอยาก... อยากให้คุณแสน เอ่อ... ”
“ อยากให้คุณแสนอะไรคะ ” เขาถามยั่ว พลางยื่นมือหนึ่งไปบี้ที่กึ่งกลางกลีบบนเกสรไปพร้อมกับการขยับเข้าออก นั่นทำให้ความกระดากอายและตั้งใจดีของเธอหมดลง
“ หนึ่งอยากให้คุณแสนเอาเร็ว ๆ ค่ะ แรง ๆ ด้วย ”
เขายิ้มอย่างผู้ชนะ โน้มกายลงทาบทับ สองมือยื่นไปจับขอบโต๊ะเหนือศีรษะของเธอเอาไว้เพื่อช่วยดึงเสริมแรงยามกระทั้นตัวตนเข้าหาให้ยิ่งลึกล้ำรุนแรง
เสียงจังหวะรักประสานเคล้าครางครวญสนั่นลั่นห้องก่อนมันจะเงียบลงในท้ายที่สุด
แต่แล้วมันก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง
ราตรีนี้คงอีกยาวไกล...