2
“ฝันไปเถอะ”
เขาหัวเราะ ลุกไปยังห้องครัว เสียงจานกระทบเบา ๆ กลิ่นข้าวต้มไก่กับขิงหอมกรุ่น ไม่นานชามอาหารเช้าร้อน ๆ ก็วางลงตรงหน้าเธอพร้อมกาแฟดำ
“ฉันเชฟกันต์ เสิร์ฟเมนูชดเชยการทำงานหนักเมื่อคืน”
“หยุดเลย!” แต่เธอตักคำแรกเข้าปากอย่างลืมตัว รสอ่อน ๆ กับขิงอุ่นคอทำให้ต้องตาโต
“อร่อย…มาก”
“งั้นขอคะแนนรีวิวห้าดาวและเบอร์โทร.อ้าว ลืมไป เราอยู่ห้องติดกัน” เขาทำหน้ามึน
เธอแกล้งเชิด
“ขอกลับห้องตัวเองก่อน”
“เอาการ์ด” เขาส่งให้ พร้อมสอดกระดาษโน้ตแผ่นเล็ก
“นี่คูปองนวดฟรีหนึ่งครั้ง ใช้ได้กับช่างนวดกันต์เท่านั้น”
เธอมองโน้ตแล้วหัวเราะพรืด
“บ้าไปแล้ว”
ตอนเธอกำลังจะเดินพ้นห้องครัว มือเขาเอื้อมมาแตะข้อมือ ไม่รั้ง แค่แตะ
“นาวา…เมื่อคืนน่ะ ฉันอยากให้เธอรับผิดชอบฉันจริง ๆ นะ” ประโยคเรียบง่ายดึงสายตาเธอกลับมา ความกวนของเขามีชั้นอ่อนโยนซ่อนอยู่ เธอรู้สึกสบายใจอย่างไม่น่าเชื่อ
“บ้า!”
“แต่ถ้าไม่สบายใจ ไม่อยากรับผิดชอบ เราก็กลับมาเป็นคู่กัดกันเหมือนเดิม แต่ถ้าไม่อยากเป็นคู่กัด เราเป็นคู่รักกันก็ได้”
“ไม่ได้ไม่สบายใจ…แค่เจ็บ แล้วใคร ใครจะไปเป็นคู่รักของนายกัน” เธอเบือนหน้าหนี
“งั้น…ขอนิดเดียว” เขาก้มลงหอมหน้าผากอย่างนุ่มนวล
“เช้านี้ขอจูบได้ไหม” คำถามที่คุ้นเคย ทำเธอกระพริบตาปริบ ๆ แต่ยังไม่ทันได้ปฏิเสธ เขาก็แนบริมฝีปากเข้ามาหา
จูบเช้าของวันนี้ นุ่มกว่าจูบเมื่อคืน เขาไม่เร่งไม่รีบ และความอบอุ่นนั้น ทำให้เธอเผลอสอดแขนรัดคอเขาเอง โดยอัตโนมัติ แค่จูบก็ทำให้เธอท้องไส้ปั่นป่วนได้ขนาดนี้เชียวหรือ
“พอก่อน แล้วนายก็อย่าทำหน้าแบบนั้นด้วย”
“ทำหน้าแบบไหน”
“หน้ามึนอยากต่อรอบสองไง ชิ!”
เขายิ้ม
“อ่านฉันออกจัง งั้นถามอีกทีต่อได้ไหม ถ้าไม่ได้ ฉันจะไปส่งเธอหน้าห้อง”
“จะบ้าเหรอ ใครจะให้ต่อ” เธอทำท่าจะลุกหนี แต่เขากักกอดเธอเอาไว้
นาวากลืนน้ำลาย แก้มร้อน เธอชั่งใจชั่วเสี้ยววินาที ใบหน้าหล่อเหลาของเขาที่แนบชิดเข้ามาทำให้หัวใจเธอสั่นไหว
“ช้าๆ ได้ไหม” อยากกัดลิ้นตัวเองนัก สมยอมเขาเฉย แต่ใครจะรู้ว่าคู่กัดข้างห้องของเธอก็ทำให้เธอหวั่นไหวมานานมากแล้ว
“ช้าๆ ได้ สำหรับคุณผู้หญิง ถ้าไม่ชอบยินดีแก้มือ”
“ทำดีๆ ล่ะ ถ้าทำให้เจ็บอีกจะข่วนหน้าให้เลย”
“เป็นนางแมวเหรอ”
“พูดมากไม่ทำ”
“ครับคนเก่ง” เขาตอบเสียงเบาอ่อนโยน กลัวเธอจะเปลี่ยนใจ จริงๆ ทะเลาะกันทุกวัน วันไหนไม่ได้ทะเลาะเขารู้สึกขาดอะไรไป คิดเล่นๆ ว่าเขาก็โสด เธอก็โสด ถ้าเป็นสามีภรรยากันจริงๆ ทะเลาะกันทุกวันลูกคงหัวปีท้ายปี คนคิดทำหน้าละมุน เพราะเพิ่งรู้ตัวว่าแอบตกหลุมรักเธอไปตอนไหนไม่รู้ อาจตอนเถียงกันก็ได้ วันไหนไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้คุย ไม่ได้เถียง เขารู้สึกเหมือนขาดอะไรในชีวิตไป
ครั้งที่สองของเช้าวันอาทิตย์จึงต่างออกไปไม่ใช่ไฟเสน่หาของแอลกอฮอล์ แต่เป็นไออุ่นที่ค่อย ๆ โอบล้อมรอบตัวคนทั้งคู่ คำว่า ตรงนี้โอเคไหม ให้ฉันช้าลงไหม เธอชอบไหม กลายเป็นลมหายใจที่พาเธอไปสู่ปลายคลื่นอีกครั้ง
“เสร็จกี่ครั้งแล้ว เขาถามอย่างอ่อนโยน”
“หลายครั้งแล้ว อื้อ...”
“รอบนี้พร้อมกันนะ” เขาเอ่ยเสียงหอบ เร่งเร้าจังหวะสะโพก
“โอ๊ย…กันต์ เจ็บร่องจริง ๆ แล้วนะ”
เขาก้มมองเธอด้วยสายตาสำนึกผิดปนเอ็นดู
“ขอโทษ ๆ เดี๋ยวฉันไถ่โทษ เอาผ้าอุ่นประคบ แล้วนวดต้นขาเบา ๆ ดีไหม” เขาอ้อน อยากไถ่โทษ
“ไม่ต้อง!” เธอรีบคว้าผ้าห่มมาพันตัว
“ฉันจะกลับห้องละ!”
เธอรวบผ้าห่มของอย่างลน ๆ แง้มประตูเปิดออกเหมือนกลัวใครเห็น แต่ก่อนออกจากห้อง กันต์เดินมาหยุดตรงหน้า พร้อมตีมึนทำหน้าเป็น
“นาวา”
“อะไรอีก”
“เธอต้องรับผิดชอบฉัน”
“ฮะ?” เธอตกใจ
“อะไรของนายนี่”
“คืนนี้ฉันคงนอนไม่หลับเพราะคิดถึงเธอ ไปนอนโซฟาห้องเธอได้ไหม” เขาทำเสียงจริงจังเกินเหตุ
“ฝันไปเถอะ!” เธอผลักอกเขาเบา ๆ ก่อนกึ่งวิ่งกึ่งเดินหนีกลับห้องตัวเอง แก้มยังคงแดง ชีพจรยังเต้นผิดจังหวะเพราะความตื่นเต้น เขินอายและอีกหลายอย่างที่ถาโถมเข้ามา
“เจ็บร่องจัง อีตาบ้า ไปได้อดได้อยากมาจากไหน” เธอลูบท้องน้อยตัวเองไปมา โดนไปสองดอกทั้งเมื่อคืนทั้งเช้าวันนี้ ไม่น่าไปยอมเลย คงต้องเดินขาถ่างไปหลายวัน
ประตูห้องเธอปิดลง เธอทิ้งตัวกับโซฟาด้วยความเหนื่อยล้า มือบางเผลอแตะหน้าผากในตำแหน่งที่เขาหอมเมื่อครู่ หัวใจเต้นตุบ ๆ แบบน่าหมั่นไส้
“คนบ้า ปากไม่ดีแต่ยังมาทำให้ฟินอีก”
จะว่าเขาปากไม่ดีชอบแหย่ก็ย่อมได้ แต่เขาก็มีน้ำใจกับเธออยู่เหมือนกันนะ อยู่ห้องใกล้กัน ทะเลาะกันคือเรื่องจริง แต่เขามักเอาของฝากหรือขนมมาให้เธอเป็นประจำ บอกว่าของแถมบ้างล่ะ เผลอซื้อติดมือมาบ้างแหละ ไม่ชอบกินขนมและเขามาขายสงสัยเลยช่วยซื้อบ้างแหละ ก็เลยเอามาให้เธอ
บางทีเธอก็นึกเข้าข้างตัวเองว่าเขาตั้งใจซื้อมาให้ ถ้าไม่เพราะเขาพูดออกมาเสียก่อนว่าซื้อมาแบบไม่ได้ตั้งใจแล้วกินคนเดียวไม่หมดเสียก่อน
ติ๊ง เสียงแจ้งเตือนไลน์เด้งขึ้นไม่มีชื่อแปลก มีแต่ข้อความจากเบอร์ที่เธอไม่เคยบันทึก
กันต์: “ลืมให้ของฝาก
ตามด้วยภาพถ่ายสเก็ตช์ดินสอรวดเร็ว บนกระดาษคราฟต์รูปผู้หญิงนอนตะแคง ห่มผ้าบาง ๆ เส้นสายชัด ละมุน และ…คุ้นหน้าชะมัด
กันต์: แบบสเก็ตช์ตอนเธอหลับ
ขออนุญาตแล้วนะในฝัน
ตามด้วยอีโมจิยักคิ้ว
นาวาหลุดหัวเราะ
“คนบ้า” เธอพิมพ์ตอบ
นาวา: บ้าก็รักษาตัวด้วย ขอบคุณข้าวต้ม
กันต์: “คืนนี้ไปฝากตัวกับโซฟาห้องเธอ…เอ๊ย ไปส่งข้าวเย็นให้
นาวา: ไม่ต้องมาเนียน
กันต์: งั้นพรุ่งนี้เช้าล่ะ
นาวา: ไม่
กันต์: ตกลง…เดี๋ยวเที่ยงจัดไป
เธอส่ายหัวเหมือนแพ้ทาง กำลังจะวางมือถือ ดันมีซองกระดาษเสียบเข้ามาใต้ประตู ซวบ เธอเดินไปเก็บเป็นโปสการ์ดรูปสีน้ำคอนโดมุมสูง เขียนด้วยลายมือเอียง ๆ
“ถึงนาวา
ขอบคุณที่อยู่ข้าง ๆ ห้องฉัน
จากกันต์เพื่อนบ้านผู้ขาดพ่อแม่เหมือนกัน
ป.ล. รบกวนเธอช่วย ‘รับผิดชอบ’ หัวใจฉันด้วย
เธอยืนเงียบอยู่นาน ก่อนยิ้มออกมาแบบห้ามไม่อยู่หัวใจที่ยังอบอุ่นจากเมื่อครู่พลันเต้นผิดจังหวะ
