บท
ตั้งค่า

1

ไฟสีทองของโถงลิฟต์สะท้อนเงาของเธอบนผนังกระจก หญิงสาวในเดรสผ้าเนียนแนบผิว โซเซเล็กน้อยพร้อมถุงกระดาษจากบาร์ข้างคอนโด

“โอ้ย…เวียนหัว” เธอบ่นพึมพำ ขณะสแกนการ์ดลิฟต์ขึ้นชั้นสิบห้า

ประตูลิฟต์เปิดออกพร้อมลมหอมเย็นของแอร์ เธอลากเท้าไปตามพรมสีเทาเข้ม หยิบการ์ดแตะแผ่ว ๆ ใส่ประตูเสียง ติ๊ด ดังขึ้น ประตูเลื่อนเปิดอย่างว่าง่ายจนเธอเผลอหัวเราะ

“ห้องฉันน่ารักจังเนอะ” เธอพูดกับความเงียบ แล้วเดินเข้าไปตรงโซฟาหนัง

ก่อนจะทันวางกระเป๋า เสียงทุ้มขี้เล่นก็ดังขึ้นจากเงามืด

“ห้องเธอเหรอ ฉันก็เป็นผู้บุกรุกงั้นสิ”

ชายหนุ่มผมยุ่ง เสื้อเชิ้ตขาวปลดกระดุมสองเม็ดลุกขึ้นครึ่งนั่งครึ่งนอน ดวงตาคมยังพร่าเมา แต่รอยยิ้มกวนประสาทชัดเจน

เธอกะพริบตาปริบ ๆ “นายอีกแล้ว…”

ใช่เพื่อนห้องข้าง ๆ ผู้ชายที่เธอเรียกในใจว่า ไอ้หมอนี่ คนที่ชอบยิ้มมุมปากเหมือนรู้อะไรมากกว่าใครเขา

“การ์ดเธอสลับกับฉันแน่ ๆ” เขาขยับนิ้วชี้การ์ดบนโต๊ะ

“ลายเดียวกันเป๊ะ”

เธอหยิบขึ้นดู จริงด้วย ทั้งคู่ใช้เคสใสลายเดียว ไม่แปลกที่ตอนเมา ๆ จะหยิบผิด

“โอเค งั้นฉันกลับห้อง” เธอหมุนกาย แต่โลกหมุนติ้ว เธอเซจนร่างเอนไปข้างหน้า

เขาคว้าข้อมือไว้ทัน ร่างทั้งคู่ปะทะเบา ๆ กลิ่นน้ำหอมของเขาอบอุ่น เธอเผลอสูดลึกเข้าปอด ก่อนจะปรามตนเองในใจ

“ปล่อยนะ”

“ได้สิ ถ้าเธอไม่เวียนหัว” เขายกคิ้ว

“อย่าดื้อ มานั่งก่อน”

เธอทิ้งตัวบนโซฟาอย่างจำใจ เขายื่นแก้วน้ำเย็นให้

“ดื่มก่อน เดี๋ยวค่อยเคลียร์เรื่องการ์ดผิดห้อง”

“ขอบคุณ…นายชื่ออะไรนะ”

เขาหัวเราะนิด ๆ

“เธอเรียกฉันว่าไอ้หมอนี่ประจำ ฉันเลยคิดว่าฉันชื่อ หมอนี่นั่นแหละ”

“กวน…มาก”

“กวนเฉพาะเธอ” เขาว่าเสียงเนือย

“ชื่อจริงกันต์”

“ฉันนาวา”

เขาทวนเบา ๆ

“นาวา” เสียงทุ้มต่ำทำให้ชื่อธรรมดาดูอบอุ่นแปลก ๆ

เงียบพักหนึ่ง มีแต่เสียงแอร์กับหัวใจของเธอที่ดังกว่าเดิม

“กันต์ นายทำงานอะไร”

“วาดรูป อิสระ” เขาชี้ผนังที่เอนกรอบผ้าใบไว้

“ถ้าเธอเห็นฉันถือกระดานวาดรูปผ่านหน้าห้อง ก็ไม่ต้องตกใจ”

“อ๋อ…ศิลปิน” เธอยิ้มมุมปาก

“ฉันเป็นนักเขียน ฟรีแลนซ์เหมือนกัน”

ตาคู่นั้นเป็นประกาย

“งั้นเราก็ทำงานเหงา ๆ เหมือนกันสิ”

แอลกอฮอล์ค่อย ๆ คลาย เธอเริ่มอุ่นใจอย่างไม่เข้าใจตัวเอง บทสนทนาหยอก ๆ ไหลไปเรื่อย

“แล้วนายไม่มี…ใครรึไง ถึงได้อยู่คนเดียว”

“ไม่มีพ่อแม่มาตั้งนานแล้ว อยู่กับรูปกับกาแฟ” เขาพูดตรง ๆ ไม่เศร้า แค่จริง

เธอชะงักเหมือนกัน

“ฉันก็…ไม่มี”

สายตาสองคู่ประสานกันอย่างเงียบ ๆ ความรู้สึกบางอย่างแทรกเข้ามาคล้ายเสียงฝนแผ่ว

เขาขยับนั่งใกล้ขึ้นทีละนิด

“งั้นคืนนี้…ขอฉันวาดอะไรสักอย่างได้ไหม”

“บนผ้าใบ”

“บนแก้มเธอ” เขาว่าพลางยิ้มทะเล้น นิ้วชี้แตะปลายแก้มเธอเบา ๆ

เธอถลึงตา

“กันต์!”

เขาหัวเราะ แต่น้ำเสียงนุ่มลง

“ฉันกวนก็จริง แต่จะไม่ทำอะไรถ้าเธอไม่โอเค”

คำว่า โอเค ทำให้เธอหายใจลึก ๆ เธอเมาแต่ยังรู้เรื่อง และอยากลองเส้นบาง ๆ ระหว่างคู่กัดกับคนที่ดึงดูดกันอย่างประหลาด

“ชัดเจนก่อน” เธอพูดช้า ๆ

“ถ้าจะ…จูบ ต้องถาม”

เขากะพริบตาเหมือนถูกฝึกมารยาท

“ได้สิขอจูบได้ไหม”

หัวใจเต้นแรงจนเธอแทบได้ยิน

“ได้” เธอพยักหน้าชัดเจน

ริมฝีปากเขาแตะเบา ๆ ก่อนกดแน่นขึ้น กลิ่นไม้หอมกับผิวอุ่นทำให้เธอเผลอครางในลำคอ ปลายนิ้วของเขาลูบกรอบหน้าอย่างทะนุถนอม เขาค่อย ๆ ผละ

“ต่อได้ไหม”

“ได้…แต่ช้า ๆ”

“ช้าอย่างมีศิลปะ” เขายิ้ม

เสื้อผ้าถูกปลดด้วยความตั้งใจและคำถามสั้น ๆ เป็นระยะโอเคไหม หยุดไหม ชอบแบบนี้ไหม ทุกอย่างเป็นการยินยอมที่ชัดเจน เธอยิ้มทั้งหน้าแดงทั้งเขินเมื่อเขาหยิบถุงยางจากลิ้นชักหัวเตียง

“เตรียมพร้อมจัง”

“ศิลปินต้องรักความสะอาด” เขาตอบหน้ามึนจนเธอหลุดหัวเราะ

คืนคอนโดหรูคืนนั้นจึงเปลี่ยนโซฟาหนังให้กลายเป็นเวทีเงียบ ๆ ของสองคนที่ชอบแหย่กัน แต่กลับอ่อนโยนอย่างน่าแปลก เขาจูบเธอเหมือนระบายสีน้ำ เธอกอดเขาเหมือนซ่อนตัวจากโลก เสียงหายใจสอดประสานจนจังหวะสุดท้ายพาเธอไหลผ่านขอบโลกแล้วกลับมาอยู่ในอ้อมแขนเขาของกันและกันอีกครั้ง

แสงแดดไหลผ่านผ้าม่านโปร่งในตอนเช้า นาวาตื่นด้วยความปวดหนึบในกาย เธอหันไปเห็นกันต์นอนตะแคง อยู่

“เฮ้ย!” เธอผลักหมอนใส่แผ่นหลังกว้าง

“เมื่อคืน…นายทำอะไรฉัน!”

เขาลืมตาช้า ๆ

“อรุณสวัสดิ์เมรีขี้เมา”

“อย่ามากวน ฉันเจ็บ…ร่อง” เธอหน้าแดงซ่าน เผลอสารภาพเสียงเบา

กันต์ยิ้มกว้างในทันที

“งั้นต้องรับผิดชอบดูแลนะครับ”

“รับผิดชอบอะไรของนาย!”

“ทำอาหารให้ กาแฟร้อน แล้วนวดเบา ๆ ตรงที่เมื่อย” เขายักคิ้ว แกล้งกุมบางอย่างจนเธอหน้าร้อนเห่อแดง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel