บทที่ 5
หนึ่งจันทร์มองคนที่กำลังทรุดลงนั่งตรงกันข้ามกับเธอด้วยสายตาที่เบิกโต...ไม่แน่ใจว่าเผลออ้าปากค้างไปด้วยไหม?
เขาไม่เหมือนเสี่ย...ที่เธอคิดไว้เลยสักนิด
เขายังอายุไม่มาก ไม่น่าจะเกินสี่สิบปี
เขาไม่ได้อ้วน หรือผอมแห้งจนเกินไป แต่มีรูปร่างที่เรียกได้ว่า หุ่นในฝันของสาวๆ เลยล่ะ ใช่...หุ่นของเขาเป็นหุ่นแบบที่ผู้หญิงเห็นแล้วต้องกลืนน้ำลาย
เขาตัวสูง ไหล่กว้าง ร่างกายเต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างคนออกกำลังเสมอ เขาแต่งตัวเหมือนคนธรรมดา ก็...เขาทำให้เธอคิดไปหลายอย่าง มโนไปเรื่อยว่าเสี่ยตะวันเจ้าของบ่อนลอยฟ้าจะหน้าตาแบบไหน? หนึ่งจันทร์ฟุ้งซ่านเองไปเรื่อยเปื่อย ว่าเขาจะเป็นแบบนั้นแบบนี้ จนมาเห็นตัวจริงนี่แหละ
เสี่ยที่เธอจินตนาการคือพวกอ้วนลงพุง ใส่ทองเยอะๆ หัวล้าน หน้าตาหื่นกระหาย อื้อ...อาเธอนั่นแหละ ที่ป้อนข้อมูลยัดใส่สมองเธอแบบนั้น ให้หนึ่งจันทร์คิดแล้วคิดอีก ว่าควรจะถอย ปล่อยให้พ่อของเธออยู่ที่บ่อนนั้นแหละ แต่...เธอที่ออกปากไปแล้วจะถอยได้ยังไง จะปล่อยได้ไงก็พ่อเธอทั้งคน
นั่นแหละเขาถึงไกลจากจินตนาการของเธอลิบโลกได้แบบนั้น เมื่อเห็นตัวจริงของเสี่ยตะวัน
เครื่องประดับเพียงชิ้นเดียวของเขา คือสร้อยคอสีเงินที่คล้องไว้ด้วยแหวนวงหนึ่ง เป็นแหวนทับทิมล้อมเพชร เธอมองเห็นชัด เพราะเขาสวมเสื้อกล้าม มันยิ่งทำให้เธอเห็นเรือนร่างชวนฝันของเขาไปด้วย
ใบหน้าของเขานั้นก็ยิ่งทำให้หนึ่งจันทร์รู้สึกใจเต้นแรง เขามีใบหน้าเรียวได้รูป คิ้วเข้มปลายยกขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาคมกริบยาวรีบอกเชื้อชาติที่ได้ผสมมา มีไฝที่ใต้ตาซ้าย มันสะดุดตาบนใบหน้านั้นอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งเสริมให้ตวัดมองตาคมสวยของเขาแล้วต้องเผลอจ้อง จมูกโด่งของเขางุ้มลงเล็กน้อยเหมือนเหยี่ยว ริมฝีปากอิ่มหนาได้รูป ผิวของเขาขาวจัด
นัยน์ตาเธอมองสบกับนัยน์ตายาวรีคมวับนั่น
แก้มของหนึ่งจันทร์แดงซ่านขึ้นมาทันที แล้วหลุบตาลง ไม่อาจจะมองสบตากับเขาไปได้นานกว่านี้ เธอกำลังรู้สึกเหมือนเขาจับเข้าที่หัวใจเธอแล้วบีบมันเล่นก็ไม่ปาน
แค่เขามองเธอยังจะหายใจไม่ออก
ถ้ามากเกินไปกว่านั้นล่ะ
หนึ่งจันทร์ เธอจะต้องทำให้ได้ ห้ามกลัว...เขา ไม่งั้นเขาจะตะเพิดไล่เธอกลับ ทุกอย่างจะต้องพังแน่ๆ
สาวน้อยเม้มปากเล็กน้อย ก่อนจะรวบรวมพลังใจมองสบตาเขา เธอส่งรอยยิ้มให้กับเขา แล้วพนมมือไหว้เขาอย่างนอบน้อม
รอยยิ้มของเธอทำให้คนที่กำลังมองจับจ้องเธออย่างสำรวจนั้น หัวใจเต้นผิดจังหวะ แต่ก็ควบคุมอาการของตนไว้เป็นอย่างดี เขาเพียงแค่มองเธอโดยระงับอาการให้นิ่งอยู่แบบนั้น
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อหนึ่งจันทร์ค่ะ จะมาอยู่กับคุณอาทิตย์หนึ่งค่ะ”
เสียงหวานไพเราะเหมือนระฆังแก้วดังออกมาจากริมฝีปากรูปกระจับนั่น
เขาหรี่ตาลงก่อนจะพยักหน้ารับ แล้วหันไปสั่งให้เด็กรับใช้ที่ยืนใกล้ๆ เริ่มเสิร์ฟอาหารมื้อเย็น และรินเหล้าส่งให้กับเขาแบบเพียวๆ
“ดื่มไหม?”
เป็นประโยคแรกที่เขาถามเธอ หนึ่งจันทร์กะพริบตาปริบๆ เขาชวน...เธอดื่ม ไอ้เธอก็ดื่มไม่เป็น แต่ก็ไม่ควรขัดใจเขาไหม?
“ค่ะ”
“ดื่มแบบไหน”
เขาเลิกคิ้ว แล้วชูแก้วของตนให้เธอดู มันเป็นเหล้าเพียวๆ หนึ่งจันทร์ผู้ไม่เคยลิ้มลองเครื่องดื่มแบบนี้เลยสักหน มากสุดก็คือค็อกเทลแบบเหล้าผสมน้ำผลไม้มีแอลกอฮอล์ไม่เกินสิบเปอร์เซ็นต์ ลังเลนิดหน่อยแล้วก็พยักหน้ารับ
“ดื่มแบบคุณค่ะ”
คิ้วเข้มขมวดเลยล่ะ เมื่อเธอพูดมาแบบนั้น ตาคมหลุบลงเพื่อบังประกายบางอย่างไว้ พร้อมกับหันไปสั่งเด็กรับใช้ให้จัดเครื่องดื่มให้เธอด้วย
เมื่อแก้วมาวางตรงข้างๆ เธอ หนึ่งจันทร์ก็รับมันไปถือไว้ เขาชูแก้วให้เธอ พร้อมกับเอ่ยเสียงเย็น
“ดื่มสิ ดื่มด้วยกัน”
หนึ่งจันทร์กระดกมันเข้าไป
เธอทำหน้าพิกลเกือบจะพ่นมันออกมา แต่ก็จำใจกลืนมันลงท้องไป ร้อนวาบไปทั้งท้องและแอลกอฮอล์กำลังแล่นปราดไปตามสายเลือด
เธอหน้าแดงตัวแดงไปหมดเพียงแค่ดื่มแก้วแรก
คนสั่งให้ดื่มเลิกคิ้วนิดๆ เขาชักจะนึกสนุก...
แล้วก็ชวนให้หนึ่งจันทร์ดื่มอีก...แก้วและอีกแก้ว
....
“อืม...”
เสียงครางเบาๆ ของคนที่นอนบนเตียง ทำให้คนที่กำลังนั่งเอนเล่นโทรศัพท์อยู่ใกล้ๆ เงยหน้าขึ้นมามองทางต้นเสียง สภาพของคนที่ค่อยปรือตาตื่นอย่างงัวเงีย ทำให้นัยน์ตาคมปลาบนั้นเป็นประกายระยับวูบหนึ่ง ก่อนจะปรับเป็นเย็นชาตามแบบเดิม
“ตื่นแล้วเหรอ?”
“ที่นี่ที่ไหนคะ”
ประโยคแรกจากคนบนเตียง เกือบทำให้ตะวันฉายหัวเราะออกมา แต่กลั้นไว้ก่อน เขาผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้หวายตัวยาว ลุกขึ้นมายืนกอดอกมองเธอ หนึ่งจันทร์ที่ตอนนี้สติเริ่มคืนมาทีละนิด แต่ก็ทำให้เธอต้องปวดหัวอย่างหนัก จนต้องกุมขมับแล้วครางเบาๆ
“อูย...”
“แฮงค์สินะ”
“ปวดหัวมากเลยค่ะ”
เธอว่า รู้สึกพะอืดพะอมมวนท้อง และไม่สบายตัวอย่างหนัก แต่ก็ยังจำไม่ได้อยู่ดีว่าเกิดอะไรขึ้น
เธอเงยหน้าขึ้นมองสบตากับคนที่กำลังกอดอกมองเธอนิ่งอยู่ เหมือนว่าเหตุการณ์ก่อนที่สติของเธอจะหลุดหายไปค่อยๆ คืนมาทีละเล็ก ทีละน้อย
หนึ่งจันทร์หน้าแดงก่ำ ขณะที่คนซึ่งกำลังมองจ้องเธออยู่ยกริมฝีปากหยักขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย เขายิ้ม...ใช่ไหมนะ
รอยยิ้มเพียงแค่นั้นทำให้คนที่กำลังมึนๆ เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ยังตกค้างถึงกับตะลึง...แทบจะสร่างเมา ราวกับแสงตะวันสดใสสาดเข้ามาในแสงสลัวให้ได้เจิดจ้า
ถ้าเป็นเขา...
มันก็ไม่ได้เลวร้ายนักหรอกนะหนึ่งจันทร์
หัวใจเธอเต้นแรงนิดๆ เมื่อนึกถึงสิ่งที่ตนเองตั้งใจจะมาชำระดอกเบี้ยให้แก่เขา
เขาสั่นหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง หนึ่งจันทร์มองไปรอบๆ นี่มันห้องของใครกันนะ แน่นอนว่าไม่ใช่ห้องของเธอที่ได้เข้ามาพักแต่แรก แล้วนี่ห้องใคร?