บทที่ 5
“พรุ่งนี้ฉันอยากไปตกปลาอีก เห็นนายเชิดบอกมาว่า จะมีหอยเม่นให้ลองชิมด้วย อูนิเมืองไทยน่าลองดูเหมือนกัน”
“มันไม่อร่อยเท่ากับของที่ท่านชอบ นะครับ”
เลขาเอ่ยแย้ง สิชลหัวเราะแล้วยกไวน์ขึ้นจิบ เขาตบบ่าของประพัทธ์เบาๆ เลขาของเขา ถ้าไม่ดี ไม่ที่หนึ่งก็จะไม่จัดให้นาย
“เอาน่า...ฉันก็แค่อยากลองดูเท่านั้นแหละ นายดูแลฉันดียิ่งกว่าแม่ตามใจลูกไปทุกวันนะ พัทธ์”
“ท่านก็...มันไม่ขนาดนั้นสักหน่อยครับ”
หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ สิชลยิ้มกว้างส่งให้เขา ไวน์วันนี้และอาหารเย็นที่เตรียมไว้อร่อยเลิศรสมาก พูดคุยกับเลขาหนุ่มใหญ่อย่างมีความสุข เขายังไม่เห็นว่ามีอะไรแปลกใหม่ น่าประหลาดใจในทริปนี้ ประพัทธ์อาจจะอยากให้เขาได้พักผ่อนจริงๆ ก็เป็นได้
ราวสี่ทุ่มสิชลก็มึนแล้วนิดๆ เขาบอกกับประพัทธ์ว่าให้ปลุกเขาแต่เช้า เพราะจะไปแล่นเรือตกปลาต่อกับนายเชิด พรุ่งนี้จะให้ประพัทธ์ได้ชิมหอยเม่นจากทะเลไทย เขากินได้เลขาก็ต้องกินได้ด้วย ประพัทธ์ทำหน้าแหยๆ เมื่อนายพูดแบบนั้น
“ผมจะต้องกินจริงๆ น่ะหรือครับ”
“อื้ม ต้องสิ ลองด้วยกัน”
สิชลแกล้งแหย่ เขารู้ว่าเลขาของเขาไม่ชอบแม้กระทั่งอูนิชั้นดีก็ยังไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แค่อยากจะแกล้งแหย่เฉยๆ
“ครับ”
ประพัทธ์ถอนใจ แล้วเดินเคียงนายไปยังห้องพัก ถึงเวลาได้เปิดตัวของขวัญของเขาแล้วสินะ ไม่รู้ว่าตอนนี้หล่อนจะรอจนหลับไปแล้วหรือยัง
สิชลแปลกใจเล็กน้อยที่เลขาหนุ่มใหญ่เดินตามมาส่งเขาจนถึงห้อง นับวันยิ่งทำตัวเหมือนแม่สปอยลูกจริงๆ แหะ ประพัทธ์ คิดในใจอย่างขำๆ แต่ไม่ได้พูดและไม่ได้สงสัยอะไร จนเมื่อประพัทธ์ก้าวเท้าไปให้เสมอเขา และแตะที่ลูกบิดประตูก่อนที่เขาจะเปิดมันออก
“ผมมีของขวัญพิเศษให้ท่าน...ท่านค่อยเปลี่ยนใจถ้าอยากให้ผมปลุกสายๆ หรือเปลี่ยนนัดกับนายเชิด ก็บอกได้นะครับ”
“หืม? มีอะไรเซอร์ไพรส์หรือ”
เพียงมองตาก็รู้นัย ประพัทธ์ขยิบตาให้กับเจ้านาย ที่ถึงกับหัวเราะเบาๆ เมื่อได้ยินแบบนั้น
“ครับ ผมว่าท่านจะต้องชอบมาก”
“ไว้ค่อยมาบอกตอนเช้านะ ว่าฉันชอบของขวัญพิเศษมากขนาดไหน”
ประพัทธ์เปิดห้องให้กับสิชลได้เดินเข้าไป ก่อนจะปิดประตูตามหลังนาย ทิ้งนายไว้กับของขวัญ
เขามองที่ประตูแล้วจินตนาการภาพด้านหลังประตูบานนั้นไปด้วย
นายท่านจะต้องชอบมันมากแน่ๆ
....
สิชลมองหญิงสาวที่นั่งบนเตียงของเขา ไฟในห้องเปิดสว่างมันทำให้เห็นว่ามีใครกำลังนั่งบนเตียงนั้น...
หญิงสาวสวย ทว่าตาเศร้า...คนที่เขาเคยนึกชอบและถามไปกับประพัทธ์
เลขาของเขาร้ายกาจจริงๆ สิน่า พาเธอมาให้เขาจนได้
“สวัสดีค่ะท่าน”
คนบนเตียงยกมือไหว้เขาอย่างนอบน้อม เธอยิ้มส่งให้เขา ตอนนี้ตาของเธอไม่ได้เศร้าหากมันเจือปนไว้ด้วยความวาววามส่องประกายราวกับเพชรสีดำ
สิชลเดินตรงไปหาเธอช้าๆ ย่างก้าวของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ ท่าทีนั้นเหมือนเสือ...ที่ค่อยๆ เดินตรงไปหาเหยื่อของมัน ตามองจ้องที่วงหน้าสวย สบตากันคิราอรราวกับถูกสะกด...กับสายตาของเขา
เขาไม่ได้ดูแย่อย่างที่จินตนาการล่วงหน้าไว้
จริงๆ แล้วเธอจินตนาการถึงพระเอกของเธอในคืนนี้ไว้อย่างแย่มากๆ
เขายังคงดูหล่อเหลา ริ้วรอยบนใบหน้านั้นกลับเพิ่มเสน่ห์มากว่าดูว่าเขาแก่ชรา...ริ้วรอยแห่งการใช้ชีวิต เธอมองจ้องเขาอย่างไม่วางตา เขามีรูปร่างสูงใหญ่ สมาร์ท เขาสวมเสื้อลวดลายกราฟฟิคสีสดใส ปลดกระดุมเปิดลงมาเกือบถึงเอว เผยให้เห็นหุ่นกำยำ...แผงอกกว้างและกล้ามเนื้อเป็นมัด อย่างคนออกกำลังสม่ำเสมอ ไรขนของเขากระจายลงมาจากอกลงมาจนถึงเอวและหายเข้าไปในขอบกางเกง
เพราะความมึนนิดๆ ไหมนะ มันทำให้เธอหายกลัว...หรือเพราะบทบาทที่เธอบอกให้กับตัวเองแสดงคืนนี้ให้เต็มที่ มันถึงทำให้เธอมองเขาอย่างชื่นชมมากกว่าขยะแขยง
“สวัสดี เธอคือของขวัญของฉันคืนนี้...เธอชื่ออะไรคนสวย”
เสียงของเขาทุ้ม พร่า มีเสน่ห์มาก คิราอรปรือตาขึ้นมองเขา ยิ้มอย่างเย้ายวนส่งให้กับเขา เธอกำลังเริ่มแสดงบทของตัวเอง
“คิรา...ชื่อคิราค่ะ ท่าน”
“คิรา...ชื่อน่ารักจัง แปลว่าอะไรครับ”
เขาทรุดลงบนเตียง นั่งข้างเธอ เชยคางมนของเธอให้เงยขึ้นมา เพื่อเขาได้พินิจมันอย่างเต็มที่ เธอสวยเหลือเกิน ผิวเนื้อนุ่มละมุนไปหมด และหอม...กรุ่นกลิ่นสาวเข้าจมูก เธอมีกลิ่นที่เหมือนกับส้มผสมกับวานิลา หอมหวานน่ากินจริงๆ
พรุ่งนี้เขาจะต้องให้ประพัทธ์เลื่อนนัดกับนายเชิดแล้ว
“แปลว่าดวงอาทิตย์ค่ะ”
ตอบเขาไปแบบนั้น ตาของเขาสวยเหลือเกิน สัมผัสของเขานุ่มนวลไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัว เธอมองสบตาเขาราวกับต้องมนต์ เธอไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้มาก่อน...นิ้วของเขาที่แตะต้องเธอ มันอ่อนเบา ราวถนอมและทำให้เธอวูบวาบไปหมด
นั่นอาจจะเพราะเธอมึนๆ และบอกกล่อมตัวเองไว้ด้วยบทบาทของนางบำเรอ มันถึงทำให้คิราอรปล่อยกายและใจกับชายแปลกหน้า ยอมรับสัมผัสจากเขาโดยไม่มีอาการขยะแขยงหวาดกลัว
“ชื่อเพราะ ฉันชื่อสิชล อา..ชื่อของเราสองคนตรงกันข้ามกันเลยนะคิรา เธอเป็นพระอาทิตย์ ส่วนฉันเป็นสายน้ำ”
“ค่ะ...”
เธอตอบเขาสั้นๆ ความเมาทำให้เธอคิดคำพูดไม่ค่อยออก ดูเหมือนว่าสิชลจะได้กลิ่นเหล้าระเหยออกมาจากลมหายใจของเธอที่เขากำลังก้มลงใกล้ เขายิ้มนิดๆ เมื่อกวาดมองใบหน้างดงามนั่น มองนิ่งที่ปากอิ่มที่แย้มเผยอนิดๆ
สีของมันแดงฉ่ำราวกับเชอรี่...ชวนลิ้มลองนัก เขาไล้แก้มเธอเบาๆ อารมณ์ของเขาพุ่งพล่านขึ้นมาอย่างเกินระงับ ทั้งที่เป็นคนควบคุมตัวเองได้ค่อนข้างดี
มือของเขาสั่นนิดๆ ด้วยซ้ำ เมื่อได้แตะต้องเธอ ผู้หญิงที่เป็นนางในความคิดของเขา...เธอวนเวียนติดในความทรงจำ มาหลายวัน
“คืนนี้...ฉันจะทำให้เธอเป็นของขวัญที่มีความสุข”
คิราอรเผยอริมฝีปากเพื่อจะตอบรับเขา และริมฝีปากอันรุ่มร้อนกรุ่นกลิ่นไวน์ของเขาก็ประกบลงมาแนบแน่นบนกลีบปากนุ่มละมุนนั้น ค่อยคลึงเคล้าบดคลึง...สัมผัสของเขาไม่ทำให้เธอตื่นกลัว...นุ่มนวลอ่อนเบา และค่อยๆ ทวีความเร่าร้อนขึ้นทีละนิด ทีละนิด
หญิงสาวนั่งตัวแข็ง ตอนแรกเธอเกร็ง...เพราะความตื่นเตลิด แต่เมื่อเขามอบสัมผัสอ่อนละมุนผ่านจูบนั้นมาให้กับคิราอร มันก็ทำให้เธอผ่อนคลายและค่อยๆ โน้มตามเขา เขากระชับเธอเข้าไปในอ้อมแขน รับรู้อาการเกร็งของหญิงสาว ให้ฉงนนิดๆ กับความไม่ประสาของเธอ ที่ไม่เหมือนหญิงสาวที่เป็นของขวัญคนอื่น คิราอรให้ความรู้สึกที่แปลกไป ราวกับว่าเธอไม่คุ้นมือชาย
สิชลลูบไล้เธอแผ่วเบา เธอแต่งตัวด้วยชุดสีที่เขาเห็นเธอและประทับใจในคืนแรก เธอช่างสวยงามราวนางอัปสร ผิวเนื้อเนียนละมุนนุ่มหอม ร่างกายงดงามสมส่วน เขาปรารถนาเธอขึ้นมาเหมือนเปลวไฟที่ไหม้ฟาง แต่เขาก็อยากจะเชยชมเธอให้ทั้งตัวเสียก่อน
คิราอรปรือตา รสชาติของจูบนั้นทำให้เธอใจเต้นระทึกไปหมด เพราะเหล้า...ทำให้เธอสติล่องลอยเล็กน้อย สัมผัสของเขาที่ถนอมเธอละมุนละไมทว่าเจือปนไปด้วยความเร่าร้อน ละลายความตื่นกลัวและการต่อต้านของเธอทีละน้อย
ทว่าเธอยังคงเพียงนอนเฉย...เมื่อเขาผ่อนเธอลงบนเตียง และมองเธอด้วยนัยน์ตาเร่าร้อน ราวกับจะเผาเธอด้วยไฟที่หลอมละลาย
นิ้วของเขาแตะที่แก้มเธอ ไล้เรื่อยมาจนถึงริมฝีปาก เธอเพียงแค่นอนมองเขา แต่แค่มองเฉยๆ ด้วยสายตาแบบนั้น มันก็ทำให้สิชลร้อนผ่าว...เธอช่างเซ็กซี่ไม่เหมือนใครจริงๆ
“คิรา รู้ตัวไหมว่า เธอสวยมาก”
“ขอบคุณค่ะท่าน”
แก้มของเธอแดงขึ้นน้อยๆ ตัวของเธอเริ่มเกร็งขึ้นมาอีก เมื่อเขาทอดระยะเวลาแบบนั้น เหมือนกับว่าเขาจะรับรู้ว่าเธอกลัวเขากระนั้น สิชลหรี่ตาลงเล็กน้อย ทีท่าของเธอมันทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังได้แตะต้องสาวพรหมจรรย์ที่แสนจะตื่นกลัว
เขาลูบเลยมายังใบหน้า ปลายคางมาจนถึงลาดไหล่ และเริ่มต่ำลงไป คิราอรระงับอาการตื่นของตัวเองไม่ได้ เธอตัวสั่นนิดๆ แบบของเสื้อมันเปิดเผยตรงผิวเนื้อส่วนนี้ให้เขาได้เชยชม เขาก้มลงและเกลี่ยจมูกกับแก้มของเธอ กลิ่นของเธอหอมชวนใจมาก และตอนนี้เขาก็รู้สึกเต็มล้นจนส่วนนั้นแข็งปวดไปหมด แต่เขาก็อยากจะทำให้เธอไม่กลัวเขา และมีความสุขไปพร้อมกับเขาในคืนที่น่าจดจำคืนนี้
“กลัวหรือ?”
เขากระซิบถาม คิราอรเม้มปากแน่น พอถึงเวลาจริงๆ เธอกลับห่วย และตีบทไม่แตก...ถ้าเธอทำกลัวแบบนี้ แล้วท่านไม่พอใจขึ้นมา ส่งเธอคืนให้กับสามีก่อนเวลาที่กำหนด เธอจะโดนมธุลงโทษแบบไหนกันนะ
แค่คิด คิราอรก็เหมือนจะสั่นมากกว่าเดิม เธอพยายามฝืนยิ้มส่งให้กับสิชล แล้วสั่นหน้า
“ปละ เปล่าค่ะ”
“ไม่เคยทำแบบนี้สินะ คิรา”
เขาถาม แล้วนิ่งรอฟังคำตอบ คิราอรพยักหน้า ตอบเขาไปตามความจริง เขานอนกอดเธอในอ้อมแขน และลูบไล้ลำแขนเรียวไปมา...สัมผัสแผ่วๆ นั้น ไม่ได้รุกราน และทำให้เธอเริ่มหายสั่นกลัวเขา
“มะ ไม่เคยค่ะ”
“หึๆ ดีจริงๆ สาวน้อยของฉัน” เขาทรงตัวลุกขึ้น ก่อนจะถามเธอเสียงทุ้ม
“เธอเก็บเหล้าของเธอไว้ตรงไหน คิรา ฉันเห็นมันแล้ว...นั่นใช่ไหม ที่เธอดื่มมันก่อนที่ฉันจะเข้ามา”
“ค่ะ”
เธอค่อยทรงตัวลุกขึ้นนั่งตามเขา ตามองเขาเคลื่อนไหวตัวอย่างรวดเร็ว ตรงไปยังขวดเหล้านั้น แล้วหยิบมันติดมือขึ้นมาบนเตียง เขาและเธอยังคงสวมเสื้อผ้ากันครบชุด คืนนี้ยังอีกยาวนาน...
เขาทรุดลงนั่งบนเตียงอีกหน และยื่นขวดเหล้าให้กับเธอพร้อมกับเอ่ยบอกแกมสั่ง
“ดื่มสิ จะได้ผ่อนคลาย”
“แต่ว่า...คุณประพัทธ์บอกว่าท่านไม่ชอบสาวขี้เมา”
“หึๆ ถ้าสาวขี้เมาคนนั้น หายกลัวฉัน และ...เราจะมีความสุขด้วยกัน เธอก็ควรจะเมานะสาวน้อยของฉัน”
เขาเรียกเธอว่าแบบนั้น ทำให้คิราอรแก้มแดงก่ำ เธอรู้สึกเหมือนกลับเป็นสาวน้อยจริงๆ เพราะคำพูดของเขา เธอมองขวดเหล้าอย่างลังเล และสิชลก็กระดกเหล้าเข้าปาก อมมันไว้ก่อนจะดึงเธอเข้าไปและประกบปากลงมา ป้อนเหล้าร้อนแรงผ่านปากเขา เข้าสู่ปากของเธอ
เธอกลืนลงไปพร้อมๆ กับจูบของเขา รสชาติของเหล้าร้อนไปถึงท้อง และรสชาติของจูบหวามนั่นต่อจากเหล้าก็ร้อนไหลไปถึงบริเวณบางส่วนของกาย...
“อา...”
คิราอรอุทานเบาๆ เมื่อเขาถอนจูบ เขาปรือตามองเธอแล้วยิ้มนิดๆ รอยยิ้มของเขากระตุ้นความปรารถนาของเธอ...ขึ้นมาได้อย่างเหลือเชื่อ
“อีกนิดไหม? สาวน้อยของฉัน”
“ค่ะ” ตอบรับเขาไปอย่างละเมอ
และเธอก็ถูกเขาจูบพร้อมๆ กับป้อนเหล้ามาอีกครั้ง