บทที่ 7 ซาลาเปาสูตรใหม่
เมืองท่าเหวินโจวเวลาสายบ่ายคล้อยดวงสุริยาแผดแสงแรงกล้าราวกับพยายามจะระเหยน้ำทะเลทุกหยาดหยดให้กลายเป็นปุยเมฆนุ่มประดับท้องนภา เพราะเป็นเมืองเลียบชายฝั่งทางใต้ของแคว้นเหวินโจวจึงมีสภาพอากาศร้อนและชื้น หากไม่ใช่คนพื้นที่แต่กำเนิดการใช้ช่วงเวลาทำงานหนักระหว่างวันเช่นนี้มักจะไม่ใช่เรื่องน่าอภิรมย์ใจนัก
อย่างไรก็ดีไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นอย่างไรคุณชายน้อยสกุลจงยังคงไปขายซาลาเปาพร้อมกับสองพ่อลูกตงเหมือนอย่างเช่นทุกวัน
มือเล็ก ๆ ปาดเหงื่อบนหน้าผากมนพลางเป่าลมร้อนออกจากริมฝีปากฉ่ำดัง ‘ฟู่’ หลังจากช่วยปู่และพ่อบุญธรรมขายและเก็บร้านค้าอย่างขยันขันแข็งมาหลายสัปดาห์ในที่สุดร้านซาลาเปาสกุลตงก็ตัดสินใจเพิ่มจำนวนสินค้ามากกว่าทุกวันเป็นวันแรกเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด
ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจ
นอกจากจะได้รับผลตอบรับในเชิงบวกจากลูกค้าเก่าแล้วยังมีผู้บริโภคหน้าใหม่ติดใจจนเป็นออกปากยกให้เป็นเจ้าประจำนับจากนี้ทั้งยังซื้อซาลาเปาเพิ่มอีกหลายลูก
กิจการเจริญรุ่งเรืองอย่างน่าประทับใจ
ตงโปผู้เชื่อในเทพเซียนสุดหัวใจถึงกับยกมืออวบอ้วนขึ้นพนมไหว้พึมพำขอบคุณเจ้าแม่ฮุ่ยซินที่ทรงมีเมตตาประทานจงอี้หยางและซินซินมาเป็นดาวนำโชคให้แก่พวกเขาสองพ่อลูกด้วยใบหน้าเปี่ยมด้วยความเลื่อมใสอย่างยิ่ง
เอาเถอะ
สุขิตกายจิตฺโต โหตุ จงเป็นผู้มีความสุขกายสบายใจ
ทำอะไรแล้วสบายใจก็ทำ
ตงหยางฮึมฮัมทำนองบทสวดสรภัญญะในความทรงจำอย่างอารมณ์ดีระหว่างทำตัวเป็นพ่อบ้านตัวน้อยช่วยบิดาหมาด ๆ เลือกวัตถุดิบที่จะใช้สำหรับซาลาเปาวันพรุ่งนี้และมื้อเย็น
ตงป๋ายเลิกคิ้ว “วันนี้ซื้อหงหลัวโป[ หงหลัวโป หมายถึง แครอท]กับเห็ดหอมด้วยหรือ”
“ขอรับ”
เด็กชายวัยกำลังนุ่มนิ่มยิ้มเผล่ ไม่คิดปิดบังสิ่งที่ตนเองตั้งใจจะทำ “วันนี้วัตถุดิบพิเศษที่ข้าเตรียมไว้ได้ที่แล้วขอรับ ท่านพ่อต้องช่วยข้าปรุงมันเป็นไส้ซาลาเปาแสนอร่อย”
ครบเจ็ดวันหลังจากดองไข่เค็มตามสูตรที่นายพุทธคุณกับป้าแจ่มภรรยาของมัคนายกที่คอยดูแลเขาเคยลองผิดลองถูกดูจากในอินเตอร์เน็ตวันนี้เด็กชายจึงขอให้มารดาแต่ในนามช่วยต้มไข่เค็มที่ดองเอาไว้เหล่านั้นก่อนที่จะออกมาตั้งร้าน
ผ่าออกดูข้างในถึงได้พบขุมทรัพย์ไข่แดงสีอาทิตย์อัสดงลูกใหญ่ฉ่ำวาวเป็นมันย่องตัดกับเนื้อสีหิมะนุ่มเนียนของไข่ขาว
คุณภาพเต็มสิบไม่หัก
ขากลับบ้านวันนี้เขาที่เป็นพ่อครัวมือสามถัดจากตงป๋ายที่เป็นหัวหน้าพ่อครัวและตงโปที่เป็นผู้ช่วยเลยเลือกซื้อเนื้อหมูอย่างดี เห็ดหอม หงหลัวโป และรากผักชีสำหรับทำไส้ซาลาเปายอดนิยมตลอดกาลกลับบ้านไปด้วย
ขอบคุณความเป็นเด็กรู้ความที่ทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่ตามใจไม่คัดค้านอะไรสักครึ่งคำ
แม้จะใช้เงินออกพอสมควรแต่ก็ได้รับเพียงคำถามอยากรู้เท่านั้น
คนเป็นพ่อกับปู่ออกจะดีใจเสียอีกที่เด็กวัยเท่านี้มีของที่อยากได้บ้างไม่ใช่รู้จักเพียงทำตัวเป็นผู้ใหญ่เกินกว่าวัย แม้จะไม่พูดออกไปแต่ลึก ๆ แล้วก็ยังอดเป็นห่วงสภาพจิตใจของเด็กที่เพิ่งสูญเสียครอบครัวไปไม่น้อย
พวกเขาประสบมากับตัว รู้ดีว่าเจ็บปวดมากเพียงใด
น่าเสียดายที่ความหวังดีนี้ต้องเป็นหมันเมื่อพิจารณาจากความจริงที่ว่าคนหนุ่มซึ่งตราหน้าตัวเองว่าเป็นวิญญาณร้ายต่อให้จะได้รับความทรงจำจากเจ้าของร่างทั้งหมดแต่กลับไม่มีความรู้สึกหวงแหนหรือผูกพันใด ๆ กับผู้ล่วงลับแม้แต่น้อย
ซ้ำร้ายชีวิตตอนนี้ยังเป็น ‘ชีวิตดี ๆ ที่ลงตัว’ อีกด้วย
เมื่อกลับถึงบ้านเด็กชายขอให้ตงป๋ายนวดแป้งซาลาเปาให้เขาหลายลูกหน่อย นอกจากนี้ยังขอให้ตงโปช่วยปรุงรสหมูสับ ในขณะที่ซินซินช่วยเขาเตรียมไข่แดงเค็มลูกสีแดงสวยกลมกลึงเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
เหลือเพียงห่อใส่ลงในแป้ง นึ่ง และรับประทาน
แน่นอนว่าการมีช่างทำซาลาเปามืออาชีพถึงสองคนเป็นพ่อครัวหลักใช้เวลาไม่นานซาลาเปาไส้หมูสับไข่เค็มเสร็จสมบูรณ์
ฟู่..
ควันสีขาวฟุ้งพวยพุ่งออกจากหม้อนึ่งซาลาเปาตีกลิ่นหอมของเนื้อหมูและแป้งคุณภาพดีเข้ากลางโสตประสาทรับกลิ่นของครอบครัวเฉพาะกิจ ภายใต้ม่านหมอกซาลาเปาลูกขาวอวบอ้วนแลดูยั่วยวนยากที่จะปฏิเสธกว่าทุกวัน
มีเสน่ห์เสียจนอดคิดไม่ได้ว่าซาลาเปาจำเป็นต้องมีแรงดึงดูดเพียงนี้ด้วยหรือ
น่าเสียดายที่ไม่มีคำตอบสำหรับคำถามนี้
“ลองชิมกันเถอะขอรับ” เด็กชายเจ้าของสูตรทำลายความเงียบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเปี่ยมสุข มือไม้แขนขาสั้นทว่าทะมัดทะแมงรีบหยิบถ้วยหยิบตะเกียบออกไปวางเรียงบนโต๊ะกินข้าว
โดยทั่วไปแล้วหากไม่ใช่ซินซินเคยยืนยันว่าพวกเขาต้องนั่งดื่มกินบนโต๊ะให้เรียบร้อยในมื้ออาหารนั้น ๆ บุรุษต่างวัยสามชีวิตก็ไม่รังเกียจที่จะหยิบซาลาเปาร้อนระอุเหล่านั้นขึ้นมาลองชิมให้รู้เรื่องรู้รสไปเลยที่หน้าเตาเพื่อตัดความใคร่รู้
บนโต๊ะอาหารตามอาวุโสแล้วตงโปเริ่มที่จะขยับมือก่อน
“ฟู่..” เป่าไล่ความร้อนออกจากแป้งเบา ๆ กัดลงไปคำใหญ่ตั้งใจจะค่อย ๆ ลิ้มรส กระนั้นก่อนที่จะซึมซาบความพึงพอใจได้ทั้งหมดกลับพบว่าภายในมือและปากของตนนั้นว่างเปล่า
ชายวัยกลางคนไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองเผลอกินซาลาเปาลูกน้อยจนหมดตั้งแต่เมื่อไหร่
“อร่อยมาก!!!”
ตงโปไม่สามารถหาคำบรรยายอื่นใดมาสาธยายรสชาตินุ่มลึกที่เขาได้สัมผัสในโพรงปาก ไม่ใช่เพียงแป้งจะดีแล้วไส้ข้างในยังเป็นเนื้อปรุงรสกลมกล่อมผสมกับเห็ดหอมและหงหลัวโป ใช้รากผักชีชูกลิ่นและรส ในขณะที่ไข่แดงลูกสวยตรงกลางที่มีความมันออกเค็มและหวานเล็กน้อยอย่างลงตัว
อร่อยจนแทบจะกลืนลิ้นลงไปด้วย
กับซาลาเปาไส้หมูสับพวกเขารู้จักดีเพราะนาน ๆ ทีร้านซาลาเปาของเขาก็จะมีออกขายในจำนวนจำกัดบ้างเช่นกัน ไม่ต่างจากร้านซาลาเปาร้านอื่น อย่างไรก็ดีเพราะมีไส้เป็นเนื้อทำให้ราคาค่อนข้างแพงยากที่ชนชั้นแรงงานจะจับต้อง
ที่น่าสนใจที่สุดคือไข่แดงข้างในต่างหาก
“อาหยาง นี่! นี่! ไม่เพียงแต่อร่อย แต่มันอร่อยมาก ปู่ของเจ้าไม่เคยลิ้มรสซาลาเปาที่อร่อยกว่านี้!”
“อย่าว่าแม่เสือหมอบเลย มังกรซ่อนก็สู้หลานไม่ได้!!”
คนที่ดีใจระคนตื่นเต้นที่สุดจะเป็นผู้ใดได้หากไม่ใช่ตงโป ชายรูปร่างอ้วนท้วนเกือบจะกระโดดเข้าไปกอดหลานในนามของตัวเองแล้วพาขึ้นแท่นบูชาข้าง ๆ เจ้าแม่ฮุ่ยซินอย่างรักใคร่
ผิดจากลูกชายที่ฉายแววตาครุ่นคิดขณะจดจ้องอัญมณีมีสีแดงแวววาวกลางเนื้อหมูสับ
ตงป๋าย “บอกได้หรือไม่ว่าไข่ชนิดนี้ทำอย่างไร”
ตงหยางผงกศีรษะ “ได้ขอรับ”
เจ้าของสายเลือดที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียวของสกุลจงผู้มั่งคั่งอธิบายวิธีการทำและวิธีการได้มาของไข่เค็มแต่ละขั้นตอนอย่างช้า ๆ และละเอียดรอบคอบ เด็กชายได้รับทั้งสายตาตื่นตะลึง สายตาเชิดชู และสายตาหวั่นวิตกคละเคล้าปะปนกันไป
ตงป๋ายตัดสินใจอย่างเด็ดขาด “สูตรนี้ต้องเป็นความลับ”
การตัดสินใจนี้ได้รับมติเห็นด้วยอย่างเป็นเอกฉันท์ เหตุผลทางการค้าก็เรื่องหนึ่งทว่าเรื่องที่ใหญ่ที่สุดคือเหตุผลด้านความปลอดภัย ภายใต้การปกครองของฮ่องเต้ผู้เป็นดั่งเจ้าชีวิตประชาชนตาดำ ๆ ไม่อาจคาดเดาความคิดของเหล่ามังกรผู้สูงศักดิ์ได้เลย
ไม่ว่าอย่างไรห้ามนำออกไปเผยแพร่เด็ดขาด โดยเฉพาะขั้นตอนการทำไข่เค็มหรือเกลือ
ปมาเทน น สํวเส ไม่ควรอยู่ด้วยความประมาท
เย็นวันนั้นนอกจากซาลาเปาไส้หมู่สับไข่เค็มแล้วพวกเขายังมีไข่ขาวเค็มเก็บเอาไว้กินกับข้าวต้มรสอ่อนในตอนเช้าด้วย