บทที่ 5 ข่าวงานประจำปี
“ซาลาเปาไส้ผักของพี่สาวคนสวยขอรับ”
เด็กชายตัวเล็กเจ้าของตำแหน่งขวัญใจเหล่าแม่ยกส่งเสียงเจื้อยแจ้วใสกระจ่าง มือนุ่มนิ่มน้อย ๆ โอบประคองซาลาเปาแป้งนุ่มลูกใหญ่บนกระดาษแผ่นบางอย่างทะนุถนอมขณะใช้ใบหน้าเกลี้ยงเกลาเปี่ยมเสน่ห์ยิ้มแป้นอวดฟันซี่ขาวสะอาดตา
เปล่งคำพูดคำจาประเหลาะหวานซ่านในใจสตรี “พี่สาวคนสวยอย่าบอกใครนะขอรับ ข้าเก็บลูกใหญ่ที่สุดไว้ให้สตรีที่สวยที่สุดของเหวินโจวโดยเฉพาะ”
“อุ้ย ตายจริง”
ลูกค้าสาวหัวเราะคิกคัก ไม่ว่าเด็กชายจะพูดปดหรือไม่ไม่สำคัญ สตรีใดเล่าจะไม่ชอบถูกชม โดยเฉพาะคำชมจากปากเล็ก ๆ ช่างเจรจาของว่าที่หนุ่มหล่อในอนาคต ลูกชายบุญธรรมบ้านตงแม้จะยังเด็กแต่ยิ่งมองยิ่งพูดคุยยิ่งเจริญหูเจริญตาในเมืองท่าที่มีแต่กรรมกรกล้ามหนาเหงื่อซก
พวกนั้นทั้งซื่อบื้อแล้วยังปากร้ายเป็นบางครั้งอีกด้วย!
ไม่มีการเปรียบเทียบไม่เสียใจ แต่เมื่อได้ลองเปรียบเทียบแล้วรู้สึกแย่มาก!!
นอกจากนี้ซาลาเปาร้านตระกูลตงแป้งนิ่มรสเลิศ ลองครั้งเดียวก็ยากจะเปลี่ยนใจไปร้านอื่น
เสียดายแต่ร้านตระกูลตงไม่ได้มีหน้าร้านใหญ่โต ซาลาเปาไม่กี่ร้อยลูกต่อวันหลังจากเที่ยงเป็นต้นไปก็ไม่เหลือติดแผงหน้าร้านแล้ว
“ปากหวานจริงตัวแค่นี้ เป็นหนุ่มไปสาวเหวินโจวไม่หลงเจ้าหมดรึ” หญิงสาวตัวบางจ่ายอีแปะใส่มือนุ่มของจงอี้หยางในคราบตงหยางบุตรบุญธรรมของพ่อค้าซาลาเปาพลางหยอกเอิน
พ่อค้าตัวน้อยทำหน้าตาจริงจัง แก้มป่อง ๆ สีขาวขยับขึ้นลงทั้งน่ามันเขี้ยวทั้งน่าเอ็นดู
“พี่สาว เด็กชายพูดแต่ความจริง”
“อุ้ย แหม” ลูกค้าเจ้าประจำหัวเราะชอบใจ แสร้งทำเป็นมองซ้ายขวาป้องปากกระซิบกระซาบเสียงแผ่วกับเด็กชาย ย่อตัวลงจนระดับสายตาเท่ากันพลางยิ้มเผล่คล้ายไม่จริงจังกับคำถามนัก “เช่นนั้นบอกพี่สาวมาเสียดี ๆ การแข่งขันประจำปีบิดาเจ้าเตรียมซาลาเปาสูตรพิเศษใดไว้”
ตงหยางเอียงศีรษะ “การแข่งขันประจำปีหรือขอรับ”
“อะ แย่จริง พี่สาวลืมไปว่าเจ้าเพิ่งมาถึงเหวินโจวไม่นาน”
“พี่สาวช่วยเล่าให้ข้าฟังได้หรือไม่ขอรับ”
อาศัยความน่ารักช่างพูดช่างเจรจาเป็นที่ตั้ง ใช้เวลาครู่หนึ่งเด็กชายจากต่างเมืองก็ได้รับข้อมูล ‘การแข่งขันประจำปี’ จากลูกค้าผู้มีอุปการะคุณครบถ้วนไม่มีตกหล่น
หากจะต้องเล่าที่มาวิญญาณร้ายอาจจะต้องเกริ่นก่อนว่าในยุคที่ผลผลิตทางการเกษตรยังไม่พัฒนาปฏิเสธไม่ได้เลยว่าซาลาเปาและหมั่นโถวเกือบจะกลายเป็นอาหารหลักของแรงงานหาเช้ากินค่ำซึ่งต้องการความสะดวกรวดเร็วและความอิ่มท้องมาเป็นหลัก สถิติอย่างไม่เป็นทางการโดยพี่สาวลูกค้าระบุว่าทุก ๆ ปีที่เมืองท่าเหวินโจวซึ่งมีแรงงานจำนวนมหาศาลจะมีซาลาเปานับแสนนับล้านลูกถูกขายออกไป
พูดได้เต็มปากเต็มคำว่าอาหารจานด่วนนี้เกือบจะเป็นธุรกิจที่เฟื่องฟูที่สุดในเมืองท่ารองลงมาจากการเดินเรือและการประมง
ครอบครองส่วนแบ่งธุรกิจเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด
และแน่นอนเมื่อมีการรวมตัวกันของผู้ประกอบการชนิดเดียวกันจำนวนมากย่อมต้องมีการเปรียบเทียบ
โดยมากมักจะมาในรูปแบบของการแข่งขัน
ดังนั้นในอดีตเมืองท่าเหวินโจวจึงมีการประชันฝีมือของพ่อครัวซาลาเปาบ่อยครั้งตลอดทั้งปี นานวันเข้าเจ้าเมืองรุ่นก่อน ๆ เห็นโอกาสทางธุรกิจจึงจัดให้มีการแข่งขันระหว่างพ่อครัวแม่ครัวเพื่อรังสรรซาลาเปาที่อร่อยที่สุดเพื่อชิงเงินรางวัลและชื่อเสียงประจำปี
นอกจากจะได้ทุนต่อยอดแล้วยังจะได้รับป้ายประกาศว่าเป็นร้านที่ทำซาลาเปาได้ยอดเยี่ยมในปีนั้น ๆ ด้วย
ชัดเจนว่าเป็นชิ้นเนื้อปลามันที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนรสโอชา
วันนี้เป็นวันเดียวกันกับที่ประกาศเปิดรับสมัครถูกแปะติดไว้ทั่วเมือง ตงหยางจึงมักได้รับคำถามอย่างเอ็นดูจากลูกค้าประจำซึ่งมาจับจ่ายซื้อหาของอร่อยราคาถูกในเวลาเดิมทำนองว่า ‘พ่อครัวตัวน้อยจะลงแข่งขันทำซาลาเปากับบิดาหรือไม่’ อยู่บ่อยครั้ง
“พี่สาวคนงามเรื่องนี้ต้องถามท่านพ่อ แต่ถ้าข้าไปแข่งคงไม่ได้มาขายซาลาเปาให้พี่สาวหลายวันเลยนะขอรับ” เด็กชายตอบเสียงเจื้อยแจ้ว ดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลอ่อนฉ่ำน้ำช้อนมองขึ้นออดอ้อนโดยธรรมชาติ
“เอ เช่นนั้นพี่สาวก็แย่ล่ะสิ”
พูดคุยสานสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าใช้เวลาไม่นานนัก
คล้อยหลังตงหยางถามผู้ที่ตอนนี้มีศักดิ์เป็นปู่ของตนเองเรื่องการแข่งขันทำซาลาเปาของเมืองเหวินโจว อย่างสงสัยใคร่รู้ “ท่านปู่ขอรับ ท่านปู่กับท่านพ่อจะลงแข่งขันประจำปีหรือไม่ขอรับ”
ตงโปส่ายศีรษะแผ่วเบา “อาหยางเรื่องนี้เห็นทีจะยาก”
ชายวัยกลางคนอธิบายธรรมชาติของงานประจำปีนี้ให้หลานชายหมาด ๆ ของตนเองฟังโดยละเอียด
อนึ่งเด็กชายต้องไม่ถูกการประชาสัมพันธ์ฉากหน้าบังตา ไม่ว่าเบื้องหน้าจะเป็นอย่างไร เปิดกว้างแก่ประชาชนเท่าใด ทว่าในความเป็นจริงแล้วการแข่งขันนี้ส่วนใหญ่เป็นการปะทะกันของเสือและมังกรเจ้าถิ่น กล่าวคือเวทีนี้คือการเปิดโอกาสให้เหลาอาหารใหญ่ในเมืองท่าฟาดฟันลงแข่งขันกันอย่างดุเดือด
ผู้ชนะในแต่ละปีล้วนวนเวียนอยู่ในกำมือของพวกเขา
สำหรับคนธรรมดาหากไม่ถูกเมินเฉยเพราะไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะเทียบชั้นกับพ่อครัวเหลาก็มักจะถูกเล่ห์เพทุบายกำจัดออกไปถ้ามีแนวโน้มที่จะชนะ
หากยินยอมแต่โดยดีก็แล้วไป ในทางตรงกันข้ามหากขัดขืนนอกจากจะเจ็บตัวเปล่าแล้วแม้แต่สูตรซาลาเปาเองก็จะถูกยื้อแย่งเอาไปด้วย เช่นนี้แล้วเหล่าร้านซาลาเปาระดับล่างและระดับกลางที่ใดเล่าจะกล้าเผยอหน้าออกไปต่อสู้
ตงโปคิดแล้วขบเขี้ยวเคี้ยวฟันทำสีหน้าปั้นปึ่ง
“เพ้ย แต่ว่านะหลานปู่เจ้ายังไม่รู้อะไร บิดาเจ้านวดแป้งซาลาเปาเก่งที่สุดในเหวินโจวแล้ว เชื่อลิ้นของปู่เจ้า ปู่เจ้าเคยกินมาทุกร้านแต่ไม่เคยมีร้านไหนทำแป้งได้อร่อยเท่าบิดาเจ้าแน่นอน”
ตงหยางผงกศีรษะหงึก ๆ ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ก็เห็นด้วยไว้ก่อน
“เช่นนั้นเหตุใดไม่ลงแข่งเล่าขอรับ”
“เพราะไส้น่ะสิ บ้านเราแม้ไม่ได้ยากจนแต่ไม่ได้มีเงินมากมายไปละลายเล่นลองผิดลองถูกหรอกนะ” ชายวัยกลางคนพรูลมหายใจ นึกขึ้นมาแล้วก็เสียดายแทนลูกชายที่มีความสามารถ ขอเพียงแค่มีทรัพยากรมากกว่านี้ภายในหนึ่งปีตงโปไม่คิดว่าลูกชายของเขาจะแพ้
“เช่นนั้นเอง..” ตงหยางนิ่งครุ่นคิดเล็กน้อย
หลุบตาหลบซ่อนไว้ภายใต้ขนตาหนาก่อนที่มันจะเปล่งประกายขึ้นราวกับอำพันล้ำค่า “หากข้าช่วยท่านพ่อทำไส้ซาลาเปาขึ้นมาเล่าขอรับ”