บทที่ 3
หลังจากจัดการเรื่องวุ่นวายของพี่ชายจบลง ศตพรก็แทบจะลืมความง่วง เธอเดินกลับมายังห้องนอน แล้วกระโจนขึ้นเตียง นอนแผ่อยู่สักพักพยายามหลับตา หากแต่ก็ไม่ยอมหลับได้เลยสักนิด
“เฮ้อ...เฮียโซดานะเฮียโซดา หาแต่เรื่อง เมื่อคืนก็ป๊า เช้านี้ก็เฮีย ดูสิว่าเย็นนี้ สองคนนี่ใครจะก่อเรื่องให้เราอีก”
หญิงสาวเม้มริมฝีปาก แล้วพลิกตัวนอนตะแคง นัยน์ตาคมหวานมองไปเห็นกรอบรูปที่วางประดับไว้ตรง โต๊ะทำงานของเธอที่อยู่ใกล้ๆ กับเตียงนอน มือเรียวหยิบคว้ามาดู มันเป็นกรอบรูปที่ใส่รูปได้สองรูป
ภาพแรกเป็นภาพของเธอกับศตคุณและศตวรรษ กำลังอยู่ริมทะเลทำหน้าทะเล้นๆ ให้กับกล้อง เธอส่ายหน้าน้อยๆ เมื่อมองใบหน้าคมเข้มของชายต่างวัยทั้งสองคน กรรมพันธุ์ถ่ายทอดมาสู่กันและกันได้อย่างไม่บกพร่องเลยแม้แต่น้อย ศตวรรษบิดาของเธอเป็นชายหน้าตาดี อารมณ์ดี แถมยังเจ้าชู้เข้าขั้นเทพ พี่ชายเธอก็รับมรดกนี้มาได้เต็มๆ แบบเดินเหยียบรอยเท้าผู้เป็นบิดามาเลย
นี่แหละที่มักจะทำให้ศตพรต้องวุ่นวายใจอยู่เสมอ กับความเจ้าชู้ของพวกเขา ที่ต้องวิ่งมาขอความช่วยเหลือให้เธอจัดการให้เป็นประจำ หลังๆ มาก็ชักจะชินชา จนเธอคร้านเกินกว่าจะโกรธหรือโมโห ด้วยความเป็นลูกสาวและน้องสาว ทำให้เธอต้องใจอ่อน ยอมเป็นคนไกล่เกลี่ย และแก้ปัญหาให้ทั้งสองเสืออยู่เรื่อยๆ
นัยน์ตาคมหวาน มองไปยังภาพของหญิงวัยประมาณสามสิบเศษๆ ที่ยิ้มละไมอยู่ข้างภาพของครอบครัวเธอ ศตพรยิ้มให้กับคนในภาพ แล้วถอนใจออกมาอีกเฮือก ก่อนจะบ่นพึมพำ
“ทำไมแม่ต้องเลือกป๊ามาเป็นสามีด้วยนะคะ น้ำไม่เข้าใจสักนิด ป๊าน่ะมีดีตรงไหนกัน น้ำสงสารแม่มากๆ ที่ต้องปวดหัวกับผู้ชายอย่างป๊า แต่ตอนนี้น้ำปวดหัวกว่า เพราะมีเฮียโซดาแถมพ่วงมาอีกคน”
ศตพรมองผู้เป็นมารดา ที่ตอนนี้เหลือเพียงภาพถ่าย ท่านจากพวกเธอไปนานแล้ว ตั้งแต่ศตพรอายุห้าขวบ ความทรงจำของเธอกับมารดาจึงเลือนราง และไม่ชัดเจนนัก ไอ้ที่ชัดเจนแจ่มแจ๋วนั่น น่าจะเป็นบรรดาสารพัดสาวๆ ที่ดาหน้าเข้ามาให้บิดาเลือกมาเป็นแม่เลี้ยงให้เธอกับพี่ชายเสียมากกว่า
เพราะความที่ศตวรรษเป็นจิตกร ฝีมือค่อนข้างจะดีมาก ทำให้บังเอิญโชคดีได้ไปวาดภาพให้กับเศรษฐีนีม่ายชาวอังกฤษอย่างไม่คาดฝัน เธอติดใจทั้งคนวาดและภาพวาด จนมอบเช็คไม่กรอกตัวเลขให้กับศตวรรษไปกรอกเอาเอง หลังจากที่งานภาพวาดเสร็จสิ้น อย่างประทับใจนายจ้างสุดๆ ความที่เขาตาลาย ดันกรอกเลขศูนย์เกินไปตัวหนึ่ง จากที่ตั้งใจจะวาดภาพเหมือนมาดามแองเจล่า ในราคาแพงสุดๆ หมื่นปอนด์กลายเป็นแพงยิ่งกว่าในราคาแสนปอนด์ และนับตั้งแต่นั้นมา ศตวรรษก็กลายเป็นเศรษฐีใหม่กับเงินมหาศาลที่ได้มา จึงไม่แปลกที่บิดาเธอใช้ชีวิตได้อย่างตามใจตัวเอง ปลื้มเปรมไปด้วยสาวๆ มากหน้าหลายตา และมาดามม่ายก็มักจะเรียกให้เขา ไปวาดภาพให้อีกสองสามครั้งอย่างชื่นชมในฝีมือ แต่ละครั้งนางก็ถือว่าราคาแสนปอนด์เป็นราคามาตรฐานของภาพวาดของเขาไปแล้ว และความที่รวยติดอันดับโลกของมาดามม่าย เธอก็คิดว่ามันไม่ได้ทำให้ขนหน้าแข้งของเธอร่วง
แม้จะมีฐานะที่ดีมากขึ้นขนาดนี้ แต่ศตวรรษก็ยังพอใจอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมของเขา บ้านของพวกเขาเป็นบ้านไม้สองชั้นในพื้นที่เกือบไร่ ที่เป็นพื้นที่ดั้งเดิมของบรรพบุรุษเมื่อแรกมาตั้งรกรากอยู่ที่นี่ ไม่ได้ซื้อเพิ่มเพียงแต่อย่างใด สองพี่น้องก็ยังใช้ชีวิตตามแบบธรรมดาไม่ได้ติดความโก้หรูใดๆ ทั้งนั้น เพราะศตวรรษเลี้ยงลูกตามแบบของเขาเอง ไม่ได้สอนให้ศตคุณและศตพร บูชาเงิน และวัตถุนิยม เพราะตัวเขาเองก็มีความเป็นศิลปินในตัวเองสูง สิ่งเดียวที่ผลาญเงินเขาไปได้มากที่สุดก็น่าจะเป็นเรื่องผู้หญิงนั่นเอง กิเลสเดียวที่เขาตัดไม่เคยขาด และต้องหามาวุ่นวายในชีวิตอยู่ตลอดเวลา ตามประสาเสือผู้หญิงที่ไม่ยอมสิ้นลาย ถึงบุตรชายจะติดหรูไปสักนิด แต่สิ่งของแต่ละอย่าง เช่นรถสปอร์ตของเขานั้น ศตคุณก็ซื้อหามาด้วยน้ำพักน้ำแรง ไม่ได้ขอเงินบิดาแม้แต่บาทเดียว
ศตพรเองนั้น ก็รักในอาชีพของเธอ และค่อนข้างจะบ้างานเอาเสียมากๆ อาชีพช่างภาพของเธอ เป็นสิ่งที่เธอใฝ่ฝัน เธอชอบที่จะสร้างสรรค์ภาพสวยๆ ชอบมองสิ่งต่างๆ ผ่านเลนส์กล้อง และมุมมองใหม่ๆ ที่ได้รับ ทำให้หญิงสาวหลงเสน่ห์จนแทบถอนตัวไม่ขึ้น ศตพรไม่ได้คลั่งของแพง หรือบ้ายี่ห้อแต่อย่างใด เธอใช้รถยนต์ยี่ห้อ Volkswagen รุ่น New Beetle สีน้ำเงิน ที่บิดาซื้อให้เนื่องในวันครบรอบวันเกิด เป็นสิ่งที่มีราคามากที่สุดในชีวิตเธอแล้วกระมัง และสิ่งที่เธอยอมเสียเงินด้วยก็คงจะเป็นพวกเครื่องมือในการประกอบอาชีพของเธอ กล้อง เลนส์กล้อง ที่มีราคาบางชิ้นหลักแสน
หญิงสาวก่ายหน้าผาก เมื่อคิดถึงบิดาและพี่ชาย เมื่อไหร่กันนะ สองคนนี่จะยุติความลื่นกระล่อน เป็นเสือผู้หญิงกันเสียที ด้วยอาชีพการงานและฐานะ ทำให้มีแต่ผู้หญิงเข้ามาเพื่อเสนอตัวให้มากมาย อาจจะด้วยผลประโยชน์หรืออะไรก็ตามที แต่ทำไมต้องไปรับสัมพันธ์พวกหล่อนเหล่านั้นหมดทุกคนด้วยหนอ
เฮ้อ...จะมีผู้ชายดี ๆ หลงเหลือบนโลกใบนี้บ้างไหมเนี่ย
ศตพรคิดในใจ พลางส่ายหน้าน้อยๆ แต่คงจะหาไม่ได้หรอก แล้วเธอคงจะไม่ค้นหาด้วย ก็อยู่เป็นโสด มีความสุขกับงาน กับเพื่อน วุ่นวายกับบิดาและพี่ชาย แค่นี้ศตพรก็แทบจะไม่มีเวลาจะมาหาคนรักให้กับตัวเองแล้ว