ตอนที่ 6
ตอนที่ 6
อันนาเดินวนไปมารอบสระน้ำ ตั้งแต่รับสายจากคนแปลกหน้าจิตใจเธอก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอีกต่อไป ตอนนี้มอร์แกนก็อยู่แต่ในห้องทำงานกับอานันแถมสั่งห้ามใครเข้าไปยุ่งอีกด้วย เธอจะออกจากบ้านหลังนี้ไปได้ยังไงกัน
“อันนา” เสียงของวันรักดังขึ้น หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันไปขานรับ
“ว่าไงวันรัก”
“ฉันจะออกไปซื้อของสดน่ะ พอดีพรุ่งนี้คุณมิรันตาจะเข้ามาที่บ้าน ป้ารตีเลยให้ออกไปซื้อของมาเพิ่ม ฉันฝากเธอไปรดน้ำต้นไม้แทนหน่อยสิ ฉันยุ่งตั้งแต่เช้าแล้วอ่ะไม่มีเวลาเลย”
“เธอจะออกไปกับใครหรอ”
“คนเดียวน่ะสิ ป้ารตีไม่ว่าง ส่วนป้ารันตีก็ออกไปทำธุระข้างนอก”
“ฉันขอไปด้วยสิ” ร่างบางหันไปอ้อนวอนเพื่อนสาว นี่เป็นทางเดียวที่เธอจะได้ออกไป
“แต่คุณมอร์แกนเขาไม่ให้เธอออกไปไม่ใช่หรอ”
“ฉัน ฉันขออนุญาตเขาแล้ว แล้วเขาก็อนุญาตฉันแล้วด้วย”
“ตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่เห็นมีใครบอกฉันเลย”
“ตั้งแต่เมื่อวาน คุณมอร์แกนคงยุ่งๆเลยไม่ได้บอกใครมั้ง” วันรักดูไม่เชื่อคำพูดเธอสักเท่าไหร่
“จริงๆนะ ไปกันเถอะ เดี๋ยวก็ซื้อของไม่ทันหรอก”
“คุณมอร์แกนจะไม่ว่าฉันทีหลังใช่ไหม”
“จะไปว่าได้ยังไงล่ะ ก็เขา...เขาอนุญาตแล้ว” วันรักจำใจเชื่อ ทั้งสองออกมายังห้างที่มาเป็นประจำก่อนจะเดินเลือกซื้อของตามรายการของป้ารตี ท่าทางของอันนาดูไม่เป็นสุขเอาเสียเลย เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูบ่อยเสียจนวันรักขมวดคิ้วกับท่าทางนั่น
“เป็นอะไรรึป่าวอันนา เธอดูแปลกๆนะ” หญิงสาวหันไปหาเพื่อนก่อนจะส่ายหัวไปมา
“ฉัน ปวดท้องนิดหน่อย ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ เธอเลือกของไปก่อนเลย” เธอไม่รอฟังคำตอบจากเพื่อนสาว ในใจเธอขอโทษวันรักเป็นพันๆครั้งได้ แต่จะให้ทำยังไงได้ ชีวิตแม่เธอก็สำคัญไม่แพ้กัน อันนาเดินหลบออกมาก่อนจะโบกแท็กซี่ตรงไปยังบ้านของเธอ บ้านหลังขนาดกลางที่พ่อเธอเคยซื้อเอาไว้ก่อนจะจากเธอไป เพียงไม่นานนักเธอก็หยุดยืนอยู่หน้าบ้านหลังนั้น เท้าเล็กก้าวเดินเข้าไปในบ้าน มีรถยนต์สองสามคันจอดอยู่หน้าบ้านเธอ พร้อมชายฉกรรจ์อีกสองสามคน ทันทีที่เปิดประตูก็พบกับชายสามคนที่กำลังรุมซ้อมพ่อเลี้ยงเธออยู่ สายตาทั้งหมดต่างจับจ้องมายังเธอราวตัวประหลาด
“อันนาลูกพ่อ” เสียงอนันต์ผู้ได้ชื่อว่าเป็นพ่อเลี้ยงดังขึ้น ชายคนหนึ่งอายุราวๆยี่สิบกลางๆหันมามองเธอก่อนจะลุกเดินมาหา ดูท่าทางเขาคงจะเป็นหัวหน้าของชายฉกรรจ์พวกนี้
“ฉันนึกว่าเธอจะมาเร็วกว่านี้ซะอีก” ความสูงของเขาเท่าๆกับมอร์แกนเลยก็ได้ รูปร่างกำยำกับผิวขาวทำให้ชายคนนี้ดูดีเลยทีเดียว
“แม่ฉันอยู่ไหน”
“ไม่เป็นห่วงพ่อเธอบ้างรึไง” เสียงทุ้มดังขึ้นก่อนจะยิ้มอย่างมีเลศนัย
“ฉันถามว่าแม่ฉันอยู่ไหน”
“แล้วเธอคิดว่าอยู่ที่ไหนดีล่ะ” เพียงไม่นานร่างของแม่เธอก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับชายอีกสองคนที่จับแม่เธอไว้
“อันนา” แม่เธอเอ่ยเบาๆ แม่เธออยู่ในสภาพปกติไม่มีรอยขีดข่วนใดๆ ทำให้เธอเบาใจขึ้น
“คุณต้องการอะไร”
“พ่อกับแม่เธอ เข้าไปพักในโรงแรมฉัน ก่อนจะขโมยของแล้วหลบหนีออกมา โชคดีที่ลูกน้องฉันจับตัวไว้ได้ เขาสองคนก็เลยเสนอว่ามีของล้ำค่าอยู่ที่บ้าน ฉันก็แค่ตามมาดูแค่นั้นเอง ว่าของนั้นล้ำค่าจริงรึป่าว” เธอรู้สึกเหมือนถูกหักหลังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดวงตาที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตามองไปยังผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่ ไอยราหลบสายตาเธอ ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง
“ฉันคงเป็นของล้ำค่านั้นไม่ได้ เพราะฉันถูกขายให้คนอื่นแล้ว” เธอปาดน้ำตาลวกๆ ก่อนจะมองหน้าชายหนุ่มตรงหน้า
“เธอกำลังจะบอกอะไร”
“ถ้าเปรียบง่ายๆ ฉันก็เป็นแค่ของชิ้นหนึ่ง ที่เขาทั้งสองคนขายให้กับคนนั้นคนนี้ และตอนนี้ฉันคงเป็นของล้ำค่าของพวกเขาไม่ได้ เพราะฉันถูกขายไปแล้ว” ชายตรงหน้าดูอึ้งกับคำตอบของเธอเล็กน้อย เขาตีหน้านิ่งก่อนจะสั่งให้ลูกน้องอัดพ่อเลี้ยงเธอต่อไป
“ช่วยพ่อด้วยอันนา โอ๊ย อันนา โอ๊ย” เสียงเจ็บปวดของอนันต์ดังขึ้นเมื่อเขาถูกซ้อม
“อันนาอย่าใจร้ายนักเลย แกทนเห็นพ่อแกโดนซ้อมแบบนี้ได้หรอ” เสียงของแม่เธอดังขึ้น อะไรกันที่ทำให้แม่เธอเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้
“ช่วยหยุดก่อนได้ไหมคะ” เธอหันไปขอร้อง ชายหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะทิ้งตัวลงบนโชฟา
“หยุดแล้วยังไงต่อ จะให้ฉันส่งพ่อกับแม่เธอเข้าคุกเลยดีไหม ข้อหาอะไรดีล่ะ ลักขโมย โกหกหลอกลวง หรือว่าค้ามนุษย์ดี”
“ฉันจะชดใช้ให้ คุณต้องการอะไร”
“ถ้าฉันต้องการเงินเธอก็คงหาให้ไม่ได้ ตอนนี้ฉันมีครบทุกอย่างแล้ว ฉันควรจะต้องการอะไรดี” ร่างสูงลุกขึ้นมาก่อนจะจ้องเธอเอาไว้
“ขอโทรศัพท์เธอหน่อยสิ” อันนายอมยื่นโทรศัพท์ให้แต่โดยดี ชายหนุ่มคว้าไปก่อนจะโทรเข้ามือถือของเขาเอง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจะดับลง เขาคืนโทรศัพท์ให้เธอเมื่อทำอะไรบางอย่าง
“ไว้ฉันนึกออกฉันจะโทรหาละกัน วันนี้พอแค่นี้ก่อน” ชายหนุ่มเดินออกไปพร้อมลูกน้อง อันนาดูที่มือถือ หน้าจอโชว์เบอร์พร้อมชื่อของเขา
“ไททัน” เมื่อเสียงรถของแขกออกไปจากบริเวณบ้าน แม่ของเธอก็รีบลุกขึ้นไปดูพ่อเลี้ยงทันที
“คุณเป็นอะไรไหม” หญิงสาวยิ้มอย่างสมเพช เธอช่างสมเพชตัวเองเหลือเกิน แม่เธอขายเธอไปเกือบเดือนแล้ว และยังขายคิดจะขายเธออีก
“แม่” เธอเอ่ยมันเบาๆ ทำไมเขาไม่คิดจะถามเธอบ้างว่าเธอสบายดีไหม เธอกินอิ่มนอนหลับดีรึป่าว ทำไมถึงทำกับเธอได้เพียงนี้
“ทำไมถึงได้มาช้านัก” พ่อเลี้ยงตัวดีเอ่ยขึ้น สุดท้ายเขาก็แสดงท่าทีจริงๆออกมาสักที
“ฉันน่าจะปล่อยให้เขาซ้อมคุณจนตายไปซะ”
“นังเด็กนี่”
“และคุณทั้งสองคนจำเอาไว้ด้วย ว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะช่วย” เธอเอ่ยก่อนจะเดินออกจากบ้านไป มือบางปาดน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างไม่หยุด
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เข้มแข็งไว้นะ อันนาลูกพ่อ”
เสียงของพ่อเธอดังก้องขึ้นในหัว เธออยากจะบอกพ่อเธอเหลือเกินว่าเธอไม่ไหวแล้วในตอนนี้ ยิ่งเธออยากเข้มแข็งมากขึ้นเท่าไหร่ เธอยิ่งอ่อนแอมากขึ้นเท่านั้น หญิงสาวเดินออกมาจากบ้าน เธอเดินไปตามทางเรื่อยๆพร้อมน้ำตาที่ไหลลงมาไม่หยุด เธอรู้สึกเจ็บ เจ็บที่หัวใจของเธอ แม่เธอเห็นเธอเป็นเพียงสิ่งของที่เอาไว้ขายเวลาที่เดือดร้อนแค่นั้นเองหรือ เสียงรถยนต์คันหนึ่งแล่นมาด้วยความเร็วก่อนจอดดักหน้าเธอเอาไว้ พร้อมร่างชายหนุ่มที่เดินลงมาจากรถ
“ไททัน” เธอเอ่ยชื่อเขาออกมา
“คิดว่าตัวเองเป็นนางเอกนิยายน้ำเน่ารึไง ถึงได้มาเดินร้องไห้ข้างถนนแบบนี้”
“คุณคิดออกแล้วหรอคะว่าต้องการอะไร” เธอเอ่ยถามพร้อมเช็ดน้ำตาไปด้วย
“ยัง แต่ถ้าปล่อยเธอเดินร้องไห้ไปแบบนี้ เกิดเธอโดนรถชนตายขึ้นมา ฉันก็เสียประโยชน์สิ” ไททันพูดด้วยใบหน้านิ่งๆ
“ฉันจะไปส่ง”
“ไม่ได้ค่ะ” เธอตอบทันควัน ถ้าให้เขาไปส่งมีหวังมอร์แกนฆ่าเธอตายแน่
“ทำไมฉันจะไปส่งไม่ได้”
“ฉันกลับเองดีกว่าค่ะ ขอบคุณนะคะ” เธอตอบก่อนจะหันไปโบกแท็กซี่ที่วิ่งมาพอดี หญิงสาวก้าวขึ้นรถพลันสายตาเหลือบไปมองยังชายหนุ่ม เขายังคงมองเธออยู่แบบนั้น เธอหลบสายตาของเขาก่อนจะบอกทางไปยังห้างที่เพิ่งหนีออกมา เธอกดโทรศัพท์โทรหาวันรักเมื่อนึกขึ้นได้ว่าทิ้งเพื่อนสาวเอาไว้นานแล้ว
“ทำไมไม่รับโทรศัพท์นะ” เมื่อถึงห้างอันนาเดินตามหาวันรักพร้อมกดโทรศัพท์โทรหาเธอไปด้วย แต่ก็ไม่พบเธอจึงตัดสินใจกลับบ้านมอร์แกนทันที ถ้าวันรักกลับบ้านไปแล้ว แล้วมอร์แกนรู้เรื่องเข้า วันรักอาจจะโดนเขาลงโทษก็เป็นได้ เมื่อถึงบ้านมอร์แกนเธอรีบลงจากรถก่อนจะวิ่งเข้าไปยังบ้าน ความซวยมาเยือนไม่จบไม่สิ้น เมื่อเธอเห็นร่างสูงของมอร์แกนยืนกอดอกพร้อมใบหน้านิ่งๆ พร้อมวันรักที่กำลังยืนตัวสั่นอยู่ไม่ไกล เธอกำลังพาคนอื่นเดือดร้อนไปด้วย วันรักกำลังเดือดร้อนเพราะเธอ
“หายไปไหนมา” มอร์แกนมองร่างบางตรงหน้า ดวงตากลมโตเริ่มบวมจากการร้องไห้หนัก เธอก้มหน้าเพราะไม่กล้าสู้หน้าคนตรงหน้าเธอ
“ขอโทษค่ะ” เธอทำได้เพียงเอ่ยคำขอโทษออกมา ครั้งนี้เธอผิดที่ขัดคำสั่งเขา แถมยังพาวันรักซวยไปด้วย
“วันรัก เธอรู้รึป่าว ว่าคนที่ขัดคำสั่งฉันจะโดนอะไรบ้าง” วันรักเริ่มร้องไห้ออกมา เธอส่ายหัวไปมาก่อนจะร้องไห้เสียงดัง
“วันรักไม่รู้เรื่องนี้ ฉันจะรับผิดชอบเอง” ร่างบางเอ่ยเสียงสั่น
“เธอจะรับผิดชอบยังไง” มอร์แกนถามเสียงนิ่ง นั่นคือสิ่งที่เธอกลัวที่สุด
“....” ไม่มีเสียงตอบรับจากหญิงสาว
“ตอบฉันมาสิอันนา” มอร์แกนตวาดดังลั่นจนเธอสะดุ้งเพราะตกใจกลัว น้ำตาเริ่มเอ่อคลอรอบดวงตาอีกครั้ง เธอกลัวเหลือเกิน
“วันรัก เธอทำงานมากี่ปีแล้ว” วันรักปาดน้ำตาก่อนจะตอบด้วยเสียงสั่น
“หนึ่งปีแล้วค่ะคุณมอร์แกน”
“แล้วเธอไม่รู้หรอว่าฉันไม่ชอบให้ใครมาขัดคำสั่ง”
“อย่าไล่วันรักออกเลยนะคะ วันรักขอโทษ วันรักจะไม่ทำอีกแล้วค่ะคุณมอร์แกน” วันรักพนมมือขอร้องชายหนุ่ม แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลสักเท่าไหร่
“ฉันผิดเอง ฉันโกหกวันรักเองค่ะ” ร่างบางพยายามอธิบาย น้ำตาเธอเริ่มไหลลงมา มือบางปาดมันลวกๆ ก่อนจะหันไปขอร้องชายหนุ่ม
“อย่าทำอะไรวันรักเลยนะคะ ฉันผิดเอง ฉันผิดเองค่ะ” อันนาพยายามอ้อนวอน
“วันรัก กลับห้องเธอไปซะ” วันรักพยักหน้ารัวก่อนจะกล่าวขอบคุณ
“ขอบคุณค่ะคุณมอร์แกน ขอบคุณค่ะ” เธอรีบออกไปจากจุดนั้นทันที มอร์แกนมองร่างตรงหน้าที่กำลังก้มหน้ารับความผิดอยู่
“เธอไปไหนมา” อันนาเงยหน้ามองชายหนุ่ม
“ฉัน ฉันกลับบ้านมาค่ะ”
“ทำไมไม่บอกฉัน”
“ฉันเห็นคุณกำลังยุ่งอยู่” เธอตอบเสียงตะกุกตะกัก
“กลับไปทำอะไรที่บ้าน” น้ำเสียงดุดันทำเอาเธอไม่กล้าตอบคำถาม เธอโกหกไม่เก่ง และมันเป็นเรื่องง่ายมากถ้าเขาจะจับได้
“ฉัน ฉันแค่คิดถึงบ้าน”
“เธอนี่ขยันสร้างปัญหาจริงๆ” มอร์แกนเอ่ยอย่างปลงๆ
“เลิกร้องไห้ได้แล้ว ฉันไม่ชอบ แล้วก็เลิกทำอะไรที่ขัดคำสั่งฉันสักที” มอร์แกนพูดจบก่อนจะเดินจากไป เธอถอนหายใจออกมา นึกว่าจะโดนต่อว่ามากกว่านี้ซะอีก ร่างบางรีบเดินไปเพื่อนสาวที่กำลังเสียขวัญ เสียงร้องไห้ของวันรักดังออกมานอกห้อง เธอเปิดประตูเข้าไปอย่างถือวิสาสะ วันรักวิ่งมากอดเธอเอาไว้แน่น
“ฮืออออ อันนา”
“ฉันขอโทษนะวันรัก ฉันขอโทษจริงๆ”
“เธอหายไปไหนมา เธอห้ามทำแบบนี้อีกนะ” วันรักพูดพร้อมร้องไห้ไปด้วย
“ฉันจะไม่ทำอีก ฉันสัญญานะ” ร่างบางกอดปลอบเพื่อ เพราะเธอแท้ๆทำให้คนรอบข้างเดือดร้อนไปด้วย
“ฉันขอโทษนะวันรัก” เสียงร้องไห้ยังคงดังต่อเนื่อง ขอโทษจริงๆนะวันรัก ขอโทษ เธอกอดปลอบเพื่อนพร้อมขอโทษในใจ ต่อไปนี้เธอจะไม่ดึงคนรอบข้างเข้ามาเกี่ยวข้องอีกแล้ว เธอจะไม่ทำแล้วจริงๆ
ร่างสูงยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง หัวสมองกำลังคิดถึงเรื่องต่างๆมากมายเกี่ยวกับตัวหญิงสาว
“คุณอันนากลับไปที่ห้องพักแล้วครับ” อานันรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
“ฉันอยากรู้ว่าวันนี้เธอกลับไปทำอะไรที่บ้าน”
“ได้ครับ”
“แล้วได้ตัวคนที่ลอบยิงอันนารึป่าว”
“ได้เพิ่มเติมมาครับ พวกนั้นขับรถหลบหนีไปแถวเขต B แถวนั้นเป็นย่านของพวกเหมันต์ เป็นไปได้ที่เหมันต์จะให้คนมาตามเก็บเธอ”
“ฉันไม่อยากฟันธง เพราะเหมันต์ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรมานานแล้ว จะมีก็แต่ลูกชายของมันที่กำลังดำเนินธุรกิจต่อ”
“ตอนนี้คลอเรนลูกชายของเหมันต์กำลังทำธุรกิจอยู่ที่ต่างประเทศ เห็นว่าผลิตอาวุธสงครามครับ”
“งั้นจะเป็นใครได้อีก”
“แต่ทางนั้นก็เป็นทางไปบ้านคุณมิรันตาด้วยนะครับ แต่นั่นคงไม่มีทางเป็นไปได้” ชายหนุ่มทำหน้าครุ่นคิด
“ฉันไม่อยากฟันธงอะไร ยังไงช่วยหาข้อมูลเพิ่มเติมให้ฉันด้วย”
“ครับ”
“อันนาดื้อมากกว่าที่ฉันคิดไว้ซะอีก” ชายหนุ่มส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ ถ้าขืนเธอยังดื้ออยู่แบบนี้ มีหวังพวกมันได้หาโอกาสฆ่าเธออีกแน่ๆ
“ฉันจะทำยังไงกับเธอดีนะ...อันนา”