5
เวลาบนโต๊ะอาหารกลายเป็นเวลาแห่งการคิดถึงความหลังและส่วนมากทุกคนจะพูดถึงเดือนอ้ายที่ตอนนี้เธอกำลังน่าเป็นห่วง
ธนามองว่าไม่น่าจะถึงสองเดือนพ่อของหญิงสาวคงไม่รอดแล้วเพราะอ้วกเป็นเลือดมาหลายเดือน หมอก็ให้ทำใจมาตลอดเพราะเจ้าตัวไม่ยอมหยุดดื่ม ส่วนแม่ของเดือนอ้ายก็ป่วยระยะสุดท้ายตอนแรกหมอบอกอยู่ได้ไม่ถึงหกเดือนแต่นี่ก็เกือบปีแล้ว จึงนับวันรออย่างเดียวตอนนี้
ทั้งสามคนเดินมาส่งลูกชายนอกสายเลือดที่หน้าบ้านพร้อมกับถุงแกงส้มของโปรดที่บู๊คิดว่าคืนนี้จะเอาไปนั่งกินเล่น ๆ ตอนทำงาน
“ผมกลับก่อนนะครับขอบคุณมื้ออาหารที่อร่อยและมีความสุขที่สุดครับ”
“เดินทางปลอดภัยนะ ไม่ต้องห่วงเรื่องอ้ายเดี๋ยวพรุ่งนี้น้าจะไปซื้อข้าวกับกับข้าวให้มันเอง”
ธนารับปากเพราะเขามีรถยนต์จะได้ขนข้าวสารได้หลาย ๆ ถุงเพราะชายหนุ่มให้เงินไว้หนึ่งหมื่นบาทคงซื้อได้เต็มรถและซื้อได้อีกหลายรอบ
ตอนที่ 3
มันอ่อนที่ใจ
ณรงค์ฤทธิ์กลับมาที่ไร่เขานั่งครุ่นคิดกับสิ่งที่ธนาและพิมพ์พูดเกี่ยวกับเดือนอ้าย ชีวิตของเธอตอนนี้มีเพียงแค่บ้านของยลดาและผู้ใหญ่บ้านเท่านั้นที่ดูแลอยู่ ซึ่งทั้งสองบ้านนี้ก็ได้เงินจาก ชายหนุ่มนั่นแหละที่ไปคอยช่วยเหลือ
เวลาผ่านมาไม่ถึงครึ่งเดือนนับจากวันที่ชายหนุ่มไปกินข้าวที่บ้านของยลดา ธนาก็โทรศัพท์มาส่งข่าวว่าตอนนี้พ่อของเดือนอ้ายได้เสียชีวิตแล้ว
“ผมรับเป็นเจ้าภาพทั้งสามคืนเลยนะครับ ส่วนค่าใช้จ่ายอย่างอื่นเดี๋ยวผมให้ทางผู้ใหญ่บ้านจัดการ เดือนอ้ายจะได้ไม่กระดากใจที่ต้องรับ”
งานศพทั้งสามคืนเป็นไปแบบเรียบง่ายแม่ของเดือนอ้ายไม่ได้มาร่วมงานเพราะป่วยติดเตียงอยู่แต่ก็รับรู้ว่าสามีของเธอได้จากไปแล้ว
“แม่จ๊ะอ้ายไปสวดศพพ่อก่อนนะ สวดเสร็จจะรีบกลับมาเพราะตอนกลางคืนมีพวกที่เขาเล่นการพนันกันมาอยู่เป็นเพื่อนพ่อให้”
ละเอียดได้แต่นอนน้ำตาไหลรินที่ถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิตเธอก็ไม่มีโอกาสไปส่งสามีเพราะตัวเองก็คงเหลือเวลาอีกไม่นานที่จะตามสามีไปอยู่ห่วงก็แต่ลูกสาวที่จะต้องอยู่คนเดียวพร้อมกับหนี้สินจำนวนมาก
เดือนอ้ายเมื่อเสร็จจากสวดศพบิดาเธอก็อยู่ส่งแขกได้ไม่ถึงสิบนาทีก็รีบปั่นจักรยานกลับมาดูแม่เพราะไม่อยากทิ้งให้มารดาอยู่คนเดียวนาน ๆ เพราะหญิงสาวรู้ว่าตอนนี้ทุกนาทีมีค่า แม่ของเธอจะจากไปตอนไหนก็ไม่รู้
“แม่ แม่นอนหรือยัง”
เดือนอ้ายส่งเสียงมาก่อนที่ตัวจะถึงบนบ้านเพราะเธอแค่หวังจะได้ยินเสียงตอบกลับจากมารดา มันก็ทำให้หัวใจของเธอ ชุ่มชื้นได้ว่าแม่ยังอยู่กับเธอ
“หลับไปเพิ่งตื่น” ละเอียดตอบด้วยเสียงที่แผ่วเบา
“วันนี้ผู้ใหญ่บ้านเอาขนมมาเลี้ยงแขกให้อร่อยมากเลยนะ อ้ายได้ยินคนที่มาในงานพูดกันว่า ราคาชิ้นหนึ่งสิบกว่าบาทเลย อ้ายเอามาฝากแม่ด้วย”