บท
ตั้งค่า

4

Chapter 4

อารตีเหยียดริมฝีปากใส่ลูกเลี้ยงโดยที่ไม่ให้สามีเห็น นางจงใจพูดให้อญู่ร่าฟังว่าผู้เป็นน้องสาวก็เรียนจบกลับมาไม่แพ้กัน แถมยังจบจากเมืองนอกเมืองนาเสียด้วย

อญู่ร่ากับฟาตีมาอายุห่างกันไม่กี่เดือน อญู่ร่าเกิดก่อนเล็กน้อยเพราะตอนที่ฟาฮัสอยู่กินกับซารีฟา มารดาของอญู่ร่าก็มีภรรยาอีกคนที่ซุกซ่อนเอาไว้คืออารตีและมีบุตรสาวที่เกิดจากนางด้วยเช่นกัน

“น้องฟาจะกลับมาแล้วเหรอคะ” อญู่ร่าเอ่ยถาม เธอมิได้น้อยใจที่ได้เรียนแค่เมืองไทย แต่เพราะไม่อยากรบกวนเงินบิดามาก ปกติระหว่างเรียนก็หางานทำในช่วงปิดภาคเรียนบ้าง ด้วยรู้ดีว่าบิดาต้องส่งเสียน้องสาวที่เรียนอยู่ต่างประเทศ

ฟาตีมานั้นเป็นบุตรสาวอีกคนของบิดา มันอาจเกิดจากความผิดพลาดโดยไม่ได้ตั้งใจแต่ฟาตีมาก็ถือกำเนิดขึ้นมา ในระหว่างที่มารดาของเธอก็มาจากไปเพราะโรคร้าย บิดาอยากให้เธอมีคนดูแลจึงรับอารตีมาอยู่ด้วย คราแรก เธอก็เสียใจร้องไห้หนักว่าบิดาไม่รักมารดาอีกแล้วเพราะยังเด็กมาก แต่เหตุผลของท่านเธอจึงยอม เธออยากให้ท่านมีความสุข

อารตีนั้นชอบทำดีต่อหน้าบิดา แต่พออยู่กับเธอก็ชอบพูดจาแขวะอยู่บ่อยๆ แต่เธอเห็นนางเอาใจใส่บิดาดีจึงไม่อยากมีปัญหา ตาและยายของเธอรับเธอไปอยู่ในช่วงเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ตอนนั้น เธอจำความทุกอย่างได้ดี พอปิดเทอมก็จะกลับมาหาบิดาที่บ้าน โดยมีพี่เลี้ยงคนสนิทอย่างโซเฟียคอยดูแล เมื่อเรียนจบมัธยมปลาย เธอสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยชื่อดังทางใต้ได้ และไม่ค่อยได้กลับบ้านมากนัก ส่วนพี่เลี้ยงอย่างโซเฟีย เธอก็ขอให้ช่วยดูแลตากับยายซึ่งอีกฝ่ายก็ยินดี

“จ้ะ งั้นรอเลี้ยงฉลองพร้อมกันเลยดีกว่าดีไหมคะคุณ” อารตียิ้มหวาน หันไปพูดกับสามีเสียงอ่อนเสียงหวาน

“ดีสิ พี่น้องเรียนจบพร้อมกันจะได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา” ฟาฮัสพูดอย่างปลาบปลื้ม

“คุณหิวหรือยังคะ เดี๋ยวดิฉันปอกผลไม้ให้ดีกว่า” อารตีเอาใจสามี ฟาฮัสพยักหน้าเบาๆ ยิ้มแย้มกับภรรยา อญู่ร่าจึงเอ่ยขอตัวเมื่อลึกๆ เธอก็รู้นึกน้อยใจบิดาอยู่มาก แต่ไม่เคยปริปากพูดอันใด

“หนูขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวขอกลับไปเปลี่ยนชุด แล้วจะมาเฝ้าคุณพ่อค่ะ” อญู่ร่าบอกบิดายิ้มๆ

“ไม่ต้องหรอกจ้ะ คุณพ่อของหนูไม่เป็นอะไรมาก เดี๋ยวน้าจัดการเอง พรุ่งนี้หมอก็ให้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว” อารตีเอ่ยบอกอย่างยิ้มแย้ม ไม่อยากให้พ่อลูกอยู่ด้วยกันมากนัก

“จริงด้วยลูก กลับมาเหนื่อยๆ แล้วเจอกันที่บ้านนะ ให้น้าเขาเฝ้าก็ดีแล้ว คุณพ่ออยากให้หนูพักผ่อน” ฟาฮัสรีบบอกด้วยความเป็นห่วง เห็นบุตรสาวเหน็ดเหนื่อยจากงานรับปริญญา จึงไม่อยากให้ต้องมาลำบากลำบนเฝ้าคนป่วยอยู่โรงพยาบาลอีก

“งั้นหนูขอตัวนะคะ” อญู่ร่าขอตัวอีกครั้ง นึกน้อยใจอยู่เหมือนกันที่ท่านไม่ขอให้เธออยู่ข้างๆ

“ลูกเรานี่เก่งๆ ทั้งนั้นนะคะ เรียนจบทั้งสองคนเลย” อารตีเอ่ยบอกสามีเมื่อลับร่างลูกเลี้ยงสาวไปแล้ว

“จริงด้วย ผมต้องรีบหาย เราจะได้กลับไปฉลองกัน” ฟาฮัสพูดยิ้มๆ นึกปลาบปลื้มใจจนอาการป่วยแทบหายเป็นปลิดทิ้ง

“คุณรอฉันเดี๋ยวนะคะ จะไปซื้อผลไม้กับของกินอย่างอื่นมาเพิ่ม เผื่อคุณหิว กินบำรุงเยอะๆ คุณจะได้ป่วยเร็วๆ” อารตีรีบบอกเอาใจ

“นี่ก็เยอะแล้ว ไม่ต้องแล้วแหละคุณ” ฟาฮัสคิดว่าของบำรุงและผลไม้ที่ซื้อมาบ้าง มีคนนำมาเยี่ยมบ้างก็มากมายจนเขาทานไม่หมด จึงส่ายหน้าเบาๆ ไม่อยากให้ภรรยาต้องเหนื่อยลงไปหาซื้อให้สิ้นเปลืองอีก

“เถอะค่ะ เผื่อคุณหิว ต้องทานบำรุงเยอะๆ เชื่อฉันสิ ฉันไปแป๊บเดียวเอง นะคะ” อารตีพูดเสียงอ่อนหวานไม่รอคำทัดทานของสามีอีก

เมื่อทุกคนพ้นออกจากห้องไปแล้ว สีหน้าแช่มชื่นของฟาฮัสก็กลับมาหมองเศร้าเคร่งเครียดอีกครั้ง เขาไม่อยากบอกภรรยาและบุตรสาวว่าตอนนี้กิจการโรงแรมกำลังประสบปัญหาหนี้สิน อยากแบกรับความทุกข์ใจเอาไว้เพียงผู้เดียวเท่านั้น

อารตีเดินตามลูกเลี้ยงสาวออกมาได้ทันตามความประสงค์ ถ้อยคำที่มิต้องเสแสร้งเปล่งออกมาทันที

“เดี๋ยวก่อนสิ”

เสียงแข็งที่เอ่ยตามหลังมานั้นทำให้อญู่ร่าหันมองอย่างเหนื่อยหน่ายใจ

“มีอะไรเหรอคะคุณน้า”

“หึ อย่าคิดว่าเรียนจบกลับมาแล้วเธอจะสู้ฟาตีมาได้ ยังไงฟาตีมาก็เรียนถึงเมืองนอกเมืองนา กิจการโรงแรม ยังไงมันก็ต้องเป็นของลูกสาวคนเดียวของฉัน ไม่ใช่นังลูกกำพร้าอย่างเธอ”

“ถึงหนูจะกำพร้าแม่แต่ไม่ได้กำพร้าพ่อนะคะ เพราะใครล่ะ ทำให้แม่หนูต้องตาย หากไม่ใช่ผู้หญิงแบบคุณ”

“นี่เธอ”

“ที่หนูไม่เคยเล่าความร้ายกาจของคุณให้คุณพ่อฟังเพราะไม่อยากให้ท่านไม่สบายใจ แต่หนูไม่ได้คิดกลัวคุณหรอกนะคะ กิจการโรงแรมเป็นสิ่งที่คุณพ่อกับคุณแม่สร้างมากับมือ หนูจะพัฒนาและช่วยคุณพ่อดูแล ไม่ได้คิดอยากจะฮุบเหมือนใครบางคน”

“ปากดีนักนะ คอยดูกันต่อไป ความจริง ฉันไม่อยากจะพูดหรอกนะ พ่อเธอน่ะ พอลูกๆ ไปเรียนก็ถามถึงแต่ฟาตีมา ไปอยู่เมืองนอก ทานอาหารได้ไหม อากาศเป็นยังไงบ้าง ส่วนเธอ นานๆ จะถามถึงสักครั้ง ถ้าฉันไม่เอ่ย พ่อเธอก็ไม่คิดจะใส่ใจ”

อญู่ร่าเม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่อยากเสวนากับผู้หญิงร้ายกาจคนนี้สักนิด และไม่เชื่อคำลวงของอารตีด้วย เธอมั่นใจว่าบิดารักเธอไม่ต่างจากฟาตีมา ถึงแม้ฟาตีมาจะถือกำเนิดจากอารตี หญิงสาวที่ใจร้ายกับเธอเรื่อยมา แต่เธอก็รักน้องสาวของเธอ หลายครั้งหลายคราที่ฟาตีมาโทร.มาหาเธอ ถามข่าวเธอบ่อยครั้ง ส่งเงินมาให้เธอโดยที่เธอไม่ได้ขอเพื่อแบ่งเป็นค่าเทอม ซึ่งเงินนั้นเป็นเงินที่อารตีบอกว่าจะส่งให้เธอแต่กลับไม่ได้ทำตามที่พูด บิดาของเธอไม่เคยทราบเรื่องและเธอก็ไม่เคยปริปากบอกเพื่อไม่ให้ท่านกังวลใจ

ฟาตีมาเป็นคนขยันทำงานพิเศษเหมือนเธอตอนอยู่เมืองนอก ไม่ได้งอมืองอเท้ารับเงินจากบิดามารดาที่ส่งเสียให้เรียนเหมือนใครหลายคน น้องสาวของเธอน่ารัก และเธอก็รักน้องสาวคนนี้มากด้วย

น่าแปลกที่เธอควรต้องอิจฉาฟาตีมา แต่มันไม่เคยอยู่ในหัวสักนิด และน่าแปลกที่ฟาตีมาต้องเกลียดชังเธอตามมารดาอย่างอารตี แต่มันก็ไม่เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน

“คุณน้ามีธุระจะพูดแค่นี้ใช่ไหมคะ” อญู่ร่าเอ่ยถามเสียงเรียบดวงตาจ้องมองมารดาเลี้ยงอย่างไม่คิดเกรงกลัว

“เดี๋ยวนี้เก่งขึ้นนี่ หนีไปเรียนปริญญาตั้งสามสี่ปี ไม่คิดว่าจะกำแหงแบบนี้” อารตีบีบไหล่ลูกเลี้ยงอย่างเกลียดชัง

“ปล่อย” อญู่ร่ากระชากแขนกลับมามองอีกฝ่ายด้วยดวงตาแข็งกร้าว

“แต่ฉันว่าเธอไม่มีวันชนะฉันหรอก เหมือนแม่ของเธอ หึหึ” อารตีเหยียดยิ้มให้ลูกเลี้ยงสาวก่อนเดินจากไป

อญู่ร่ามองตามร่างมารดาเลี้ยงแสนร้ายกาจไปด้วยดวงตาอ่อนล้า ไม่ว่าจะกี่ปี นางก็ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน เธอรู้ว่ามารดาป่วยหนักแล้วเสียไป แต่ไม่คิดว่ามารดาเลี้ยงคนใหม่ที่บิดาชื่นชมนักหนาจะร้ายกาจและใจดำเช่นนี้

อญู่ร่ากลับถึงบ้านด้วยสีหน้าอ่อนระโหย เธอมองรอบบ้านด้วยสายตาเลื่อนลอย ความทรงจำในวัยเด็กผุดขึ้นมาอีกครั้ง

“คุณรตี ยัยหนูร้องใหญ่เลย ไม่รู้เป็นอะไร” ฟาฮัสเอ่ยบอกภรรยาสาวด้วยความเป็นกังวล

“เหรอคะ ยัยหนูร้องเหรอคะ โอ๋ๆ ๆ เดี๋ยวฉันดูแลเองค่ะ คุณอุ้มยัยฟาออกไปเล่นข้างนอกก่อนก็ได้ เดี๋ยวราร่าให้รตีจัดการเอง”

“ผมฝากลูกด้วยนะ สงสัยคงคิดถึงซารีฟา”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel