4 ลีน่าหายไป
“ทำอะไรมีความคิดหน่อยสิลีน่า”
พอลเตือนลีน่าเสียงดัง เพื่อให้เธอรู้ว่าเขาไม่พอใจ
“นี่คุณ หาว่าฉันไม่มีความคิดเหรอ หยาบคายที่สุด ฉันจะไม่ทนกับคุณเหมือนกัน จอดรถเดี๋ยวนี้นะ นี่แน่ะ”
เท้าสวยเหยียบเบรกเต็มแรง รถหยุดอย่างกะทันหัน ท้ายปัดเป๋ไปมา พอลร้องลั่นด้วยความตกใจ
“ลีน่า คุณทำอะไร หยุดเดี๋ยวนี้นะ”
“ไม่หยุด ในเมื่อคุณพูดจาไม่ดีอย่างนี้ ฉันทนไม่ไหวอีกแล้ว ไปเลย จะไปลงนรกที่ไหนก็เชิญ ฉันไม่สนใจคุณแล้ว”
หญิงสาวเจ้าอารมณ์เปิดประตูลงจากรถ วิ่งแทรกตัวเข้าไปในป่าไม้ข้างทางด้วยความเร็ว พอลมองด้วยความตกใจ คิดไม่ถึงว่าคนรักจะตัดสินใจทำในสิ่งที่คนสติดีไม่ปฏิบัติ เขาล็อกรถแล้วลงมา และร้องเรียกหาเธอจนเสียงหลง
“ลีน่า เดี๋ยวก่อนสิ”
แต่หญิงสาวไม่สนใจ ร่างแบบบางหายลับไปอย่างไร้ร่องรอย พอลใจไม่ดี วิ่งลงไปตามหา เมื่อหลุดเข้ามาอยู่ในป่า หันมองซ้ายทีขวาทีแต่ไม่เห็นแม้เงา โมโหคนรักที่ทำนิสัยเหมือนเด็กเล็ก ๆ ที่ไร้ความคิด
ครู่หนึ่งเมื่อสงบสติอารมณ์ และคิดว่าการที่เธอทำอย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน ปล่อยไว้สักครู่ให้กลัว จะได้เลิกนิสัยเอาแต่ใจ
ชายหนุ่มก้าวขึ้นไปยืนอยู่บนถนนแล้วนั่งรออยู่ในรถเกือบครึ่งชั่วโมง ได้แต่หวังว่าลีน่าจะกลับมา แต่ไร้วี่แวว เขากระวนกระวายใจไม่น้อย
“ลีน่า ไปไหนนะ ทำไมไม่มาเสียที เราไม่ตามแล้ว ขับรถดูดีกว่าแล้วค่อยย้อนกลับมา คนอะไร สร้างปัญหาให้อยู่เรื่อยเลย”
ชายหนุ่มบ่นด้วยความหงุดหงิดและไม่สบายใจ จากนั้นขับรถไปจากตรงจุดเดิม วนเวียนอยู่ครู่หนึ่ง แล้วย้อนกลับมาอีกครั้ง ได้แต่หวังว่าจะเห็นคนรักมานั่งรอ
สุดท้ายกลับไม่เจอ คราวนี้รู้สึกเป็นห่วง โทรศัพท์เข้ามือถือ ปรากฏว่าเธอลืมเอาไว้ในรถ พร้อมกับกระเป๋าสะพายแบบสตรี
“อ้าว จบกัน ลีน่า นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่กลับมา หรือว่าเป็นอะไร งูกัด เสือคาบไปกิน โอ๊ย ตายแล้ว เราจะทำยังไงดี พ่อแม่เธอคงเล่นงานเราแน่ พาลูกสาวเขามาแล้วหายตัวไปอย่างนี้ ทำไมเธอชอบสร้างปัญหาอยู่เรื่อยเลยนะ”
ชายหนุ่มกลัวจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่โกรธคนรัก ก่อเรื่องจนเกิดปัญหาตามมา ซึ่งครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก ถ้าหากว่าหาเธอไม่เจอ เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
ทางด้านลีน่า หลังจากวิ่งลงจากรถคนรักด้วยอารมณ์โกรธ เธอเข้ามาในป่าที่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นเต็มไปหมด วิ่งมาชั่วครู่ก็รู้ว่าหลงป่า หาทางออกไม่เจอ ยิ่งเดินก็ยิ่งลึกทุกที สภาพแวดล้อมของป่าเปลี่ยนไป คล้ายกับป่าดงดิบ
ความกลัวเริ่มเข้ามาเกาะกุมหัวใจ เธอหยุดยืนนิ่ง ตั้งสติและส่งเสียงร้องเรียกพอลดังๆ
“พอล พอล คุณอยู่ไหนคะ”
เสียงนั้นดังก้องสะท้อนไปมา นกฝูงหนึ่งที่เกาะบนยอดไม้ บินฮือขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความตกใจ ตามด้วยเสียงสัตว์ร้องประสานเสียงกัน
“ว้าย ตายแล้ว ทำยังไงดี เราหลงป่าแล้ว พอล พอลคะ อยู่ที่ไหน ช่วยลีน่าด้วย ฮือ ฮือ เราไม่น่าทำอะไรบ้าๆ แบบนี้เลย”
หญิงสาวร้องไห้และโทษตัวเองที่ทำผิดอย่างไม่น่าให้อภัย พยายามหาทางออกด้วยความทุลักทุเล รองเท้าส้นสูงคืออุปสรรคที่ทำให้การก้าวเดินเชื่องช้า จนล้มลุกคลุกคลาน นอนพังพาบกับพื้น เนื้อตัวเต็มไปด้วยคราบฝุ่นดินสกปรกมอมแมม
“เราจะตายในป่านี่เหรอ ไม่ได้นะ พอล ช่วยด้วย ลีน่าผิดไปแล้วขอโทษ เจ้าป่าเจ้าเขาช่วยลูกด้วย ให้ออกไปจากป่านี้ด้วยนะคะ”
หญิงสาวร้องไห้ พลางยกมือขึ้นไหว้รอบตัว พยายามลุกขึ้นอีกครั้ง แต่รู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อเท้า รู้ทันทีว่าเท้าแพลง เธอจะทำอย่างไรที่จะรอดพ้นป่าแห่งนี้ ในที่สุดก็ถอดรองเท้าออก เดินโขยกเขยก และร้องลั่นเมื่อถูกหนามแหลมคมปักตำ
“โอ๊ย! เจ็บ ช่วยด้วย ฉันไม่ไหวแล้ว”
หญิงสาวยกหลังมือที่ถือรองเท้าข้างหนึ่ง ปาดน้ำตา ใบหน้ามอมแมมเต็มไปด้วยคราบเปื้อนดำเป็นทางยาว
แต่แล้วเธอก็ถึงกับสะดุ้ง เมื่อมีความรู้สึกว่าได้ยินเสียงคนพูดคุยกัน ดังใกล้เข้ามา เธอรีบหลบแอบเข้ากับหลังต้นไม้ด้วยความเร็ว
‘ผีป่า ผีเขาหรือเปล่า เงียบไว้นะ อย่าร้อง อย่าหายใจ ไม่ได้ เราต้องค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ นั่นไง เสียงมันใกล้เข้ามาแล้ว’
หญิงสาวเพ่งตามองออกมาทางด้านหลังต้นไม้ ด้วยหัวใจที่เต้นแรง และลุ้นระทึกว่าเสียงที่ได้ยินเป็นคนหรือผีป่า
“นายหัว เราเดินตัดป่านี้ออกไป ครู่เดียวก็ถึงถนนใหญ่แล้ว จากนั้นก็จะเรียกให้คนที่เหมืองเอารถมารับ”