บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 วันชี้ชะตา

วันรุ่งขึ้นขวัญข้าวมาทำงานด้วยความรู้สึกที่หดหู่ในหัวใจ วันนี้คงเป็นวันชี้ชะตาของเธอว่าจะได้ทำงานพิเศษที่รายได้ดีๆ แบบนี้ต่อไปหรือว่าจะโดนไล่ออก

“เฮ้อ...” หญิงสาวถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ขณะนั่งอยู่ในห้องแต่งตัว

“ทำใจดีๆ ไว้ก่อนนะข้าว บางทีอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่ข้าวคิดก็ได้” พนักงานสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาโอบไหล่หญิงสาวอย่างปลอบโยนและให้กำลังใจ

“ข้าวก็ภาวนาให้เป็นแบบนั้นค่ะพี่กุ้ง” ใบหน้าสวยเงยขึ้นมองพนักงานสาวรุ่นพี่ตาละห้อย

“ขวัญข้าว ผู้จัดการเรียกแน่ะ” พนักงานสาวอีกคนเปิดประตูเดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าของหญิงสาวพร้อมกับมองอย่างเห็นใจ ขวัญข้าวพยักหน้ารับช้าๆ ก่อนจะถอนใจออกมาอีกครั้ง แล้วลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องแต่งตัว ตรงไปยังห้องทำงานของผู้จัดการวัย 35 ปี

ร่างบางหยุดยืนที่หน้าห้องผู้จัดการสาวแล้วสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป แต่แล้วร่างบางก็ต้องชะงักไปนิดหนึ่งเมื่อเห็นร่างสูงของบุรุษหนุ่มนั่งหน้าเครียดมองมายังเธอเขม็ง ขวัญข้าวลอบกลืนน้ำลายลงคอแล้วก้าวเข้าไปอย่างช้าๆ ก่อนจะมาหยุดยืนก้มหน้าอยู่ที่หน้าโต๊ะใหญ่

‘ไหนว่าจะให้ผู้จัดการพาไปพบไง แล้วทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ละเนี่ย’ หญิงสาวคิดอย่างหวาดๆ พร้อมกับยกมือขึ้นไหว้เจ้านายหนุ่ม

“เอ่อ...” เมขลาทำท่าจะเอ่ยขึ้น แต่จิณณวัตรโบกมือห้ามเอาไว้ ดวงตาคมจ้องมองร่างบางตรงหน้าอยู่ชั่วครู่ก่อนจะหันมาทางผู้จัดการสาวพร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้าง

“คุณรู้ใช่ไหมว่าผมไม่ชอบให้ใครทำอะไรข้ามหน้าข้ามตาผม ทำไมคุณไม่รายงานผมเรื่องเด็กคนนี้”

“คือว่า...ตอนนั้นคุณเจมส์ไปต่างประเทศพอดีน่ะค่ะ แก้วก็เลยไม่ได้เรียนให้คุณเจมส์ทราบ แต่เด็กคนนี้เป็นเด็กดีนะคะขยันทำงานไม่เคยหยุดเลยสักวัน” เมขลายกข้อดีของขวัญข้าวขึ้นมาอ้างเผื่อว่าเจ้านายหนุ่มจะหายโกรธ เธอรู้ดีว่าชายหนุ่มซีเรียสกับเรื่องการรับพนักงานเข้ามาทำงานมาก เธอเองก็ผิดที่ไม่ได้รายงานเจ้านายหนุ่มก่อน แต่ที่เธอรับขวัญข้าวก็เพราะหญิงสาวเป็นเพื่อนกับน้องสาวของเธอและเป็นเด็กที่ขยันขันแข็งจริงๆ ทำงานในช่วงปิดเทอมเพื่อหาเงินส่งตัวเองเรียน ทำให้เธอสงสาร

“ผมไม่สนใจข้อแก้ตัวของคุณ คุณมีหน้าที่ที่จะต้องรายงานผมก่อนที่จะรับใครเข้ามาทำงาน คุณรู้ตัวใช่ไหมว่าคุณมีความผิด”

“ค่ะ” เมขลารับเสียงอ่อย

“พี่แก้วไม่ผิดนะคะ ข้าวเองที่ผิด ข้าวตื้อพี่แก้วเข้ามาทำงานที่นี่เองค่ะ” ขวัญข้าวบอกเสียงระรัวเพราะไม่ต้องการให้พี่สาวของเพื่อนร่วมห้องต้องมาเดือดร้อนในเรื่องของเธอ

ดวงตาคมหรี่ลงแล้วหันมาทางพนักงานสาวพาสไทม์อย่างดุดัน หญิงสาวรีบก้มหน้าหลบสายตาคมอย่างรวดเร็ว หัวใจเต้นระทึกจนแทบจะทะลักออกมาจากอก

“เธอไม่ต้องปากดีไปหรอก เธอเองก็ทำกิริยามารยาทไม่ดีกับลูกค้าตั้งหลายครั้งไม่ใช่เหรอ แล้วยังทำน้ำหกใส่กางเกงของฉันอีกโทษของเธอมันก็คือโดนไล่ออกอยู่แล้ว ไม่ต้องมาเสนอหน้ารับโทษแทนคนอื่นหรอกนะ” น้ำเสียงของชายหนุ่มเย็นเยือกเข้าไปถึงขั้วหัวใจของขวัญข้าวเลยทีเดียว เธอนึกไว้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้

“แต่แขกพวกนั้นมาจับก้นของข้าว เอ่อ...ของดิฉันก่อนนะคะ” ขวัญข้าวเถียงออกไป เธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องเถียงออกไปแบบนั้นด้วย

“ข้าว!” เมขลาเดินเข้ามากระตุกแขนของหญิงสาวอย่างปรามๆ ขวัญข้าวจึงก้มหน้าเม้มปากนิ่งอีกครั้ง จิณณวัตรหันมาทำตาดุใส่ก่อนจะกระตุกยิ้มที่มุมปาก

“คุณออกไปก่อนคุณแก้ว” เขาเบนสายตาไปทางผู้จัดการสาว ซึ่งเมขลาก็ทำท่าลังเลอย่างชั่งใจ ก่อนจะตัดสินใจเดินออกไปจากห้องของตนเอง

และเมื่อลูกน้องสาวเดินออกไปแล้ว ร่างสูงก็ก้าวเข้ามาหยุดยืนอยู่ใกล้กับร่างบางชนิดที่เรียกว่าห่างกันแค่ฝ่ามือเดียวเท่านั้น

“เธอก็น่าจะรู้นะว่างานในผับมันก็ต้องมีการถูกเนื้อต้องตัวกันบ้างเป็นธรรมดา ไม่งั้นก็จะไม่ได้ทิปงามๆ” น้ำเสียงห้าวดังอยู่ไม่ห่างจากใบหูขาวเนียน ขวัญข้าวใจเต้นระทึกจนจับจังหวะไม่ได้ เธออยากจะถอยหนีแต่ดูเหมือนว่าขาของเธอจะไม่ยอมทำตามความคิดของเธอเสียแล้ว

“เอ่อ...คือ...คือว่า...ดิฉัน...เอ่อ...” หญิงสาวติดอ่างจนเรียบเรียงคำพูดของตัวเองไม่ถูก แล้วเผลอเงยหน้าขึ้นมองสบกับดวงตาคมสีน้ำตาลเข้มของเจ้านายหนุ่มเข้าอย่างจัง เธอรู้สึกว่าความร้อนแผ่ไปทั่วดวงหน้าหวานอย่างฉับพลัน มุมปากหนาของจิณณวัตรยกขึ้นอย่างเยาะๆ แล้วถอยไปยืนอิงอยู่กับขอบโต๊ะทำงานพร้อมกับกอดอก

“ฉันรู้มาว่าเธอกำลังศึกษาอยู่ และต้องการทำงานหารายได้พิเศษเพื่อส่งตัวเองเรียนงั้นเหรอ”

“ขะ...ค่ะ” ขวัญข้าวตอบพร้อมกับพนักหน้าน้อยๆ

“แล้วทำไมต้องมาเลือกทำงานในผับด้วย งานอื่นมีตั้งเยอะแยะไม่ใช่เหรอ” คิ้วหนาเลิกสูงขึ้น

“คือว่า...เพื่อนบอกว่ารายได้ดีน่ะค่ะ” ขวัญข้าวตอบไม่เต็มเสียง แล้วมองอีกฝ่ายอย่างกล้าๆ กลัวๆ

“ที่แท้ก็พวกนักศึกษาอยากทำตัวไฮโซนี่เอง” จิณณวัตรเหยียดยิ้มที่มุมปากออกแล้วเอามือยัดลงไปในกระเป๋ากางเกงของตนเอง ก่อนจะพูดต่อ “ฉันเห็นมาเยอะแล้วพวกนักศึกษาที่หารายได้พิเศษแบบนี้เนี่ย ความจริงแค่แขกจับก้นนิดหน่อยเธอก็ไม่น่าจะโวยวายนะถ้าอยากได้เงินใช้ ก็ยอมๆ ไปก็สิ้นเรื่อง”

“ดิฉันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะคะ ดิฉันตั้งใจมาทำงานหาเงินเรียนจริงๆ ไม่ได้คิดที่จะเอาเงินไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแบบนั้นเลย!” น้ำเสียงของพนักงานสาวแข็งขึ้นเมื่อโดนดูถูกอย่างหยาบคาย จิณณวัตรจึงเดินเข้ามาใกล้หญิงสาวอีกครั้งด้วยสีหน้าที่บึ้งตึง

“ฉันไม่ชอบให้ใครมาตะคอกใส่หน้าฉัน แล้วถ้าเธอคิดอย่างที่เธอพูด งานในผับของฉันก็ไม่เหมาะกับเธอ!”

“นี่...นี่คุณกำลังจะบอกว่าจะไล่ฉันออกจริงๆ หรือคะ” ขวัญข้าวหน้าตื่น เพราะงานที่รายได้ดีๆ แบบนี้ไม่ได้หากันได้ง่ายๆ

“ใช่” คำตอบของชายหนุ่มหนักแน่นและชัดเจนมาก ทำให้ดวงตากลมโตเบิกกว้างมากขึ้นทั้งที่เตรียมใจเอาไว้แล้วว่ายังไงก็คงไม่พ้นถูกไล่ออก

“เมื่อกี้เธอพูดเองไม่ใช่เหรอว่าถ้าจะไล่คุณแก้วออก ให้ไล่เธออกแทน แถมความผิดของเธอก็สมควรกับการถูกไล่ออกแล้วนี่” จิณณวัตรเอ่ยขึ้นอีกครั้งพร้อมกับไหวไหล่

ขวัญข้าวจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่พอใจเพราะสิ้นเดือนนี้เธอจะต้องจ่ายค่าห้องเช่าแล้วไหนจะต้องไปจ่ายค่าเทอมๆ ต่อไปอีก ถ้าถูกไล่ออกแล้วจะไปหางานที่ไหนทำ งานสมัยนี้หายากยิ่งกว่างมเข็มอีก แล้วที่เธอออกรับแทนเมขลาก็เพราะเป็นห่วงอีกฝ่ายจะเดือดร้อนจนลืมนึกถึงตัวเอง หญิงสาวถอนใจอย่างแรงแล้วหมุนตัวเดินหน้าเศร้าไปที่ประตู แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อน้ำเสียงห้าวๆ ดังขึ้นอีกครั้ง

“เดี๋ยว!...แต่ถ้าเธออยากทำงานที่นี่ต่อละก็...” จิณณวัตรหยุดพูดแล้วเดินเข้ามาหาหญิงสาว ขวัญข้าวหันมาเลิกคิ้วสูงอย่างอยากรู้และมีความหวังขึ้นมาลิบลี่ๆ

“เธอต้องยอมเปลืองเนื้อเปลืองตัวบ้าง เธอยอมได้ไหมละ” มือใหญ่เชยคางมนแล้วลูบไปมาอย่างยั่วยุ ขวัญข้าวนิ่วหน้าลงอย่างขุ่นเคืองพร้อมกับปัดมือหนาออกด้วยความโมโห

“ถ้างั้นดิฉันยอมโดนไล่ออก แล้วผับแบบของคุณก็ใช่ว่าจะมีที่นี่ที่เดียวเสียเมื่อไร ฉันไปทำที่อื่นก็ได้!” พูดจบเธอก็สะบัดหน้าพรืดใส่เขา จิณณวัตรขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่พอใจ ก่อนจะดึงร่างบางเข้ามาประชิดลำตัว

“ว้าย!” ขวัญข้าวอุทานอย่างตกใจพร้อมกับยกมือขึ้นดันอกกว้างของชายหนุ่มเอาไว้ และยังไม่ทันที่เธอจะได้ตั้งตัวใดๆ ริมฝีปากหนาร้อนผ่าวก็กดทาบลงมาบนเรียวปากบางเสียแล้ว เสียงอู้อี้ถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอ ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจและไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มจะทำเช่นนี้ แล้วพอเรียกสติของตัวเองกลับคืนมาได้ก็ใช้กำลังของตัวเองที่มีอยู่ผลักร่างสูงนั้นออกห่างก่อนจะฟาดฝ่ามือเรียวลงไปบนใบหน้าคมเต็มแรง

เผียะ!

จิณณวัตรยกมือขึ้นลูบแก้มสากๆ ของตัวเองแล้วหันกลับมาจ้องหญิงสาวเขม็ง เกิดมาเขาก็เพิ่งเคยโดนผู้หญิงตบเป็นครั้งแรกนี่แหละ เสียเหลี่ยมชะมัด...

“คนเลว!”

“ถ้าเธอคิดจะทำงานในผับแบบนี้ละก็ เธอต้องยอมรับกับเรื่องที่เกิดขึ้นให้ได้ แค่จูบเมื่อกี้น่ะมันยังน้อยไปด้วยซ้ำ เธออาจจะเจอมากกว่านี้ถ้าคิดจะทำงานกลางคืนอยู่” ชายหนุ่มทำเสียงฮึในลำคออย่างเยาะเย้ย

“คนชั่ว! ฉันจะไม่เหยียบเข้ามาที่นี่อีกตลอดชีวิต!” พูดจบหญิงสาวก็วิ่งออกจากห้องไปพร้อมกับความโกรธแค้น เธออยากจะจับเขาฉีกเนื้อออกเป็นชิ้นๆ ที่ขโมยจูบแรกในวัยสาวของเธอไป เธอจะไม่มีวันให้อภัยผู้ชายคนนี้ไปตลอดชาติเลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel