6 จ้องที่จะเขมือบ 2
ชายสูงวัยยกมือจับบ่ามาริสา มองด้วยสายตาอ่อนโยน รู้สึกเศร้าใจกับชีวิตของเธอที่สูญเสียผู้ให้กำเนิดทั้งสองไปพร้อมๆ กัน และต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางหมาจิ้งจอกผู้หิวกระหาย จ้องที่จะกระชากเนื้อเธอให้ขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
“ค่ะ ลุงเทพ ขอบคุณมากที่ช่วยเหลือ”
หญิงสาวไหว้ทนายเทพด้วยกริยานอบน้อม ท่ามกลางสายตาเปล่งประกายวาวจากคมเวทย์ นึกกระหยิ่มยิ้มย่องด้วยความลำพอง พ่อแม่ของเธอไม่อยู่ โอกาสที่เขาจะได้กินนั้นง่ายกว่าเดิม
ขอแค่ให้มีโอกาส เขาจะขย้ำเนื้อขาวๆ ไม่ให้เหลือ กว่ากฤษณาจะรู้ก็สายเกินไป ในเมื่อเขาได้หลานสาวเธอเป็นภรรยาแล้ว แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นเขาก็ได้แค่คิดเท่านั้น
มาริสาสะดุ้ง เมื่อเปิดประตูห้องนอนออกมาเห็นคมเวทย์ยืนอยู่พอดี สายตาวาวๆ จับจ้องอยู่ที่หน้าอกสวยได้รูป แม้ว่าเธอใส่เสื้อยืดคอกลม แต่ก็ใจไม่ดีเพราะรู้ว่าคนที่ใฝ่ในเรื่องลามกสามารถเกิดอารมณ์ได้ทุกที่ แม้ว่าเหยื่อสวมเสื้อผ้ามิดชิดก็ตาม
“อุ๊ย อามนต์เสก มีอะไรหรือเปล่าคะ”
หญิงสาวถามด้วยเสียงสั่นๆ และระวังตัวเมื่อเขาประชิดตัวเข้ามา หน้าอกเกือบจะปะทะกัน ซึ่งก็ทำให้เธอขยะแขยงหนุ่มใหญ่คนนี้ที่สุด
“เป็นห่วง กลัวริสาจะเหงา ให้อาเข้าไปคุยในห้องได้ไหมจ๊ะ”
เขาพูดเสียงหวานกว่าปกติ พยายามดันร่างงามเข้าไปในห้องให้ได้ แต่เธอแข็งขืน ไม่ยอม เบี่ยงตัวหลบก่อนที่หน้าอกอวบจะปะทะกับอกแกร่งของเขา
มาริสารู้ว่าครั้งนี้คมเวทย์ต้องการที่จะจัดการเธออย่างเด็ดขาด หลังจากป้อไปป้อมาหลังครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จเสียที
“คุยกันข้างนอกก็ได้ค่ะ”
มาริสาเลี่ยงสุดกำลัง แต่หนุ่มใหญ่มือไวโอบเอวเธอไว้ ลมหายใจแรงๆ ที่เป่าปะทะคอระหง จนแทบอยากจะกรีดเสียงร้องดังๆ ด้วยความรังเกียจ หรือไม่ก็กลั้นใจตายไปเสียเดี๋ยวนั้นจะได้หลุดพ้นไปจากคนเลวที่ลวนลามอย่างไร้ศีลธรรม ไม่สำนึกว่าเธอคือหลานภรรยา ขณะความกลัวเข้าเกาะกุมหัวใจ เธอโดยไม่รู้ว่าประตูห้องนอนของกฤษณาแง้มออก ดวงตาวาววับจ้องราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
สาวใหญ่ทำท่าจะเปิดออกมาเล่นงานหลานสาวเพราะไม่ชอบที่สามีของเธอไปเกาะแกะ แต่ช้ากว่าเคนนี่พรวดมาจากไหนไม่รู้ ดึงมือมาริสาให้ออกห่างจากผู้เป็นอา
“อะไรกันครับอาคมเวทย์”
ชายหนุ่มเสียงดังด้วยความโกรธที่เห็นคมเวทย์กำลังลวนลามผู้หญิงที่เขาจ้องอยู่เช่นกัน
“หือ เคนนี่ ไม่มีอะไรนี่”
หนุ่มใหญ่ทำหน้าเหรอหรา ยกสองมือแบขึ้นได้อย่างกวนโทโสที่สุด แต่เคนนี่เดือดจัดเพราะเห็นกับตาว่าคมเวทย์คิดไม่ซื่อกับมาริสา
“ผมเห็นอาคมเวทย์ทำท่าจะจูบริสา”
“เฮ้ย ใส่ความน่า”
“อาอย่าโกหกผมเลย ริสามากับพี่ อย่าอยู่ใกล้ตาแก่จอมหื่นคนนี้”
“อ้าว ไอ้หลานนรก มาว่าอาตัวเองได้ไงวะ แกไม่รู้หรือไงที่มีกิน มีใช้ ได้นอนห้องดีๆ อยู่บ้านหรูอย่างนี้เพราะใคร”
“อาไม่ต้องทวงบุญคุณหรอก ผมรู้ว่าได้กิน ได้อยู่เพราะเงินของริสา”
เคนนี่ทำท่าจะกอดร่างงาม แต่เธอผลักออกสุดแรงด้วยความโกรธ จนเขาเซ เกือบล้ม โชคดีที่คว้าขอบโต๊ะหน้าห้องเอาไว้ทัน
“อย่ามายุ่งกับริสา”
“อ้าว ริสา ทำกับพี่เคนนี่ได้ไง พี่ช่วยไม่ให้ถูกคนแก่กอด กลับไม่ชอบ เอ๊ะ หรือว่าริสาอยากกินหญ้าแก่เหนียวๆ จ๊ะ”
“มันจะมากไปแล้วนะพี่เคนนี่ เห็นริสานิ่ง ไม่พูดอะไร พี่ชักลามปามใหญ่แล้วนะ ริสาว่าพี่อยู่เฉยๆ จะดีกว่า”
หญิงสาวขึ้นเสียงอย่างไม่ชอบใจ แก้วกับสาวใช้สองคนได้ยินทำท่าจะขึ้นมาชั้นบน คมเวทย์หันไปถลึงตาใส่ ปรามด้วยเสียงดังๆ
“พวกคนใช้ อย่ายุ่งเรื่องของเจ้านาย ถ้าไม่อยากถูกไล่ออกจากงานก็กลับเข้าห้องไปซะ แล้วอย่าให้เห็นทำตัวสอดรู้สอดเห็นอีกนะ”
แก้วซึ่งอาวุโสกว่าใคร ได้ยินดังนั้นหน้าตึง ไม่พอใจที่คนอาศัยบ้านเจ้านายมาทำตัวกร่าง ราวกับเป็นเจ้าของบ้านเสียเอง
“ฉันจะโทร.ไปบอกคุณทนายให้รู้เรื่อง”
แก้วเค้นเสียงลอดไรฟันอย่างโกรธๆ แล้วเข้าไปในห้องซึ่งอยู่ชั้นล่าง รีบโทรศัพท์หาทนายเทพ เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังอย่างรวดเร็ว
ทนายเทพตกใจเมื่อรู้สิ่งที่เกิดขึ้นกับมาริสา จึงจับตาดูสองอาหลาน ไม่ให้เข้าใกล้เธอ แล้วท่านจะหาทางจัดการกับเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด
ในเวลาเดียวกันคมเวทย์กับหลานชายกำลังใส่อารมณ์ แย่งตัวมาริสา พวกเขาทำราวกับว่าไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน
กฤษณาเปิดประตูออกมา มองสามีกับหลานชายอย่างโกรธๆ แล้วกระชากแขนหลานสาวตัวเองจนตัวปลิว
“มานี่ ยายริสา”
“โอ๊ย! อาณา มีอะไรคะ ริสาเจ็บ”
หญิงสาวร้องเสียงหลงเพราะกฤษณาออกแรงกระชากอย่างไม่ปรานีปราศรัย ทำราวกับว่าเธอเป็นทาสในเรือนเบี้ย คิดอยากจะทำอะไรก็ได้
“เจ็บแค่นี้ไม่เท่ากับฉันเจ็บหรอก”
กฤษณาลากหลานสาวไปยังห้องเล็กสำหรับให้แขกพักผ่อน คมเวทย์เห็นดังนั้น หน้าตาตื่น ตะโกนถามอย่างไม่ชอบใจนัก
“คุณจะทำอะไรหนูริสา”
“ไม่ต้องแส่ เชิญกัดกับหลานแย่งตัวเมียเถอะ”
สาวใหญ่ตะโกนกลับไปอย่างเหลืออด โดยไม่สนใจความรู้สึกของมาริสา
“อาณาคะ ทำไมพูดอย่างนั้นละคะ”
มาริสาช็อกกับคำพูดของกฤษณาที่เปรียบเธอเป็นสัตว์สี่เท้าได้อย่างหยาบคายที่สุด เธอเสียใจที่เคารพผู้หญิงคนนี้มาโดยตลอด
“ทำไมจะเรียกอย่างนั้นไม่ได้ ดูไอ้ตัวผู้สองตัวนั่นสิ มันแง่งๆ ใส่กัน แย่งที่จะกินเธอไง ห้ามเถียง แล้วฟังอย่างเดียว ถ้าคิดว่าฉันเป็นอาของเธอ”
มาริสาน้ำตาร่วงผล็อย เมื่อถูกผลักให้นั่งลงบนเตียงเต็มแรง กฤษณาไม่มีความปรานี ทั้งที่เธอเป็นเจ้าของบ้าน ออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างแต่เพียงผู้เดียว