5 จ้องที่จะเขมือบ 1
‘ไอ้มารความสุขมาแล้ว เมื่อไหร่มันจะตายให้พ้นๆ ซะที’ เขาด่าทนายเทพพร้อมกับฝืนยิ้ม ท่าทางร่าเริง ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“สวัสดีครับทนายเทพ มีอะไรหรือเปล่าครับ”
หนุ่มใหญ่เจ้าเล่ห์ถามพลางแสดงความสนิทสนมโดยจับแขนทนายเทพ ไม่เคอะเขินแต่อย่างใด ต่างจากทนายเทพข่มความรังเกียจจนสุดกำลัง
“ลุงเทพ สวัสดีค่ะ”
หญิงสาวสวัสดีทนายเทพด้วยความดีใจแล้วโผเขาไปเกาะแขนอีกข้างของเขาเอาไว้ด้วยหน้าตาตื่น ซึ่งเขาก็เข้าใจความรู้สึกของหญิงสาวดีว่ากำลังกลัวสองอาหลาน
“สวัสดี หนูริสา คือ ผมมาวันนี้ก็มาเกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ เหมือนเดิมนั่นแหละครับ”
“เรื่องเงิน โอ แต่คงไม่เกี่ยวกับผมหรอกนะเป็นแค่คนนอกเท่านั้น”
ครั้งแรกคมเวทย์แสดงความดีใจออกมา แต่ก็แค่เพียงครู่เดียวกลับเปลี่ยนท่าที ทำหน้าสลด พูดน่าสงสาร แต่มาริสาแอบมองด้วยความชิงชัง
“ผมจะมาจ่ายเงินเดือนให้คุณกฤษณาครับ”
เขาพูดพร้อมกับพามาริสาไปนั่งในห้องรับแขก คมเวทย์หน้าตึงที่รู้ว่าภรรยายังคงตำแหน่งเป็นพนักงานกินเงินเดือนบริษัทเหมือนเดิมทั้งที่พี่ชายตายไปแล้ว ขณะที่เคนนี่ตามไปประกบมาริสาด้วยความหวังว่าจะได้เข้าไปทำงานในตำแหน่งดีๆ แล้วกอบโกยผลประโยชน์ให้มากที่สุด
“อะไรนะคะ พี่ชายกับพี่สะใภ้ตายไปแล้ว แต่ฉันก็ยังเป็นแค่พนักงานเหมือนเดิม โอ ทำไมฉันไม่มีสิทธิ์มีเสียงในบริษัทล่ะ ทั้งที่เป็นผู้ใหญ่ที่สุด”
กฤษณาทำเสียงไม่พอใจหลังจากทนายเทพจ่ายเงินเดือนให้เท่าเดิม ขณะที่คมเวทย์กับเคนนี่ทำหน้าบึ้งตึง
“ครับ คุณยังทำงานเหมือนเดิม ตำแหน่งเดิม”
“ใครเป็นคนบอกให้ฉันอยู่ในตำแหน่งเดิม”
“คุณมานพได้อัดคลิปไว้แล้วครับ ว่าถ้าหากท่านมีอันเป็นไปก่อนที่หนูริสาจะถูกแต่งตั้งเป็นประธานบริษัท พนักงานทุกคนก็ต้องอยู่ในตำแหน่งเดิม และให้รีบแต่งตั้งหนูริสาเป็นประธานบริษัททันที”
“ผมไม่เชื่อ แกล้งแอบทำกันมากกว่า”
คมเวทย์เป็นเดือดเป็นแค้นขึ้นมาทันที เมื่อรู้ว่ากฤษณาไม่มีโอกาสเจริญเติบโตทางหน้าที่การงานเพราะพี่ชายไม่ยอมมอบตำแหน่งที่สูงกว่าเดิมให้
“อ้าว คุณคมเวทย์ครับ พูดอย่างนี้เท่ากับเป็นการหมิ่นประมาทผมนะครับ ถ้าจะให้ดี กรุณาอยู่เฉยๆ ฟังผมกับคุณณาก็พอ”
“ผมไม่ได้หมิ่นประมาท ถ้ามีคลิปของพี่มานพจริงละก็ คุณเปิดให้พวกเราดูสิครับ”
“นั่นสิคุณทนาย ผมคนหนึ่งละที่ไม่เชื่อว่าคุณลุงมานพจะสั่งเอาไว้อย่างนั้น ในเมื่อท่านเสียชีวิตไปแล้ว คนที่ได้เป็นประธานบริษัทน่าจะเป็นอาณานะครับ ในฐานะน้องสาวเพราะเป็นผู้อาวุโสสุด ส่วนรองก็น่าจะแต่งตั้งอาคมเวทย์ ส่วนริสาก็เป็นผู้จัดการเหมือนเดิม”
เคนนี่จัดแจงแต่งตั้งตำแหน่งให้กับอาทั้งสองเสร็จสรรพ ทนายเทพกับมาริสาพากันมองหน้า พร้อมกับถอนใจ รังเกียจต่อความงกของชายหนุ่ม
“อ้อ ลืมบอกไป สำหรับผมคิดว่าถึงเวลาที่จะเข้าไปช่วยงานริสาที่บริษัท ลุงทนายหาตำแหน่งผู้จัดการแผนกให้ผมบ้างสิครับ รับรองว่าผมจะทุ่มทำงานสุดชีวิตเลย เพื่ออนาคตของผมกับริสา”
หลังจากพูดจบ เขาทำตาเล็กตาน้อยใส่มาริสา เธอสะดุ้งหายใจไม่ทั่วท้อง ขยับเข้าไปใกล้ๆ ทนายเทพที่มองชายหนุ่มด้วยความไม่พอใจ
“ผมคงเอาคุณไปเบียดตำแหน่งพนักงานคนอื่นไม่ได้หรอกครับ ทุกคนทำงานดี มีความซื่อสัตย์ ถ้าคุณเคนนี่จะทำจริงๆ ก็มีพนักงานขับรถส่งของ”
“ตายแล้วทนายเทพทำไมพูดอย่างนั้นละครับ ดูถูกหลานชายผมนี่นา เคนนี่เรียนจบปริญญาตรี ที่บ้านก็มีฐานะทำงานอย่างนั้นได้ไง”
“ผมไม่ได้ดูถูก แต่เรื่องจริงครับ ผู้บริหารบางคนกว่าจะขึ้นมาอยู่ตำแหน่งสูงสุด เขาเริ่มต้นจากต่ำสุดครับ ถ้าคุณยังพูดไม่ดีกับผมอย่างนี้อีกละก็ จะหาว่าผมไม่เตือน”
“เบื่อ เล่นกับทนายไม่ได้เลย นิดๆ หน่อยๆ ก็จะฟ้องอย่างเดียว หัวหมอที่สุด เอาละไม่พูดเรื่องนี้แล้ว คลิปพี่มานพอยู่ไหน ผมอยากเห็น”
“ได้ครับ คุณคมเวทย์ ดูให้ดี ผมเก็บไว้ในไอแพดนี่แล้ว”
ทนายเทพพูดจบ มองหน้าสองสามีภรรยาที่ชะเง้อมองไอแพดด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็น ต่างจากมาริสาที่อนาถใจกับความเห็นแก่ตัวของอาตัวเองกับอาเขย และชิงชังต่อนิสัยเคนนี่ พยายามช่วยอาของตัวเองเพื่อช่วงชิงสมบัติของเธอไปครอง
“นี่ไงครับ เชิญดูให้สบายใจครับ”
สิ้นคำทนายเทพ ภาพและเสียงของมานพปรากฏขึ้น ทุกคนฟังตั้งแต่ต้นจนจบ มาริสาผ่อนลมหายใจช้าๆ โล่งอกที่บิดามีความรอบคอบ ไม่ปล่อยให้บริษัทตกอยู่ในอุ้งมือน้องสาว ขณะที่กฤษณามีสีหน้าเข้มขึ้นเพราะโกรธพี่ชายไม่ยอมให้อำนาจอะไรเลย
“พี่มานพไม่รักฉันเลย พี่จะรู้ไหมว่าฉันพยายามช่วยรักษาบริษัทให้หลาน แต่พี่กลับมองข้ามให้ยายริสาบริหารงานเพียงคนเดียว”
“หนูริสาไม่ได้บริหารคนเดียวครับ ผมก็ช่วยดูแล ควบคุมการเบิกจ่ายเงิน โดยทำตามขั้นตอนทุกอย่าง แล้วยังมีผู้จัดการแผนกต่างๆ อีก”
“เฮอะ งานนี้ทนายมานพก็เลยควบตำแหน่งทนายกับรองประธานสินะ ระวังเถอะนั่งควบสองเก้าอี้ ขาจะถ่างเอานะ”
คมเวทย์ไม่วายที่จะแขวะอีก แต่ทนายเทพนิ่งไม่ต่อปากต่อคำเพราะรู้นิสัยผู้ชายคนนี้ดีว่ามักใหญ่ใฝ่สูง เห็นแก่ตัว ไม่ยอมเสียเปรียบใคร รักความสบาย ขี้เกียจ ถ้าให้มาทำงานในบริษัทก็คงจะโกงกินสะบั้นหั่นแหลก ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ มาริสาจะไม่เหลืออะไรเลย
ลำพังแค่กฤษณายักยอกเงินก็มากพอแล้ว แต่เขาไม่เอาความเพราะเกรงใจมานพ ที่เคยบอกว่าให้น้องกินบ้าง เล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่ให้อำนาจในการบริหารบริษัท
ส่วนเคนนี่ผู้ชายที่เป็นศูนย์รวมแห่งความชั่ว พยายามที่จะรวบหัวรวบหางมาริสาเพื่อที่จะเสพสุขกับเงินของเธอ นิสัยเลวแบบนี้พอๆ กับผู้เป็นอา ทนายเทพกับคนรับใช้ในบ้านจึงพากันระวังผู้ชายสองคนนี้ไม่ให้เข้าใกล้มาริสา
“หวังว่าทุกคนคงจะเข้าใจแล้วนะ ส่วนหนูริสาทำใจให้สบาย เกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นสิ่งที่มนุษย์เลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ทำงานให้ดีที่สุดก็พอ”