7 รักเชียร์วาคิมให้เมทินี
“บอกพี่รักด้วย อย่าเที่ยวกันดึกนัก เราเรียนหนังสือ ส่วนพี่เขาจบแล้ว”
“แต่เราไปวันหยุดกันนะแม่ เออ รับรองว่าจะไม่บ่อยค่ะ”
“หา พูดอย่างนี้ก็หมายความว่าจะต้องมีรายการเที่ยวอีกน่ะสิ โธ่เอ๊ย เมื่อไหร่จะหยุดเที่ยวเสียทีนะ เรายังเป็นเด็กอยู่เลย เรื่องแบบนี้แม่ไม่ค่อยชอบ สมัยแม่เป็นวัยรุ่น....”
“แม่ไม่เคยเที่ยวเลย”
ลูกสาวต่อให้ทันทีเพราะฟังคำพูดแบบนี้จนชิน เสียงมารดาหัวเราะหึ ๆ ด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะโผเข้ามากอดเอาไว้แน่น หอมที่แก้มหนึ่งครั้ง บอกกับตัวเองว่ารักลูกจนสุดหัวใจ ไม่มีคำใด ๆ ที่จะอธิบายได้
ลูกคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากในชีวิต แม่ผู้มีความเป็นคนจะต้องรักลูกเทียบเท่ากับชีวิต แม้ว่าจะยากดีมีจนสักแค่ไหน ลูกคือสิ่งที่มีค่า
เหนื่อยยากแค่ไหนก็ต้องทนเพื่อให้ลูกได้รับในสิ่งที่ดี
“เรานี่ พูดมากจริง ไปนอนได้แล้ว”
“ค่ะ แม่ นอนก่อน ถ้าพ่อถามก็บอกว่า อ่านหนังสือดึกก็แล้วกันนะคะ”
“แม่ต้องกลายเป็นคนโกหกอีกแล้วหรือ เอาเถอะ แล้วจะช่วยพูดให้ก็แล้วกันนะ”
ผู้เป็นแม่ดันหลังลูกสาวให้เข้าไปนอนในห้องอย่างรวดเร็ว จากนั้นเข้าครัวเพื่อปรุงอาหารให้ลูกกับสามีด้วยความขะมักเขม้น
วาคิมลืมตาขึ้นมา เมื่อรับรู้ถึงปลายเล็บของหญิงสาวกำลังครูดแล้วลากไปตามแผงหน้าอก ลงมาถึงหน้าท้อง วนเวียนอยู่ที่สะดือ เรียกความตื่นเต้นให้เกิดขึ้นทันที
“ใครน่ะ ทำอะไร”
“ลันตา ไงคะที่รัก”
“อ้าว! ลันตาเองหรือ มีอะไร”
“คือว่า เช้า ๆ แบบนี้อากาศเย็น ฝนก็เพิ่งตกเมื่อตอนใกล้สว่าง”
“มีอะไรก็ว่ามา ไม่งั้นขอนอนต่อ”
“คือว่า เราไม่ทำอะไรให้มันตื่นเต้นหรือคะ”
“น่าเกลียด พี่ง่วง อย่ากวนได้ไหม กว่าพี่จะนอนเต็มอิ่มคงบ่าย”
“หา บ่ายเลยหรือ ไม่ดีกว่ามั้ง นานไป ลันตาอยากอยู่ในอ้อมกอดของพี่ให้นานที่สุดเข้าใจไหมคะ พี่วาคิม”
หญิงสาวออดอ้อนเสียงหวานให้วาคิมกอดตามที่ต้องการ แต่เขาคว้าเอาหมอนมาปิดหูตัวเองเอาไว้ ไม่พูด ไม่จา ทำเสียงกรนออกมาเบา ๆ
เธอมองด้วยสายตาขัดเคือง เบื่อ แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ในเมื่อผู้ชายไม่ปรารถนา จำต้องมองด้วยอาการที่เรียกว่าทำปากยื่นปากยาว
“บ้าจริง ผู้หญิงให้ท่าขนาดนี้ ทำเป็นไม่สนใจ เออขอให้เป็นอย่างนี้ตลอดเถอะนะ”
ร่างเซ็กซี่ในชุดเสื้อยืดกับกางเกงขนสั้นนอนหันหลังให้เช่นกัน แต่ไม่หลับ แอบส่งข้อความในโทรศัพท์มือถือให้ใครบางคน
“ตื่นหรือยังคะที่รัก คิดถึงจัง”
ส่งข้อความเสร็จ ล้มตัวลงนอน สีหน้าเต็มไปด้วยความสุข ส่งเสียงหัวเราะชอบใจ ไม่ใส่ใจว่าวาคิมจะได้ยินหรือไม่
ความจริงแล้วเขาหลับสนิทเพราะเป็นเวลานอนของคนทำงานกลางคืน ซึ่งจะต้องพักผ่อนให้เต็มที่ ก่อนที่จะตื่นขึ้นมาเพื่อไปเรียนหนังสือแล้วทำงานต่อ
ชีวิตวนเวียนเป็นเช่นนี้จนกว่าจะเรียนจบแล้วได้งานที่ถูกใจ แต่ก็ไม่ทิ้งทำงานพิเศษกลางคืนแบบนี้อีก
“เม เม พี่จะบอกอะไรให้ เมื่อคืนวาคิมไม่กลับจริง ๆ ด้วย”
“เรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับเมนี่คะ”
หญิงสาวทำเสียงไม่ใส่ใจ หลังจากเพื่อนรุ่นพี่โทรศัพท์มาบอกเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของวาคิม ขณะที่เธอเองกำลังรับประทานอาหารมื้อแรกเป็นข้าวหน้าไก่อบ แม่ทำให้ด้วยความตั้งใจ มีรสชาติอร่อยมาก
“อยากจะบอกเท่านั้น”
“ช่างเขาเถอะ ผู้ชายไปหัวหกก้นขวิดที่ไหนก็ได้”
“พี่คุยกับมันแล้ว บอกว่าตื่นเที่ยงและไปเรียนหนังสือ”
“ยังเรียนไหวอีกหรือ”
“มันก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ทำงานไปเรียนไป มันยังฝากมาบอกเมด้วยนะ ว่าคิดถึง อยากทำความรู้จัก”
ท่าทางรักจะทำตัวเป็นกามเทพเสียแล้ว แต่เมทินียังกลัวต่อความเจ้าชู้ ถ้าหากว่าเขาไม่หยุด มีผู้หญิงเรื่อยๆ เธอจะทำอย่างไร ต้องกินน้ำใบบัวบกตลอดไปหรืออย่างไร
“อย่าพูดเลยดีกว่า เจ้าชู้ขนาดนั้น”
“ไม่เจ้าชู้หรอก แค่ผู้หญิงให้ท่า”
“นี่แหละเขาเรียกว่าเจ้าชู้แล้ว ไม่ชอบเดี๋ยวจะเสียใจ”
“ไม่น่าตัดรอนน้ำใจ คุย ๆ บ้างก็ดีนะ”
รักเชียร์เพื่อนคนนี้เหลือเกิน คิดว่าคนอย่างเขาคงจะมีอะไรดีบ้าง ไม่อย่างนั้นคงไม่เข้าข้างกันถึงขนาดนี้ ใจหนึ่งเมทินีก็อยากลองคบกับเขาดูเหมือนกันแต่ยักท่าเอาไว้เท่านั้นเอง