บทที่ 3 นายแบบสุดฮอต 1.2
ห้องธาราเทียน ห้องจัดเลี้ยงขนาดสามสิบถึงหกสิบคน ภายในโรงแรมแกรนธารา โรงแรมชั้นหนึ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาคือสถานที่จัดงานเลี้ยงฉลองเรียนจบการศึกษาในครั้งนี้ โต้โผใหญ่ไม่ใช่ใคร วัชริศลูกชายเจ้าของเครื่องดื่มบำรุงร่างกายชื่อดัง ที่สั่งจองห้องจัดเลี้ยงพร้อมอาหารและเครื่องดื่มในโอกาสที่เขาและเพื่อนๆ จบการศึกษาในระดับชั้นปริญญาตรี
“ครีม ทางนี้ครีม” เสียงทุ้มของเจ้าภาพดังขึ้น พร้อมกับตัวที่เดินแกมวิ่งมาหาเพื่อนสาว
“มากันครบแล้วเหรอ” พิมวดีถามขึ้น เนื่องจากเธอมาช้ากว่าที่นัดหมายไว้เกือบครึ่งชั่วโมง ทั้งที่คิดว่าออกมาก่อนเวลาสองชั่วโมง แต่สุดท้ายก็มาไม่ทัน
“มาครบแล้ว ครีมเข้าไปในงานดีกว่านะ เพื่อนๆ รออยู่” พิมวดีเดินเข้าไปในงานพร้อมกับวัชริศเพื่อนสนิท
“ครีมทำไมมาช้าจังเลยล่ะ” กอแก้วเพื่อนสนิทอีกคนเอ่ยถามเมื่อเพื่อนสาวเดินมาถึงโต๊ะ
“รถติดน่ะ”
“เอ้า! ดื่มฉลองความสำเร็จกันหน่อย”
และเมื่อมาครบองค์ประชุม กอแก้วพูดพร้อมกับส่งแก้วแอลกอฮอล์ให้เพื่อนสาว พิมวดีกำลังจะเอื้อมมือไปรับ ทว่ามือของวัชริศยื่นมาจับแก้วเหล้าที่อยู่ในมือของกอแก้ว ก่อนจะส่งแก้วน้ำส้มให้หญิงสาวแสนดีแทน จากนั้นก็หันมาต่อว่ากอแก้ว
“แกจะบ้าหรือยังไงแก้ว ให้ครีมกินเหล้าเนี่ย รู้อยู่ว่าครีมกินเหล้าไม่เป็น”
“ฉันรู้หรอกน่าว่าครีมกินเหล้าไม่เป็น แกแหกตาดูให้ดีก่อนชายว่าฉัน ส่งอะไรให้ครีม สปาย มันคือสปาย”
“สปายมันก็มีแอลกอฮอล์เหมือนกัน แม้ว่าจะมีน้อยแต่ก็ถือว่ามี เพราะฉะนั้นมันก็เมาได้ไม่ใช่เหรอ แกอย่างเถียงให้ครีมกินน้ำส้มน่ะดีแล้ว พิมไม่เหมือนแกนี่” วัชริศเถียงสู้
“ฉันเป็นยังไง ไอ้คุณชาย บอกมาดีๆ นะ ตอบไม่ดีมีตบ”
กอแก้วรู้ดีว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนดีเทียบเท่าพิมวดี โดยเฉพาะผู้หญิงอย่างเธอที่ต้องปากกัดตีนถีบ ทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองและครอบครัว ด้วยการเป็นนักร้องในผับแห่งหนึ่งคุ้นเคยกับการดื่มสุรา เนื่องจากบางครั้งเธอต้องไปนั่งกับแขก พูดคุยและดื่มสุราเป็นเพื่อน แต่ไม่มีอะไรเกินเลยมากกว่านี้
“ไม่รู้สิ คิดเอาเอง”
“อย่าทะเลาะกันเลยนะ เป็นเพื่อนกันแท้ๆ อีกอย่างวันนี้เรามาฉลองเรียนจบนะ ไม่ได้มาทะเลาะกัน” พิมวดีออกโรงห้ามเพื่อนสนิททั้งสองคน
“ก็ไอ้คุณชายมันกวนบาทาก่อนนี่” พูดจบก็กระดกดื่มเหล้าด้วยความโมโห
“แกต่างหากที่กวน” วัชริศไม่ยอมแพ้ สวนกลับไปทันที
“ถ้าไม่เลิกทะเลาะกัน ครีมจะกลับบ้านนะ ทะเลาะกันตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสุดท้าย ไม่เบื่อบ้างหรือไง”
วัชริศกับกอแก้วเป็นทั้งเพื่อนสนิทและคู่กัด วันไหนไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงกันคงจะนอนไม่หลับ
“เลิกทะเลาะกันก็ได้ เห็นแก่ครีมหรอกนะ เอ้า! ชนแก้ว”
วัชริศพูดจบก็ยื่นแก้วไปข้างหน้า พิมวดีกับกอแก้วจึงยื่นแก้วไปชนกับแก้วของ เพื่อนชายจนเกิดเสียง ‘เคล้ง’ เบาๆ
“ครีมจะไปกระบี่เมื่อไหร่ล่ะ”
“ไปพรุ่งนี้ตอนบ่ายๆ จ้ะ”
“แก้วอยากไปกับครีมบ้างจังเลย อยากเห็นหน้าคุณชายของพี่พิมตัวเป็นๆ เขาคงหล่อกว่าในภาพเนอะ” กอแก้วกับวัชริศรู้เรื่องที่พิมวดีจะไปดินเนอร์กับเดวิส แคนดี้ แทนพิมพิชชาที่ได้รับสิทธิ์นั้น
“จะหล่ออะไรมากมาย ก็หล่อเท่ากับภาพถ่ายที่เราเห็นๆ กันนั่นแหละ” วัชริศขัดขึ้น
“อิจฉาคุณชายล่ะสิที่ได้ดินเนอร์กับครีม” กอแก้วตอกกลับเพื่อนชายจนอีกฝ่ายพูดไม่ออก
“ใคร ใครอิจฉา อย่างฉันน่ะหรือจะอิจฉาคุณชายอะไรนั่น ไม่มีทาง”
คนที่พูดกระดกแก้วสุราดื่มรวดเดียวหมดแก้ว จะว่าไปเขาก็อิจฉาเดวิสไม่น้อยที่ได้ดินเนอร์กับพิมวดี ผู้หญิงที่เขาแอบหลงรักมาตั้งแต่ปีหนึ่ง แต่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้เพราะไม่อยากให้คำว่าเพื่อนสนิทยุติลง
“เชอะ ให้มันจริงเถอะ แกอ้าปากฉันก็เห็นลิ้นไก่แล้ว”
กอแก้วโต้กลับ
“เอาอีกแล้ว ทะเลาะกันอีกแล้ว”
“ไม่ทะเลาะก็ได้” กอแก้วยอมเพื่อน และไม่อยากให้เสียบรรยากาศด้วย “ว่าแต่เรื่องไปเรียนต่อที่อังกฤษ ครีมจะเอายังไง บอกพี่พิมหรือยัง”
วัชริศตั้งใจว่า ถ้าหากพิมวดีไปเรียนต่อที่อังกฤษ เขาจะตามไปเรียน ต่อที่นั่นด้วย ได้ใกล้ชิด ได้ดูแลพิมวดีไปในตัว ปล่อยให้หญิงสาวไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองคนเดียวเขาเป็นห่วง
“ครีมจะสละทุนที่สอบได้เพราะพี่ต้นจะเป็นคนส่งครีมเรียนเอง พี่ต้นบอกว่าจะให้ครีมไปอยู่เซฟเฮาส์ของพี่ต้นในลอนดอนน่ะ ปลอดภัยและสะดวก”
“โห! เยี่ยมไปเลย อยากมีพี่เขยรวยๆ แบบครีมบ้างจัง เสียดายไม่มีพี่สาว มีแต่พี่ชายที่มีเมียเป็นพนักงานห้างฯ”
“แล้วครีมเรียนที่มหา’ ลัยอะไรล่ะ ชายจะได้ตามไปเรียนด้วยได้ถูก”
“ไม่รู้เหมือนกัน พี่ต้นบอกว่าจะหาที่เรียนให้ เห็นพี่ต้นบอกว่าเป็น มหา’ ลัยที่ดีที่สุดในลอนดอน” พิมวดีตอบตามคำพูดของติณณพัฒน์
“ถ้ารู้ชื่อที่เรียนแล้ว อย่าลืมบอกชายนะ” พูดจบก็กระดกดื่มน้ำเมาหมดแล้ว
“นี่ ไอ้คุณชาย แกกินให้มันน้อยๆ หน่อยได้ป่ะ เดี๋ยวก็เมาหัวทิ่ม ฉันไม่แบกแกไปส่งบ้านนะ” กอแก้วออกโรงเตือนเพื่อนเมื่อเห็นวัชริศดื่มสุราราวกับเป็นน้ำ
“ฉันเตรียมพร้อมไว้แล้ว ถ้าฉันเมาแกพาฉันไปส่งที่ห้อง 4709 นะ ฉันจองเผื่อเมาขับรถกลับบ้านไม่ได้ ทำตามที่เขาบอกไง เมาไม่ขับ” วัชริศล้วงหยิบคีย์การ์ดห้องที่เขาจองไว้ให้กอแก้ว แล้วจึงกระดกดื่มสุราที่เพิ่ง รินผสมใหม่จนหมดแก้วเหมือนเดิม
“ไอ้คุณชายนี่รอบคอบจริงๆ แสดงว่าแกเตรียมตัวเมาเต็มที่เลยใช่ป่ะเนี่ย”
“ก็ใช่น่ะสิ เรียนจบแล้วนี่ก็ต้องสุดเหวี่ยงกันหน่อย ไปเต้นกันดีกว่า ครีม แก้ว แล้วค่อยมาดื่มกันต่อ...ไปเร็ว”
วัชริศฉุดแขนเพื่อนสนิททั้งสองให้ออกไปยังฟลอร์ที่มีเพื่อนทั้งชาย และหญิงวาดลวดลายเท้าไฟกันอย่างสนุกสนาน ระหว่างที่ทั้งสามเต้นรำอยู่นั้น เพื่อนชายและเพื่อนหญิงยื่นแก้วน้ำดื่มมึนเมาให้วัชริศตลอดเวลา ซึ่งเจ้าภาพก็เต็มใจรับแก้วเหล้าของเพื่อนทุกคนมาดื่มจนหมด พอเริ่มตึงๆ ได้ที่ก็เดินขึ้นไปบนเวที สั่งให้นักดนตรีหยุดเล่น ทำให้เพื่อนๆ ที่กำลัง เต้นรำอยู่หยุดตามไปด้วย เขาชูแก้วเหล้าขึ้นสูงเหนือศีรษะ จดจ่อปากตรง ไมโครโฟน
“เพื่อนๆ ทั้งหลาย โปรดฟังคุณชายสุดหล่อสักนิดนะครับ วันนี้เรา มาฉลองความสำเร็จกัน เพราะฉะนั้น ไม่เมาไม่เลิก ถ้าใครเมาคุณชายจอง ห้องพักไว้ให้แล้วขึ้นไปนอนได้เลย เมาอย่าขับนะครับพี่น้อง เอ้า...ดื่ม”
เพื่อนชายและหญิงต่างโห่ร้องตามวัชริศที่กำลังกระดกดื่มน้ำสีอำพัน ที่อยู่ในแก้วจนเกลี้ยง จากนั้นก็เดินลงมาบนเวที มาสมทบกับเพื่อนสาวอีก สองคนที่เต้นรำตามจังหวะเพลงที่เริ่มต้นขึ้นใหม่
“ไอ้คุณชาย พอแล้ว จะกินอะไรนักหนาวะ เดี๋ยวตับแข็งก็ถามหาหรอก” กอแก้วเตือนเพื่อนอีกครั้ง หลังจากที่มองเพื่อนชายรับแก้วเหล้าจากเพื่อนคนอื่นไม่หยุด ดื่มราวกับว่าสุราคือน้ำเปล่าที่ไม่มีผลต่อสุขภาพ
“ม่ายเมา แค่นี้คุณชายไม่เมาหรอก เอิ๊ก” เสียงอ้อแอ้ของวัชริศพูดโต้กลับมา เรอเป็นการส่งท้าย
“เนี่ยนะไม่เมา จะเหมือนหมาเข้าไปทุกทีแล้ว”
“ม่ายเมา...ม่ายเมา ดูสิยังกินได้อีกหลายแก้ว”
วัชริศกระดกดื่มแก้วที่บรรจุแอลกอฮอล์ที่ไม่ผสมโซดาและน้ำแข็งไปจนหมดแก้ว ทำตาหยีเมื่อได้ลิ้มรสความเฝื่อนของสุราที่บาดคอเหลือหลาย
“แก้ว พาชายไปนั่งที่โต๊ะเถอะ ท่าทางจะเมาแล้วนะ”
พิมวดีเอ่ยบอกเพื่อนสาว ก่อนที่ทั้งสองจะลากคนที่บอกว่าไม่เมากลับไปนั่งบนโต๊ะตามเดิม พอพาวัชริศมาที่โต๊ะได้เพียงห้านาทีก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะหลับสนิทไปทันที
“ดูมันนะครีม ดูมัน ปากก็บอกว่าไม่เมา ไม่เมา ตอนนี้เป็นไงเมาเหมือนหมาไม่มีผิด”
“เราสองคนช่วยกันแบกชายไปบนห้องดีกว่านะ จะได้นอนหลับสบายๆ” พิมวดีออกความคิดเห็น
“ครีมจะกลับหรือยังล่ะ กลับไปก่อนก็ได้นะ ทางนี้เดี๋ยวแก้วจัดการเอง ขับรถกลับบ้านดึกๆ มันอันตราย”
กอแก้วก้มมองดูนาฬิกาของตัวเอง ก็พบว่าเวลานี้เกือบสี่ทุ่มแล้ว หากเพื่อนสาวขับรถกลับบ้านดึกกว่านี้จะอันตราย จึงบอกให้เพื่อนสาวกลับบ้านไปก่อน
“แก้วไหวเหรอ ตัวเล็กนิดเดียวจะแบกร่างตึกของชายไปได้ยังไงคนเดียว”
“ไม่ต้องห่วง เพื่อนๆ ก็ยังไม่กลับกันนี่ วานให้ใครช่วยแบกชายไปที่ห้องก็ได้ ไม่ต้องห่วงหรอก ครีมกลับบ้านเถอะนะ แก้วไปส่งชายที่ห้องก็จะกลับบ้านเลยเหมือนกัน”
“ถ้าแก้วบอกว่าจะกลับบ้านเลย งั้นครีมช่วยแก้วดีกว่า เราจะได้กลับพร้อมกัน อีกอย่างแก้วกลับบ้านดึกๆ อันตราย”
“ครีมกลับไปก่อนเถอะ แก้วเชื่อว่า ไอ้คุณชายต้องอ้วกแน่นอน แล้วถ้าอ้วกทีนี้ก็งานใหญ่ ก็ต้องเช็ดตัว เช็ดอ้วก อาจเสียเวลานาน จะยิ่งทำให้ครีมกลับบ้านช้าไปอีก อีกอย่างนะ ครีมก็รู้ว่า เวลากลางคืนคือเวลาทำงานของแก้ว กลับตีสองตีสามเกือบทุกคืน ครีมไม่เหมือนแก้วนะ ครีมกลับก่อนน่ะดีแล้ว”
“เอาอย่างนั้นก็ได้ พรุ่งนี้เจอกันที่มหา’ ลัยนะ”
“จ้ะ เจอกันที่มหา’ ลัย”
พิมวดีเดินออกไปจากห้องจัดเลี้ยงทันทีที่พูดจบ ระหว่างทางที่เดินออกไปเธอได้ทักทายกล่าวลากับเพื่อนที่มาร่วมงานไปตลอดทาง
“ไม่เมา ไม่เมานิดเดียวสิไม่ว่า”
กอแก้วพูดกับคนที่หลับสนิทบนโต๊ะ ก่อนจะเดินไปยังกลุ่มเพื่อนชายกลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ขอแรงให้ประคองร่างวัชริศไปส่งที่ห้องพัก ซึ่งเพื่อนชายกลุ่มนั้นให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี