5 อย่าหัวงู
เตชิตออกจากบ้านต่างจังหวัด เข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ เพื่อทำงานตามถนัด นานๆ ครั้งถึงจะกลับไปเยี่ยมบิดาสักครั้ง
“สวัสดีค่ะ จิต ช่วยเสิร์ฟเบียร์ให้นะคะ”
หญิงสาวส่งเสียงหวานเพื่อเรียกร้องความสนใจ รู้ว่าถ้าบริการดีๆ ผู้ชายจะให้ทิป ทั้งนี้และทั้งนั้นขึ้นอยู่ว่าขี้เหนียวหรือใจกว้างแค่ไหน
“ได้เลยน้องจิต โอ้โห สงสัยเป็นเด็กใหม่แน่ๆ พี่มาที่ร้านนี้หลายครั้งแล้ว ไม่เคยเห็นเราเลยนะ”
เพิ่มยศค่อนข้างขี้หลีกว่าเพื่อนเป็นคนทักขึ้นก่อน หญิงสาวโปรยยิ้มให้อีกครั้ง ก่อนที่จะหยิบแก้วเบียร์จากมือที่เขายื่นให้
“ค่ะ เพิ่งเข้ามาทำวันนี้เอง แก้วนี้ใส่น้ำแข็งหรือเปล่าคะ”
หญิงสาวกระซิบถามเสียงหวาน เพิ่มยศมีความรู้สึกว่าตัวเองมีความสำคัญไม่น้อย หัวใจพองโต เมื่อสาวเสิร์ฟคนสวยเอาอกเอาใจ ยอมให้จับมือ แค่เพียงเล็กๆ น้อยๆ ก็เพียงพอสำหรับคนที่เจ้าชู้และทำตัวเป็นเพลย์บอย
“ตามสะดวกเลย แล้ววางตรงนั้นแหละ แล้วนี่รับไปก่อนเป็นอันดับแรกหนึ่งร้อยบาท”
เงินแบ้งก์สีแดงวางลงบนโต๊ะ จิตเลขาใจพองฟู เพียงแค่เสิร์ฟแก้วเดียวได้เงินขนาดนี้ ถ้าทำจนงานเสร็จสิ้น ไม่รู้ว่าจะได้แค่ไหน เธอเอื้อมมือไปคว้า รักชาติผู้มีนิสัยไม่ต่างจากเพิ่มยศเติมเงินให้อีกหนึ่งร้อยบาท
“นี่เงินของพี่ แล้วอย่าลืมเสิร์ฟเบียร์ให้ด้วย”
“เฮ้ยๆ ไอ้รัก รูดนิ้วน้องเขาทำไม ข้ายังไม่กล้าเลย นอกจากดมห่างๆ แบบนี้”
สองหนุ่มทำตัวชีกอตลอดเวลา ชิดตะวันได้แต่มองด้วยความสังเวชใจ ไม่คิดว่าเพื่อนทั้งสองจะทำตัวเป็นเฒ่าหัวงู ทั้งที่อายุสามสิบกว่าแล้ว แต่ยังระริกระรี้กับหญิงสาวที่อายุน้อยๆ ถ้าจะให้คาดเดา สาวเสิร์ฟคนนี้อายุคงไม่ถึง 23 ปี
“น้อยๆ หน่อยเพื่อน น้องเขาเขินแย่แล้ว”
“แหม ไอ้ฤาษีชิด นานๆ ออกจากเหมืองพลอยที ไม่หนุกหนานบ้างหรือไง”
“เราเคยทำตัวแบบไหนก็เป็นอย่างนั้น นายเองก็ระวังหูเอาไว้ด้วยนะเพิ่ม ถ้าหากเมียรู้ล่ะก็ มีหวังยานถึงบ่า”
ชิดตะวันแกล้งเตือนให้สะดุ้งเท่านั้นเอง เพราะรู้ว่าเพิ่มยศเป็นคนที่กลัวภรรยามาก ซึ่งก็ได้ผล ร่างใหญ่ไหวเยือก หันหน้าหันหลัง มองรอบตัว กลัวว่าภรรยาจะแอบมาจิกเหมือนเมื่อครั้งก่อน กว่าจะรู้ตัวก็โดนซัดหน้าหงายจนเกือบตกเก้าอี้
“ขอร้องเถอะเพื่อน ถ้ามากับเรา อย่าเอ่ยถึงเมียได้ไหม มันแสลงใจยังไงไม่รู้”
“ใช่ๆ นายก็รู้นี่ชิด เมียไอ้เพิ่มดุยังกับเสือ”
“แล้วเมียนายละ ไม่ดุหรือไง เดือนที่แล้วเล่นไซด์เฮดล็อกเสียจนหลังนายเกือบเดาะ อย่าลืมสิผู้หญิงเวลาหึงน่ะ อะไรก็ห้ามไม่อยู่”
ชิดตะวันเอ่ยถึงนิสัยของผู้หญิงทั่วไป อีกทั้งพยายามปรามสาวเสิร์ฟคนสวย ห้ามเล่นหูเล่นตาหรือให้ท่ากับผู้ชายมากนัก ไม่เช่นนั้นอาจจะได้รับอันตราย เรื่องนี้จิตเลขารู้ดี ในขณะทำงานจะต้องมีลูกเล่นบ้างเพื่อดูดเงินจากกระเป๋าผู้ชายเจ้าชู้ ทันทีที่เลิกงาน จะไม่ขอยุ่งกับใคร นอกจากเรียนเพียงอย่างเดียว
“แล้วเมียพี่ล่ะ ดุแค่ไหน”
เวลานั้นจิตเลขาหมั่นไส้ อยากลองดีกับชิดตะวันเหมือนกัน เพราะเข้าใจว่าเขาดูถูกเธอมาก คงคิดว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี ชอบยั่วผู้ชาย
“ถามอย่างนั้นทำไมน้องจิต ไอ้คนนี้ยังไม่มีเมีย นอกจากแฟน เอ หรือว่าตอนนี้กลายเป็นคู่หมั้นไปแล้ว ชิดตะวัน”
“เพิ่ม เราไม่อยากเอาเรื่องส่วนตัวป่าวประกาศให้คนอื่นรู้ โดยเฉพาะ....”
ไม่เอ่ยออกมา ทิ้งปมปริศนาให้คิด ทว่าปรายตามองจิตเลขา ขณะนั้นหน้าร้อนวาบ มีความรู้สึกว่าเขาดูถูกอย่างแรง คิดว่าผู้หญิงกลางคืนไร้ค่า คอยดูเถอะจะแกล้งให้เข็ด ไม่ยอมให้เล่นงานเพียงฝ่ายเดียว
“อย่าคุยเรื่องซีเรียสเลยค่ะ เติมเบียร์นะคะ”
เธอรินเบียร์ลงในแก้วชิดตะวันจนเกือบเต็ม แล้ววางเอาไว้ เขาไม่แยแสที่จะยกขึ้นดื่ม ในใจเป็นกังวลเกี่ยวกับอรกช ผู้หญิงที่ทางบ้านเห็นว่าเหมาะสม จนถึงขั้นจะให้หมั้นหมาย แต่เขาพยายามบ่ายเบี่ยงโดยตลอด อาการเหม่อแบบนี้จิตเลขาถือโอกาสเอาพริกชิ้นโตใส่ลงไปในกับแกล้มแล้วตักวางบนจานให้อย่างเอาใจ
“ยำแหนม รสชาติดีนะคะ”
“ไม่ต้องตักให้ผมหรอกน่า มีมือ”
“อ้าว ชิด ทำไมพูดกับน้องอย่างนี้ล่ะ เสียกำลังใจแย่เลย น้องจ๋าอย่าถือสาหาความเลยนะ เพื่อนพี่มันไม่ใช่คนโรแมนติก”
รักชาติตำหนิเพื่อนเสร็จ แล้วหันมาเอาใจจิตเลขา โดยไม่รู้ว่าเธอแกล้งทำหน้าเศร้า จึงได้เงินทิปเพิ่มอีกสองร้อย ชิดตะวันมองด้วยความรู้สึกผิด แต่ไม่พูดอะไร นอกจากนั่งเงียบเพียงอย่างเดียว