6 เจ๊กับเฮีย
จิตเลขาบริการเสิร์ฟเบียร์ที่โต๊ะชิดตะวันแล้ว เธอยังรับผิดชอบอีกสามโต๊ะ เข้าไปดูแล วนเวียนสลับกันไปมา ส่วนใหญ่เจอลวนลามด้วยการจับ ลูบไล้ หรือจีบด้วยคำพูด พวกที่คิดจะอ๊อฟออกไปข้างนอกก็มีเหมือนกัน
หญิงสาววิ่งหลบเข้ามาหลังร้าน เจ๊ผู้จัดการมองด้วยความแปลกใจ รีบปรี่เข้ามาซักไซ้ไล่เลียงโดยเร็ว
“จิต เป็นอะไร ทำไมถึงวิ่งหน้าตื่นเข้ามาแบบนี้ ไปช่วยเพื่อนเก็บโต๊ะสิ เธอจะได้กลับบ้าน นี่มันก็ดึกแล้วนะ”
“เจ๊ ช่วยด้วย ผู้ชายจะอ๊อฟจิตออกไปนอนด้วย จิตไม่ทำนะ”
“เธอนี่เรื่องมากจริง ถือว่าสวยเลือกได้หรือไงยะ ใครๆ เขาก็ทำกันทั้งนั้น ไหนว่าต้องการเงินไงล่ะ นี่แหละคือหนทางที่จะทำให้เธอมีเงินเพิ่มขึ้น นิดๆ หน่อยๆ ไม่เสียหายอะไร แต่ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ”
ผู้จัดการร่างอวบโน้มน้าวให้รับงานพิเศษ ทว่า จิตเลขาปฏิเสธอย่างเดียว ขยะแขยงต่อรูปร่างหน้าตาไม่ชวนมอง อีกทั้งกลิ่นเหม็นจากเครื่องดื่มและอาหาร พูดออกมาแต่ละคำ ฟุ้งเข้าจมูก แทบอาเจียน
“ไม่ดีกว่า จิตขอเสิร์ฟอย่างเดียว”
“ตามใจ แต่ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะใจแข็งไปสักกี่น้ำ ถ้ารู้ว่าเงินดี ไป ช่วยกันเก็บโต๊ะ”
“แล้วผู้ชายคนนั้นล่ะ ยังรออยู่เลย”
“เออ ฉันจะไปพูดเอง ถ้ามันจะเอาเด็กที่ร้านไปจริงๆ ล่ะก็ ฉันนี่แหละจะเสนอตัว ถ้าโอเคก็คงไม่มีปัญหา”
แทบไม่เชื่อเลยว่าผู้จัดการสาวใหญ่หุ่นอวบกล้าที่จะเอาตัวเข้าเสี่ยงกับผู้ชายขี้เมา เพียงไม่นานจิตเลขาก็เห็นขึ้นรถไปด้วยกัน
ผู้จัดการร้านร่างอ้วนก็แซบไม่ใช่เล่น ทุกครั้งที่ลูกค้าไม่สมอารมณ์หมายกับเด็กเสิร์ฟในร้าน เธอจะเสนอตัวสนองความใคร่โดยขายในราคาที่ลูกค้ารับได้
คืนนี้เธอมากับลูกค้าขี้เมา วัยเกือบ 50 ปี หน้าตาขี้เหร่ ผิวคล้ำ รูปร่างอ้วนฉุ ไม่น่าพิศวาส แต่เธอเห็นว่าเขากระเป๋าหนักจึงยอมเอาตัวเข้าแลก และเขาก็ไม่รังเกียจหญิงอ้วนที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยไขมัน
โรงแรมม่านรูดใกล้กับร้านคือสถานปลดปล่อยความใคร่ของผู้ที่มีความต้องการเรื่องเซ็กซ์ ในยามค่ำคืนมีผู้มาใช้บริการเกือบทุกห้อง
ผู้จัดการร้านร่างอ้วนเดินกระมิดกระเมี้ยนเข้าไปในห้อง ทำท่าราวกับเด็กสาวไร้เดียงสาที่ไม่เคยต้องมือชายมาก่อน
“เพรียวต้องขอโทษเด็กในร้านด้วยที่ไม่ตามใจเฮีย”
เธอแทนตัวเองว่าเพรียวซึ่งขัดกับรูปร่างจนผู้ซื้อบริการที่อัปลักษณ์ความหล่อถึงกับสะดุ้งจนแทบหายเมา
เขาสำรวจร่างอ้วนที่สวมเสื้อสายเดี่ยวรัดรูปเห็นก้อนไขมันช่วงหน้าท้องเป็นชั้นๆ พลางถอนใจเฮือกใหญ่
“เจ๊ชื่อเพรียวเหรอ”
เพรียวสะดุ้งค้อนควักทำหน้าคว่ำ แล้วหยิกแก้มดำๆ ที่เต็มไปด้วยริ้วรอยปรุของสิวหัวช้างจากลูกค้าหนึ่งที
“อย่าเรียกเจ๊สิคะ เพรียวอายุน้อยกว่าเฮียตั้งหลายปี”
“อาจจะใช่ อายุน้อยกว่าผม แต่หน้าล้ำไปไกล”
“ว้าย! เฮีย พูดจาไม่เพราะเลย ไม่เอานะคะ ไม่พูด เรามาหาอะไรทำสนุกๆ ทำกันดีกว่า ขึ้นไปนอนบนเตียงสิคะ”
“จะไหวรึ หุ่นยังกับช้างพังอย่างนี้”
“เฮียน่าชอบพูดแบบนี้อยู่เรื่อยเลย ถึงหุ่นน้องจะไม่เซี๊ยะ แต่ก็ทำให้เพลียได้นะคะ เชื่อมืออีเพรียวสิ คุ้มกับเงินที่เฮียเสียไปแน่นอนค่ะ”
“เอาเป็นว่าเราอาบน้ำกันดีกว่า”
แม้ว่าผู้ซื้อบริการจะมีรูปร่างหน้าตาไม่ชวนมอง แต่รักความสะอาด ไม่ยอมมีอะไรกับเพรียวโดยไม่อาบน้ำ
“เฮียน่ารักที่สุดเลย อย่างนี้ก็ต้องสุดเหวี่ยงให้เต็มที่หน่อยแล้ว”
“เอาเป็นว่าเดี๋ยวก็รู้กันว่าจะเอายังไง”
เขาพูดจบถอดเสื้อผ้าแล้วเหวี่ยงลงไปพาดบนเก้าอี้ โชว์ร่างเปลือยที่น่าเกลียด โดยเฉพาะพุงย้วย ไม่กระชับเหมือนหนุ่มวัยฉกรรจ์ แต่เพรียวกลับหัวเราะชอบใจ ไล้มือลงไปบนผิวหยุ่นหย่อน ขยำเบาๆ แล้วคว้าหมับที่น้องชายห้อยโทงเทง ไร้การตื่นตัว เขาสะดุ้งมองอย่างไม่ชอบใจ แต่ฝ่ายหญิงคุกเข่าแล้วจูบที่ส่วนปลายราวกับแสนรัก
“ของเฮียใหญ่สมตัวจริงๆ”
“อย่าตอแหลหน่อยเลยน่า ผมรู้ดีว่ามันใหญ่กว่าหนอนไม้ไผ่แค่นิดเดียวเอง”
เขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้โกหก ไม่มีความจริงใจจึงตอกกลับด้วยคำพูดแรงๆ แทนที่เพรียวจะโกรธกลับหัวเราะชอบใจ
“เฮียพูดแรงไปหน่อยนะ แต่ไม่เป็นไร เพรียวไม่ถือค่ะ ขอถอดผ้าก่อนนะคะ”