ตอนที่ 9 ผู้พิทักษ์บรรพกาล
DAY 7
หลังจากที่ผ่านมาสี่วัน แคนดี้ก็ทำการรวบรวมผู้รอดชีวิตโดยผ่านพลังรูนของผม ซึ่งมันก็เป็นโชคดีของเราที่ซอมบี้ในหมู่บ้านดร็อปรูนมาแล้วสองอักษร นั่นก็คือรูนไรโด และอุรุซ โดยรูนไรโดนี้ผมได้มอบให้กับแอนนา ส่วนอุรุซ ตอนแรกแคนดี้จะมอบมันให้กับเวียร์ แต่เพราะผมรู้ว่าเวียร์นั้นเหมาะกับรูนสายสัมผัสมากกว่า ผมจึงแย้งและโยนไปให้อริส เพราะเธอเองก็เป็นคนดร็อปรูนนี้มาได้ และผมคิดว่าเธอควรจะมีรูนพลังกายติดตัวเอาไว้
และกำแพงหมู่บ้านของเราก็ใกล้จะสร้างเสร็จแล้ว มันสูงราวๆสามเมตร สร้างขึ้นมาจากไม้ด้วยความร่วมมือกันของทุกคน เหลือเพียงแค่เอาไปติดตั้งในวันพรุ่งนี้ ส่วนผมก็กำลังนั่งคุยกับแคนดี้เกี่ยวกับแผนการต่อไป ซึ่งเวียร์เขาก็ได้ไปกำจัดซอมบี้โดยรอบเพิ่มเติมกับอริสและคนในหน่วยอีกสองคน
“คาเวียร์!” เสียงเรียกชื่อผมผิดๆดังมาแต่ไกล และชายคนนั้นก็กำลังเดินเข้ามาในบ้านของเรา
“คาร์เทียร์ครับ” ผมตอบกลับ ซึ่งชายคนนั้นก็คึอเค เขาได้ถือขวานที่เชื่อมกับโซ่เหล็กมาด้วยสองอัน
“เอ้า เอาไป!” เขากล่าวก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะไม้ด้วยความหนัก
“ของดีเลยนะครับ” ผมกล่าวเมื่อได้สัมผัสอาวุธก่อนจะหยิบมันขึ้นมาลองเหวี่ยงดู น้ำหนักและความแข็งแรงของเหล็กถือว่าดีเยี่ยมเลยทีเดียว
“ที่จริง ฉันหวังว่าพวกนายจะติดตั้งกำแพงเมืองกันเองได้” เขากล่าวพร้อมกับสีหน้าที่ดูตึงเครียดเป็นอย่างมาก มันทำให้ผมใช้พลังรูนดูอนาคตทันที
“อ่า คุณเค คุณทำแบบนี้ทำไม?" ผมกล่าวเมื่อได้เห็นอนาคตในสามนาทีข้างหน้า จะมีทหารล้อมรอบบ้านของเราและบุกเข้ามาชิงตัวเค
“และนี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันทำให้ได้”
“ฉันต้องช่วยคนหมู่มากให้ได้มากที่สุด”
“ฉันคือความหวังของมนุษย์” คุณเคกล่าว ซึ่งมันก็ไม่ผิดเลย ผมจึงกล่าวในใจกับควีนและแคนดี้ทันที
“ผิดแล้ว” ผมกล่าวก่อนที่แคนดี้จะไปหลบในห้องน้ำกับเลขาของเธอ ส่วนผมกับควีนก็เตรียมพร้อมต่อสู้
“พวกเขาจะไม่ประมาทเป็นครั้งที่สอง” เคกล่าวก่อนที่ทหารจะยิงยาสลบเข้ามาในบ้าน ผมกับควีนจึงรีบหาอะไรมาปิดจมูกตัวเองในทันทีและเคลื่อนย้ายกันไปบนชั้นสอง ส่วนคุณเคเขาก็สลบไปเป็นที่เรียบร้อย ดูเหมือนเขาจะตั้งใจเป็นตัวล่อตั้งแต่แรก
‘มีทหารประมาณยี่สิบคน คนของเราโดนโปะยาสลบไปเกือบหมดแล้ว’
‘พวกเขามีเป้าหมายเพียงแค่พาคุณเคไป’ ผมกล่าวในใจเพื่อให้แคนดี้ตัดสินใจ
‘เอาชนะพวกเขา’ เมื่อแคนดี้สั่งการ ผมจึงเตรียมใจต่อสู้ในทันที พร้อมกับพวกเขาที่พังประตูบ้านของพวกเราเข้ามาและกำลังกระจายตัวเพื่อเคลียร์พื้นที่
ตุบ แกร๊ก ผลั๊วะ
และในขณะที่ผมกำลังพันโซ่กับแขน ก็มีทหารนายหนึ่งถีบกระจกห้องผมเข้ามา ด้วยความที่ผมมีสัมผัสอันแรงกล้า ผมก็ไม่รอช้าที่จะหวดหมัดออกไปชกเข้าเต็มหมวกของหน่วยคอมมานโดจนแตกพร้อมกับร่างของเขาที่ปลิวกระเด็นออกไปจากห้อง พวกเขาจึงยิงยาสลบเข้ามาในห้องของผมทันที
แต่พวกเขาอาจไม่คิด
ว่าผมจะกระโดดออกไป
ฟึบ ฟึบ
ซูววว ฟุบ ตุบ
เมื่อผมกระโดดลงไป ผมก็เขวี้ยงโซ่ออกไปพันคอนายทหารคนหนึ่ง ทำให้พวกเขาไม่ยิงผม ซึ่งมันทำให้ผมมีเวลาสังเกตบริเวณรอบข้าง ว่าพวกเขาใช้แค่ปืนอัดลม ไม่ได้ใช้ปืนจริง และกำลังล้อมรอบผมราวเจ็ดคน พร้อมกับควีนที่กระโดดลงมา และผมก็ใช้ด้ามขวานกระแทกหัวของทหารนายนี้สลบร่วงลงพื้นก่อนจะเหวี่ยงโซ่บริเวณโดยรอบเพื่อหาพื้นที่ให้ตัวเอง ส่วนควีนก็แยกกับผมไปจัดการอีกฝั่ง ซึ่งเป็นฝั่งซ้ายเหมือนเดิม
“รหัสศูนย์ห่างจากรหัสหนึ่งแล้ว!” ทหารที่อยู่ตรงหน้าผมกล่าว มันทำให้ผมเหลือบกลับไปมองควีนปรากฏเธอกำลังโดนชายร่างใหญ่สามคนรุมล้อม นี่มันหมายความว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการตัวเค แค่อย่างเดียว แต่จะมาจับควีนไปด้วย หรือพวกเขาจะรู้เกี่ยวกับตัวตนของควีน?
ฟุบ ฟุบ ฟึบ
และทหารนายนั้นก็ใช้โอกาสนี้ยิงปืนใส่ผม ถ้าเป็นระยะใกล้คงไม่มีทางหลบได้แน่ แต่เพราะพลังสัมผัสจากรูนของผมทำให้ผมหลบโดยไม่ต้องหันกลับไปมอง ก่อนที่จะวิ่งไปหาควีน แต่ก็เจอพวกทหารพากันมาขวางไว้และระดมยิงปืนยางใส่ผม ผมจึงต้องถอยหลบอย่างเลี่ยงไม่ได้
ฟึบๆๆๆๆ
และอยู่ๆก็มีเสียงฮอขับมาใกล้ จนผมได้เห็นว่าพวกมันยิงยาสลบชุดใหญ่ใส่ควีน ถึงแม้เธอจะหลบไปสามเข็มได้ แต่เข็มที่สี่เธอก็หลบไม่ได้ มันทำให้เธอหงายหลังลงพื้น แต่ก็พยายามกลิ้งตัวเข้ามาใกล้ผมให้ได้มากที่สุดด้วยสายตาที่คาดหวัง
“โอเค” ผมกล่าวออกมาก่อนที่จะเร่งพลังรูนอุรุซก่อนจะใช้ขวานทั้งสองเล่มกระทบกันให้เกิดประกายไฟ และผมก็ใช้รูนโซวิโลที่สามารถควบคุมไฟได้ ทำให้มันเป็นประกายไฟพุ่งใส่พวกที่ล้อมรอบผมและวิ่งเข้าไปซัดพวกนั้นโดยตรงระหว่างที่พวกมันกำลังหิ้วร่างของควีนจะพาขึ้นไปบนฮอ ซึ่งพวกที่ล้อมรอบผมก็สลบกันไปหมดแล้ว และดูเหมือนพวกมันจะมาเพิ่มจากหน้าบ้านด้วย
ตุบๆๆๆๆ
ผมจึงไม่มีทางเลือกที่ต้องใช้ปืนเก็บเสียงยิงไปที่พวกมันให้พวกมันเสียหลักล้มลงและวิ่งเข้าไปหาควีน แต่มันไม่ทันแล้ว ร่างของควีนกำลังลอยอยู่เหนืออากาศขึ้นไปสู่แฮรีคอปเตอร์ แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้ ผมพยายามทำให้พวกมันสลบทั้งหมดด้วยการใช้ปืนยิงยางไปที่หัว จนพวกมันส่วนใหญ่สลบกันไปหมด
“นี่ยอมทิ้ง..พวกตัวเองเลยเหรอเวรเอ้ย!” ผมกล่าวด้วยความโกรธ แสดงว่าควีนต้องมีค่ากับพวกมันมากแน่ๆ เพราะพวกมันไม่สนใจว่าทหารของตัวเองจะต้องนอนเป็นรากอยู่ที่นี่ตั้งกี่สิบคน
ฟึบๆๆๆ
และเมื่อร่างของควีนขึ้นไปบนฮอ พวกมันก็ขับเคลื่อนฮอออกไปจากที่นี่ทันที แต่ตัวผมเองก็ไม่ยอม ผมเหวี่ยงขวานโซ่ขึ้นไปพันกับเหล็กทางขึ้นฮอของทั้งสองฝั่งและใช้ตัวหมุนกับต้นไม้เพื่อใช้แรงต้นไม้ยึดเหนี่ยว และมันก็สำเร็จ พวกมันไม่สามารถไปจากที่นี่ได้ ตัวผมเองก็ใช้พลังจากรูนอุรุซลากฮอลงมาอย่างสุดความสามารถ จนต้นไม้เริ่มมีรอยร้าว กล้ามเนื้อแขนของผมเริ่มฉีกขาด แต่ผมก็เปิดใช้รูนคาวนัน ในการฟื้นฟูตนเอง จนใบพัดของฮอเริ่มติดขัดกัน
“มันเกิดบ้าอะไรขึ้น!?” บอดี้การ์ดหนึ่งในทีมของอริสเดินมาเห็นเหตุการณ์นี้แล้วกล่าวด้วยความตกใจ ส่วนอริสก็รีบวิ่งมาหาผมพร้อมกับใช้พลังรูนอุรุซช่วยดึงโซ่ที่แขนของผมทันที เวียร์เองก็เช่นกัน หลังจากนั้นในทีมก็ตามมาช่วยจนทำให้ฮอเกิดความเสียหาย พวกเขาไม่มีทางเลือกจึงต้องนำฮอลงจอด
“ควีนอยู่ในฮอ” ผมกล่าวก่อนจะหมุนแขนตัวเองเพื่อสลัดโซ่ออกและเดินไปที่ฮอ
ผลั๊วะ
และเมื่อผมเดินไปที่ประตูฮอ ผมก็ได้เจอกับชายคนหนึ่งที่ใช้ด้ามปืนกระแทกเข้าที่หน้าของผม เพราะพลังรูนของผมถึงขีดจำกัดแล้ว ผมจึงไม่สามารถสัมผัสได้ชั่วคราว แต่การโจมตีนี้ก็ไม่ได้ทำให้ผมสลบ ผมก็เลยออกหมัดสวนไปจนเขาร่วงลงไปนอนบนพื้นและไถลลงมาจากฮอ
“เราช่วยคุณเคไว้แล้ว” เวียร์กล่าว ซึ่งน่าจะเป็นแคนดี้ที่เรียกพวกเขากลับมาช่วยเหลือจากการออกสำรวจ แสดงว่าโชคยังเข้าข้างผมอยู่ และผมก็ได้ไปพาร่างเล็กออกมาจากฮอโดยไม่มีใครห้าม
“รหัสศูนย์ถูกแย่งตัว”
“ปฏิบัติการล้มเหลว” ทหารนายหนึ่งได้วอบอกกับปลายสาย อริสได้เดินไปทำลายวอนั่นทิ้ง ซึ่งก็ไม่มีใครกล้าลุกขึ้นสู้กับพวกเรา ก็แน่ละ จะมีใครสักกี่คนที่สามารถดึงฮอลงมาจากฟ้าได้ มันชัดเจนแล้วว่าผมแข็งแกร่งมากจนถึงขั้นตั้งชื่อให้ผมว่าเป็นรหัสหนึ่ง
หลังจากนั้นอริสก็ทำการใช้ด้ามปืนตบคางพวกทหารจนสลบกันไปหมด ส่วนผมก็รู้สึกเหนื่อยล้าจากการใช้พลังรูนหลายพลังพร้อมกัน เพราะถึงยังไงผมก็เป็นมนุษย์ไม่ใช่เทพ ถึงแม้ผมจะมีพลังรูนครบทั้งยี่สิบสี่รูนก็ตาม
“หยุด วางร่างเด็กลงซะ!” ทหารนายหนึ่งกล่าวพร้อมกับจี้ปืนไปที่หัวของแคนดี้
ผลั๊วะ
แต่อยู่ๆก็มีไม้เบสบอลมาจากไหนไม่รู้ฟาดเข้าที่หัวของทหารชายคนนั้นอย่างเต็มแรง และเมื่อทหารคนนั้นทรุดตัวลงไป ปรากฏเป็นเคที่ฟาดหัวทหารคนนี้
“ไหนบอกว่าจะช่วยโลกไง”
“ทำไมถึงจะมาพาตัวฉันกับเด็กไปสองคน”
“แล้วคนอื่นปล่อยทิ้งให้ตายอย่างนี้เหรอ?” เคบ่นออกมาด้วยความโมโห
“แคนดี้” เสียงในวอของทหารชายคนที่เพิ่งสลบกล่าวเรียกแคนดี้ ทำให้เธอหยิบวอนั้นขึ้นมา
“ไม่คุยค่ะ” แคนดี้เปิดวอกล่าวจบก็ทิ้งมันลงพื้นและเหยียบจนละเอียด ในเมื่อพวกเขาบุกมาหาประชาชน ลักพาตัวกันแบบไม่พูดคุยอะไรก่อน เราก็จะไม่คุยเหมือนกัน
‘ปะป๊า’ เสียงในใจของผมดังขึ้น ซึ่งมันคือเสียงของควีน ดูเหมือนเธอจะฟื้นแล้ว แต่ก็ไร้เรี่ยวแรงสุดๆ
‘อย่าฝืน หลับตาพักผ่อนไปก่อน’ ผมกล่าว เพราะถ้าเธอยังฝืนฤทธิ์ยาสลบ มันจะเป็นผลเสียต่อระบบประสาทของเธอ
“อริส ฝากทุกอย่างด้วย”
“ถ้าใครตาย…ก็ยิงสมองทิ้งให้หมด” ผมกล่าวเมื่อรู้สึกเวียนหัวเหมือนจะวูบ งั้นผมก็เลยใช้รูนดูอนาคตที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรแล้ว ผมจึงวางใจได้ก่อนจะนั่งคุกเข่าลงไปบนพื้นและสลบไปด้วยท่านี้แหละ
‘ปะป๊า’ เสียงในใจดังก้องไปหมด ทำให้ผมค่อยๆลืมตาขึ้น ซึ่งผมได้มาอยู่ในห้องของตัวเอง และก็มีควีนนอนกอดผมอยู่ข้างๆ
“ว่าไง?” ผมกล่าว แต่ดูเหมือนผมจะรู้สึกเจ็บคอมาก เพราะคอแห้ง เดาว่าผมคงจะสลบไปนานพอสมควร
‘น้ำค่ะ’ ควีนกล่าวพร้อมกับรีบลุกไปหยิบแก้วน้ำมาให้ผมดื่ม ซึ่งผมก็หยิบแก้วมาดื่มทันที
“ใครอยู่เต็มบ้านไปหมด?" ผมกล่าวถามเมื่อสัมผัสได้ว่ามีผู้คนเดินอยู่รอบบ้าน รวมถึงในบ้าน
‘เกิดเรื่องมากมายขึ้นค่ะ’ ควีนกล่าวก่อนจะขยับตัวมานั่งบนตักผม ซึ่งผมก็ลูบหัวเธออย่างเอ็นดู
‘ฟื้นแล้วมาคุยกันหน่อยชั้นล่าง’ แคนดี้กล่าวในใจ
‘โอเค’ ผมตอบกลับก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ แปรงฟัน อาบน้ำ และใส่ชุดบอดี้สูทเหมือนเดิมพร้อมกับควีนที่ขึ้นมานั่งขี่คอผมและเราก็ลงไปชั้นล่าง
“รหัส 1?” เมื่อผมลงมาชั้นล่าง ผมได้เห็นแคนดี้ที่กำลังนั่งพูดคุยกับฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเขาก็คือนายกของประเทศ แถมบอดี้การ์ดของเขาก็ไม่ได้ใส่สูทอีกต่อไป แต่ใส่ชุดเกราะเต็มยศเลยทีเดียว รวมถึงยังกล่าวชื่อผมด้วยรหัสอีกด้วย ดูเหมือนเขาจะไม่ชอบหน้าผมพอสมควรเลยทีเดียว
‘เห้อ’ ผมได้ใช้รูนดูอนาคตทันที และไม่ว่าผมจะพูดอะไรหลังจากนี้ พระเจ้านั่นสิก็จะวิวัฒนาการซอมบี้เป็นระดับสอง ที่สามารถวิ่งได้ และปรากฏตัวซอมบี้กลายพันธ์
“รู้ไหมว่า..พวกคุณกำลังจะฆ่าคนทั่วโลกในไม่ช้า” ผมกล่าวก่อนจะเดินไปค้ำโซฟาข้างหลังแคนดี้
“โปรดให้เกียตรินายกรัฐมนตรีด้วย” ชายที่ไม่ชอบหน้าผมกล่าว
วึบ วึบ ฟึบ
“หุบปาก” ผมกล่าวหลังจากที่ใช้พลังรูนควบคุมน้ำชาในแก้วบนโต๊ะและทำให้มันสาดไปที่เสื้อของชายคนนั้น ซึ่งเขาก็ออกอากาศแสบร้อนในทันทีก่อนจะหยิบปืนขึ้นมาจ่อหน้าผม
“ไม่ว่ายังไงก็จะเกิดขึ้นเหรอ?” แคนดี้กล่าวถามผม ซึ่งผมก็พยักหน้า ทำให้แคนดี้ถอนหายใจออกมา
“ถ้างั้นก็ไม่มีทางเลือกแล้ว เราจะร่วมกับรัฐบาลและช่วยเหลือผู้รอดชีวิต”
“ซึ่งก่อนหน้านี้เราคุยกันว่าที่นี่จะกลายเป็นฐานที่มั่นที่สองของมนุษย์” แคนดี้อธิบายผมสั้นๆ
“ซึ่งรหัสหนึ่งที่พวกคุณเรียก เขาคือผู้พิทักษ์บรรพกาลอย่างที่พวกคุณคิด” แคนดี้กล่าวจบ สักพักก็มีเสียงประกาศทั่วฟ้าดินทันที
[ผู้พิทักษ์บรรพกาลปรากฏตัวแล้ว]
[ซอมบี้ได้วิวัฒนาการเป็นระดับสอง]
[ขอให้โชคดี เหล่ามนุษย์ที่โลภและโง่เขลา]
“มึงสิโง่” ผมกล่าวอย่างไม่ใยดี