ตอนที่ 3 แอนนา
“ซึ่งในตอนนี้นะคะ ไวรัสระบาดนี้ได้แพร่ไปทั่วโลกแล้ว”
“ทางรัฐบาลกลางจึงหารือกันว่าให้ประชาชนทุกคนอยู่แต่ในบ้านและรอฟังประกาศเพิ่มเติมค่ะ" นักข่าวช่องหนึ่งกล่าวก่อนที่ผมจะเปลี่ยนข่าวไปช่องถัดไป
“เราจะรีบหาทางแก้ไขให้เร็วที่สุด”
“ได้โปรด….พวกคุณออกไปจากที่นี่ด้วยครับ” ผู้บัญชาการทหารคนหนึ่งกล่าวก่อนที่จะมีทหารจำนวนมากพากันวิ่งไปข้างหน้าโรงพยาบาลทหาร และในภาพเราก็ได้เห็นคนที่กลายเป็นซอมบี้มากมายนับไม่ถ้วน แถมทหารก็ไม่ได้ยิงพวกมันที่หัว ทำให้พวกมันยังคงเดินหน้าต่อได้ และแม้ว่าจะมีบางตัวถูกแรงกระสุนจนหงายหลัง พวกมันก็ไม่ได้ตาย พร้อมยังพากันลุกขึ้นเดินหน้าต่อ ภาพที่ได้เห็นนี้ ทำให้แคนดี้ถึงกับกุมขมับเลยทีเดียว
“มันเกิดขึ้นแล้ว และไม่มียาตัวไหนหยุดมันได้” ผมกล่าวหลังจากที่เล่าเรื่องในอนาคตให้แคนดี้ฟังก่อนหน้านี้ และดูเหมือนเธอกำลังจะคิดอะไรหลายๆอย่างในหัวอยู่ด้วย
“ฮ่า…” แคนดี้ถอนหายใจยาวก่อนจะหงายหลังพิงโซฟา
“ก็ถ้าตามที่คาร์เทียร์บอก แคนดี้จะตายบนถนนเมื่อกี้ใช่ไหม?” แคนดี้กล่าว ผมจึงพยักหน้าและถอดเสื้อออก
“นี่คือพลังที่เราจะใช้สู้กับพวกมัน ในอนาคตเราเรียกมันว่ารูน”
“แต่ในตอนนี้รูนยังไม่ปรากฏ และมีแค่คาร์เทียร์คนเดียวที่มีรูนจากการย้อนเวลากลับมา"
“พร้อมฟังรึยัง?” ผมกล่าวถามเมื่อสีหน้าของแคนดี้ดูตึงเครียดเป็นอย่างมาก
“ยังก่อน ในเมื่อพลังมันจะมาวันที่สาม พี่อยากรู้เรื่องซอมบี้มากกว่า” แคนดี้กล่าว เพราะบอดี้การ์ดฝีมือดีของเธอยังไม่สามารถทำให้มันตายได้เลย กลับกันเพียงแค่ผมมา ผมก็ฆ่าพวกมันราวกับผักปลาแล้ว หรือว่าจะเป็นเพราะพลังรูน?
“ไม่มีอะไรมากมายสำหรับพวกมัน”
“แค่ทำลายสมองมันให้ได้ก็พอแล้ว”
“แต่ในอนาคต..จะมีซอมบี้วิวัฒนาการเกิดขึ้น”
“พวกมันส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจที่จะกินเนื้อมนุษย์เหมือนซอมบี้”
“แต่พวกมันหวังจะฆ่าล้างพวกเราเท่านั้น” ผมกล่าวอธิบายก่อนจะใช้รีโมร์ทปิดทีวี
“โอเค แล้วในอนาคตเกิดอะไรขึ้นบ้าง?” แคนดี้กล่าวถามต่อ ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องราวชะตากรรมของมวลมนุษย์
“ก็อย่างที่ได้บอกไปว่าคาร์เทียร์คือผู้รอดชีวิตคนสุดท้าย”
“และการเกิดโลกาววินาศนี้ขึ้นทำให้พวกเราได้เห็นจิตใต้สำนึกของมนุษย์”
“ที่แม้แต่การฆ่าคนในครอบครัวเพื่อเอาตัวเองรอดชีวิตต่อไปก็เกิดขึ้น” ผมกล่าว
“นั่นมันแย่มากเลยนะ” แคนดี้่ตอบกลับด้วยความตกใจ
“แล้วญาติของเราล่ะ?" แคนดี้กล่าวถามต่อ และมันทำให้ผมนึกอะไรขึ้นได้ทันที
“แอนนา!?" ผมกล่าวชื่อญาติของเราออกมา เธอคือลูกพี่ลูกน้องของเรา
“แย่ล่ะ เธออยู่ไหน!?” แคนดี้กล่าวก่อนจะยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาแอนนาทันที
“ฉันไปเตรียมตัวก่อน” ผมกล่าว เพราะไม่ว่ายังไงผมต้องไปเอาตัวแอนนามาให้ได้ เพราะในชีวิตก่อนแอนนาถือเป็นมนุษย์คนเดียวที่สามารถใช้รูนได้สองอัน ซึ่งในกรณีนั้น ที่ผมบอกว่าแม้แต่ครอบครัวยังเป็นศัตรูกันเองก็เรื่องนี้แหละ พ่อแม่ของเธอขายเธอให้กับกลุ่มผู้รอดชีวิตกลุ่มหนึ่ง และกลุ่มนั้นก็ใช้งานเธออย่างหนัก
และเมื่อผมรู้เรื่อง ผมก็ไปแย่งตัวเธอมาทันที และนั่นมันก็คือจุดเปลี่ยนของผม จากตัวผมที่เป็นคนจิตใจดี กลายเป็นไม่เอาใครหน้าไหนทั้งนั้น เพราะพ่อแม่ของเธอผลักแอนนาให้กับซอมบี้กินเพื่อหนีพวกซอมบี้
มันโหดร้ายมาก
15 นาทีผ่านไป
“แอนนาอยู่ที่โรงเรียน” และเมื่อผมเดินไปหาแคนดี้ เธอได้บอกสิ่งที่ผมหนักใจมากที่สุดออกมา นั่นก็คือโรงเรียน มันเป็นสถานที่ที่วุ่นวายมากๆ
“ฉันจะไปด้วย” แคนดี้กล่าวเมื่อเห็นสีหน้าวิตกกังวลของผม
“ไม่ แคนดี้ต้องอยู่ที่นี่”
“ที่นี่ปลอดภัย” ผมกล่าวเพราะผมได้วางกับดักไว้มากมายสำหรับคนที่จะเข้าบ้านของเรา
“ฉันรู้ว่าจะเป็นตัวถ่วง แต่มีสองคนก็ดีกว่าหนึ่งคนถูกไหม?” แคนดี้กล่าวอย่างใจเย็น
“ในกรณีอื่นใช่ แต่ในตอนนี้ไม่ใช่ ฉันสามารถไปที่ไหนก็ได้และกลับมาอย่างปลอดภัย”
“แต่ถ้ามีคนอื่นไปด้วยฉันจะต้องคอยปกป้องในสถานการณ์ที่ลำบาก”
“เมื่อถึงตอนนั้นเราจะตายทั้งคู่” ผมกล่าว เพราะในตอนนี้แคนดี้ไม่ได้มีประสบการณ์เอาชีวิตรอดแบบผมที่ผ่านการเฉียดตายมากมาย แถมตอนนี้ผมยังมีรูนติดตัวครบทุกอันอีกด้วย
“แสดงว่าคาร์เทียร์เคยเจอเหตุการณ์นั้นมาแล้ว…” แคนดี้กล่าว ทำให้ผมพยักหน้าและพยายามลืมเรื่องพวกนั้นไป
“งั้นพี่ ขอถามอย่างนึง เป้าหมายในการย้อนเวลากลับมาของคาร์เทียร์คืออะไร?” แคนดี้กล่าวระหว่างที่ผมกำลังเดินไปที่จอดรถ
“เทพโบราณบอกให้คาร์เทียร์ปกป้องเผ่าพันธุ์มนุษย์เพื่อไปสู่ยุคสมัยใหม่” ผมกล่าวจบก็เดินเข้าไปในโกดังจอดรถและขึ้นคร่อมรถบิ๊กไบค์ทันที ในครั้งนี้ผมจะใช้รถคันเล็กเพราะต้องหลีกเลี่ยงการจราจรและสิ่งกีดขวางต่างๆ
บรื้นน บรื้นนน
ผมไม่รอช้ารีบสตาร์ทรถและขับออกไปทันที
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
ฮาสส ฮาส
เมื่อผมได้มาถึงบริเวณโรงเรียน ผมได้เห็นทันทีว่าสนามกีฬาของโรงเรียนมัธยมเต็มไปด้วยซอมบี้ และบรรยากาศมันเงียบมาก เดาว่าทั้งโรงเรียนคงจะเหลือผู้รอดชีวิตไม่กี่คน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือแอนนา เธอน่าจะกำลังหลบซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง
‘แอนนา’ ผมคิดในใจและนึกหน้าของแอนนาเพื่อใช้พลังรูนไรโด ตามหาสิ่งที่ต้องการ และเมื่อผมลืมตาขึ้นมาปรากฏมีซอมบี้ตัวหนึ่งเดินใกล้จะถึงตัวผม ผมก็เลยเขวี้ยงขวานไปสับหน้ามันจนผ่าไปถึงหัวมันเละ แล้วก็เดินตามเส้นทางที่จะพาผมไปหาแอนนาทันที
ฟุบๆ ฟุบ
ผมเดินไป หลบๆไป เพื่อปกปิดตัวตนของตนเอง และถึงแม้ระหว่างทางผมจะสัมผัสได้ว่ามีมนุษย์รอดชีวิตอยู่ แต่ผมก็ไม่ได้เข้าไปหาพวกเขา ความต้องการของผมมีเพียงหาตัวแอนนาให้พบ และในตอนนี้ผมก็พบแล้ว แอนนาอยู่ในโรงยิมขนาดใหญ่ ซึ่งมีพวกซอมบี้ล้อมรอบอยู่มากมาย
ฟึบ แกร๊ก แกร๊ก
ผมได้หยิบขวดน้ำอัดลมบนพื้นปาไปที่ห้องน้ำข้างโรงยิม และเมื่อขวดน้ำกระทบกับกำแพง มันได้ส่งเสียงเรียกพวกซอมบี้ไปทันที ผมจึงรีบเดินไปที่ทางเข้าโรงยิม และใช้ขวดน้ำอัดลมอีกขวดปาไปให้ไกลกว่าเดิม จนทำให้พวกซอมบี้ข้างๆโรงยิมพากันเดินตามเสียงไป ผมจึงเดินไปที่ข้างโรงยิมอย่างเงียบๆ และจะเข้าทางประตูหลังโรงยิม แต่มันก็ถูกล็อคเอาไว้อย่างแน่นหนาเลยทีเดียว
ฟุบ แกร๊ก
ผมจึงไม่รอช้าใช้ขวานสับลูกบิดประตูและผลักประตูเข้าไปทันที พร้อมกับหาอะไรใหญ่ๆมากั้นเอาไว้ ซึ่งจากหางตาเมื่อครู่ที่ผมเข้าโรงยิมมา ดูทุกคนตกใจกันมากเลยทีเดียว แต่ก็ไม่มีใครเข้ามาจะทำร้ายผม เพราะผมมีพลังรูนแห่งการสัมผัสอยู่ และเมื่อผมจัดการประตูเสร็จ ผมก็หันซ้ายขวาหาแอนนาทันที
“ตำรวจมาช่วยเราแล้ว!”
“เย้-” และเมื่อผมเดินไปหาแอนนา เด็กๆต่างก็ส่งเสียงดังออกมาผมจึงต้องรีบใช้แขนปิดปากเด็กคนนั้นเอาไว้ มิฉะนั้นพวกซอมบี้จะแห่กันกลับมาแน่ๆ และที่พวกเด็กๆเรียกผมว่าตำรวจเพราะผมสวมเสื้อเกราะของตำรวจอยู่นั่นเอง แถมยังเขียนข้างหลังไว้ด้วยว่าผมคือหน่วยปราบปราม
“อย่าเสียงดัง เดี๋ยวพวกซอมบี้จะแห่กันมา” ผมกล่าวก่อนที่แอนนาจะวิ่งมาหาผมและกอดผม
“คุณเข้ามาได้ยังไง?” คุณครูท่านหนึ่งเดินมากล่าวถามผมระหว่างที่ผมกำลังปลอบโยนแอนนาจากความกลัว เพราะเธอกอดผมแน่นมาก
“ผมใช้เสียงปาขวดแก้วล่อพวกซอมบี้ไปทางอื่นและเข้าทางประตูหลัง” ผมกล่าวก่อนจะใช้สายตามองรอบๆต่อเผื่อจะเจอบุคคลที่ผมรู้จัก แต่มันไม่มีเลย มีเพียงชายสูทดำที่นั่งอยู่กับเด็กม.3 ซึ่งชายคนนี้ถ้าผมจำไม่ผิดเราเจอกันตอนที่ผมไปช่วยแคนดี้ เขาเป็นหนึ่งในบอดี้การ์ดของแคนดี้
“คุณคาร์เทียร์” เขากล่าวชื่อของผมและอุ้มเด็กคนนั้นเดินมาหาผมด้วย จากที่ผมคิด ผมเดาว่าเขาคงเป็นคนมาช่วยเหลือเด็กๆกลุ่มนี้ มันยิ่งทำให้ผมกลุ้มใจไปอีก เพราะถ้าผมจะพาแอนนาและเขากับเด็กคนนี้ออกไป คนอื่นๆต้องตามมาแน่ๆ
“ผมจำได้ว่าคุณคือน้องชายของท่านแคนดี้”
“คุณมาทำอะไรที่นี่ครับ?" เขากล่าวถาม
“เด็กคนนี้คือญาติของผม” ผมกล่าวพลางลูบหัวแอนนา ซึ่งแอนนานั้นเป็นนักเรียนชั้นมัธยมปีที่หก
“คุณจะช่วยพวกเราออกไปจากที่นี่ใช่ไหมครับ?”
“คุณมากันกี่คน?” คุณครูพากันเดินมาถามผมด้วยความหวัง
“ผมมาคนเดียว และผมคิดว่าผมไม่สามารถช่วยไปได้หมดทุกคน” ผมกล่าวความจริงออกไปทำให้เด็กๆทุกคนแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาทันที
“แต่คุณเป็นตำรวจนะ!?” คุณครูคนหนึ่งกล่าวออกมาด้วยความโมโห ดูแล้วเขาน่าจะมีตำแหน่งอยู่พอสมควร ซึ่งเมื่อผมมองไปที่เขา ผมก็ได้เห็นความคิดเชิงลบที่เขาคิดกับผมทันที
“ผมไม่ใช่ตำรวจอีกต่อไปแล้ว”
“ผมคือผู้รอดชีวิตคนนึงจากเหตุการณ์เชื้อไวรัสระบาด” ผมกล่าวออกไปอีกครั้งและในครั้งนี้ทุกคนต่อว่าผมเต็มไปหมด แต่ผมไม่ได้สนใจ ผมได้ก้มลงมาเล็กน้อยเพื่อสำรวจร่างกายของแอนนา
“พี่คาร์เทียร์ มันน่ากลัวมาก” แอนนากล่าว ซึ่งผมก็ตรวจร่างกายเธอเสร็จพอดี เธอไม่ได้บาดเจ็บอะไร และไม่ได้มีรอยแผลจากซอมบี้ด้วย
‘เราต้องไปขอความร่วมมือจากเขา’
‘เขาเป็นคนที่เชื่อถือได้’ ชายสูทดำคิดในใจ และผมก็เห็นข้อความบนหัวของเขาพอดี ผมจึงเป็นคนเดินไปหาเขาด้วยตัวเอง
“ขอคุยด้วยหน่อย” ผมกล่าวก่อนจะพาทั้งสามคนไปที่เงียบๆ
“ผมชื่อเวียร์ครับ ส่วนนี่ลูกสาวของผมชื่อวิว” เขากล่าวแนะนำตัว ผมจึงพยักหน้าและหยิบบุหรี่ออกมาจุดไฟเพื่อสูบมันเพื่อคลายความเครียด ว่าจะออกไปจากที่นี่ยังไงไม่ให้มีผลกระทบต่อทุกคนในโรงยิม
“คุณเวียร์ ผมไม่สามารถพาทุกคนที่นี่ออกไปได้ทั้งหมด” ผมกล่าว
“ผมเข้าใจครับ แต่ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยบอกผมได้เลยครับ” เขากล่าวเพราะคิดว่าผมสามารถพาพวกเขาออกไปได้อย่างแน่นอน
“รถบัสโรงเรียนจอดอยู่ในโรงจอดรถใกล้ๆกับโรงยิม จากที่ผมเห็นน่าจะพาคนไปได้ทั้งหมดนี่”
“แต่ผมไม่ไปด้วย ผมพารถมอเตอร์ไซต์มา” ผมกล่าวก่อนจะยื่นซองบุหรี่ให้เวียร์ และเขาก็รับมันไปจุดไฟสูบเช่นเดียวกับผม เขาเองก็น่าจะเครียดเหมือนกัน เพราะเขาดูเป็นผู้ที่พึ่งพาได้ที่สุดรองลงมาจากผม
“คุณพกอาวุธมาด้วยไหม?” ผมกล่าวถาม
“พกมาครับ แต่กระสุนของผมหมดแล้ว” เขากล่าวจบผมก็ยื่นปืนพกให้เขาทันที ชายคนนี้น่าจะช่วยผมจัดการเรื่องยิบย่อยได้ ซึ่งจากพลังของรูนก็ได้บอกแล้วว่าเขามีความคิดเชิงบวกเกี่ยวกับผม
“คุณต้องเล็งไปที่หัวของซอมบี้เพื่อยิงให้มันตาย” ผมกล่าวก่อนจะมอบมีดสั้นให้เขาอีกหนึ่งเล่ม
“แต่ถ้าพวกมันเข้ามาระยะประชิด ผมแนะนำให้ใช้มีดสั้น”
“และเราต้องระวังเรื่องเสียงด้วย พวกมันไวต่อเสียง” ผมกล่าวเสริม
“ขอบคุณครับ แล้วคุณมีแผนจะทำอะไรต่อไป?" เวียร์กล่าวถามผม
“เรื่องหลักของผมคือต้องพาแอนนาไปที่ปลอดภัย”
“หลังจากนั้นผมอาจจะมาช่วยคนที่นี่”
“หรือไม่ก็ ผมสามารถล่อพวกซอมบี้ออกไปให้ไกลจากโรงยิม”
“พวกคุณก็พากันขึ้นรถบัสและหนีไปจากที่นี่” ผมกล่าว เพราะเด็กๆพวกนี้อาจจะสร้างปัญหาให้กับผมทีหลังได้ ผมไม่สามารถเดินทางไปกับพวกเขาได้ทั้งหมด
“พี่คาร์เทียร์ ช่วยเพื่อนๆด้วยได้ไหมคะ?” แอนนากล่าว ซึ่งแอนนานั้นเป็นคนจิตใจดี มีเมตตา แต่ก็นั่นแหละทำให้เธอต้องตายรวมถึงโดนใช้งานอย่างหนัก
“…” ผมถึงกับเงียบไปเลยทีเดียว