5.เลือกตามที่ใจต้องการ
“ที่วิหารมีข้อห้ามมากมายอีกทั้งลูกยังไม่เคยไปอยู่ที่อื่นมาก่อนนอกจากคฤหาสน์ของเรา..แมดดี้แม่รู้ว่าในใจของลูกมีความกังวลมากมายแต่ลูกจะผ่านมันไปได้ด้วยดี"
แมเดอลีนส่งยิ้มให้กับท่านแม่ผู้งดงามของเธอ ท่านแม่คือสตรีที่มีเส้นผมสีทองสว่างเป็นสัญญาลักษณ์ที่แสนสวยงามของตระกูลเกโลทีส ท่านแม่และท่านพ่อของเธอเป็นหนึ่งในไม่กี่คู่ที่ได้แต่งงานเพราะความรัก สายเลือดของตระกูลทั้ง5คือสายเลือดที่พิเศษและศักดิ์สิทธิ์ เพราะแบบนั้นจึงต้องแต่งงานกันเองภายใน 5ตระกูลเท่านั้นถึงจะสามารถให้กำเนิดทายาทได้
ท่านแม่เล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนมีถึง9ตระกูลด้วยกัน แต่ทว่าเพราะช่วงเวลาที่เลยผ่าน บางตระกูลไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ทำให้ตระกูลนั้นๆ จะต้องล่มสลายไปตามกาลเวลา
ตระกูลเรเซเดนของเราเองก็เหมือนกัน หากว่าท่านแม่ให้กำเนิดเด็กผู้ชายไม่ได้ ในบางทีมันอาจจะล่มสลายตรงที่เธอต้องแต่งงานออกไปอยู่ที่อื่นก็ได้ ในนิยายไม่ได้กล่าวถึงตรงนี้เพราะว่าเธอคือตัวประกอบที่ไม่มีค่าอะไรให้ต้องมาใส่ใจ
“หากว่า..ลูกมีความรักขึ้นมา แล้วบุรุษผู้นั้นไม่ได้อยู่ในหนึ่งในสี่ตระกูลที่เหลือ..แบบนั้นท่านแม่จะว่าอะไรลูกไหมคะ”
เดวาหัวเราะออกมาเบาๆ เธอยกมือขึ้นมาลูบเส้นผมสีแดงของลูกสาวด้วยความรู้สึกห่วงใย
“ไม่เป็นไรเลยสักนิดเดียว เจ้าสามารถตั้งครรภ์ได้..เพียงแต่อาจจะต้องมีขั้นตอนการดื่มน้ำมนต์เพื่อลบล้างคำสาป และเด็กที่เกิดมาจะไม่มีสายเลือดอันศักดิ์สิทธิ์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความรักนะแมดดี้ อย่าเลือกเพราะว่าต้องเลือก แต่จงเลือกเพราะว่าเขาคือคนที่เจ้ารัก”
ความรักอะไรนั่นดูเหมือนจะสลับซับซ้อนมากจริงๆ ด้วยสินะ
“ลูกไปก่อนนะคะท่านแม่ ฝากลาท่านพ่อด้วยนะคะ”
เดวาจับมือของลูกสาวเอาไว้
“หลังจากที่ลูกกลับมา ชีวิตของลูกจะเปลี่ยนไปมากพอสมควรเลยนะแมดดี้ เมื่อฤดูร้อนเริ่มต้นขึ้น งานเลี้ยงมากมายจะถูกจัดขึ้นมาและนั่นคือการเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของตลาดสมรสในจักรวรรดิโอลีวิเย่ร์ แน่นอนว่าจะมีจดหมายมากมายหลายสิบฉบับถูกส่งมาที่เรเซเดน เพื่อขอลูกแต่งงาน..เลือกให้ดีแมดดี้เพราะว่าพ่อกับแม่ไม่คิดจะบังคับให้เจ้าแต่งงานกับหนึ่งในสามตระกูลหรอกนะ”
แมเดอลีนพยักหน้า เธอโอบกอดมารดาเอาไว้แน่นด้วยความรู้สึกมากมายที่เอ่อล้นในใจ
บุรุษที่แค่มองก็รู้สึกได้เลยว่าเขาใช่ บุรุษผู้นั้นเธอจะหาเขาเจอไหมนะ
...............
“หากยังอยากให้ตระกูลกรีนของเรายังคงอยู่และทรงอำนาจ พวกเจ้าคนใดคนหนึ่งจะต้องแต่งงานกับเลดี้เรเซเดน..แบบไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ”
อาดาลยกแก้วสุราขึ้นมาดื่มด้วยท่าทีไม่สนใจ ตระกูลนี่จะล่มสลายอะไรก็ช่างสิ ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเขาสักหน่อย
“นี่..ขอร้องล่ะ อาดาล แลนดรี พวกเจ้าทั้งสองคนจะต้องแต่งงานกับเลดี้เรเซเดน เพราะแบบนั้นพวกเจ้าควรจะใช้โอกาสที่นางเดินทางไปที่วิหารเพื่อทำความรู้จักกับนางก่อนที่นางจะเข้าพิธีเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่พระราชวัง.."
ความรู้สึกของอดัมในตอนนี้เขาอยากจะวิ่งไปแล้วเอาหัวโขกเสาตายให้รู้แล้วรู้รอดไป พี่สาวผู้สง่างามของเขาฝากหลานชายเอาไว้ให้ดูแลสองคน เจ้าแฝดทั้งสองคนนี่มีนิสัยเอาแต่ใจในแบบที่เขาอยากจะบ้าตายวันละหลายรอบ
อาดาล แฝดพี่เป็นบุรุษเจ้าสำราญที่ชื่นชอบการเล่นสนุกกับสตรีไปวันๆ
ส่วนแลนดรีแฝดน้อง ไม่สนใจอะไรเลยนอกจากดาบและการต่อสู้
ส่วนเขาเพื่อให้ตระกูลกรีนดำเนินต่อไป เขาจึงต้องมารับหน้าที่การดูแลตระกูลกรีนเป็นการชั่วคราวเพื่อรอคอยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการส่งมอบตระกูลให้แก่หนึ่งในแฝดนรกนี่..
“ท่านอาครับ ที่วิหารมีสตรีไปอยู่ที่นั่นเยอะรึเปล่า หากว่ามีสตรีอยู่ที่นั่นมากพอสมควร เช่นนั้นข้าจะขออาสาไปที่นั่นเองครับ”
อาดาลกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มให้กับท่านอาและน้องชายของเขา
“ตามนั้นนะครับในเมื่อได้ข้อสรุปแล้วเช่นนั้นข้าจะไปฝึกดาบต่อ”
แลนดรีลุกขึ้นในทันทีพร้อมกับถือดาบเพื่อเดินออกไปจากห้องนี้อย่างรวดเร็ว แต่อดัมจับคอเสื้อของหลานชายเขาเอาไว้
“ไม่ได้ ที่วิหารมีนักบุญหญิงมากมายเจ้าไปที่นั่นไม่ได้นะอาดาล ให้แลนดรีไปแทน วางดาบของเจ้าแล้วไปแต่งกายใหม่ซะ!!”
แลนดรีกลอกตามองบนด้วยความรู้สึกเบื่อหน่ายมากพอสมควร เขาไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย ในเมื่อพี่ชายของเขาอาสาไปเช่นนั้นแล้วทำไมท่านอายังเลือกเขาอีก
แต่เพราะเขาเป็นคนพูดไม่เก่ง อีกทั้งเขาไม่อยากจะขัดใจท่านอาเท่าไหร่ ท้ายที่สุดแล้วแลนดรีจึงเดินทางมาที่วิหารด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย เขาสวมวิกผมสีดำมาเพราะไม่อยากแสดงตัวว่ามาจากตระกูลกรีน
รถม้าคันแล้วคันเล่าที่แล่นผ่านไป สตรีมากมายเดินเข้าไปในวิหารพร้อมกับข้ารับใช้ที่ตามติด เขาไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษ สตรีพวกนี้ไม่น่าสนุกเลยสักนิดเดียว สู้ดาบของเขาก็ไม่ได้..
แลนดรีหมุนตัวเพื่อตั้งใจจะเดินทางออกไปจากที่นี่ ท่านอาสั่งให้เขามาเช่นนั้นเขาก็มาแล้ว ตอนนี้คงถึงเวลาที่เขาจะกลับ..
“.....”
เมื่อเขาหมุนตัวกลับมาก็พบเจอกับสตรีที่มีเส้นผมสีแดงในแบบที่แสนจะโดดเด่น ใบหน้านั้นงดงามเสียยิ่งกว่าภาพวาดที่ติดเอาไว้ที่ผนังของคฤหาสน์กรีน แพรขนตางอนงามกำลังช้อนสายตาขึ้นมามองหน้าเขา
เลดี้เรเซเดนงดงามในแบบที่การละสายตาออกจากใบหน้านั้นไม่ใช่เรื่องที่ทำได้โดยง่าย เขายืนมองนางเดินไปตามทางเดินของวิหารศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่กะพริบตา
“สวยมากใช่ไหมล่ะ แมดดี้ของข้านั้นงดงามและเจิดจรัสเช่นนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว”
ดาเนียกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้กับบุรุษผู้นั้นที่กำลังจ้องมองเพื่อนรักของเธอด้วยสายตาตกตะลึง
“ครับ..”
เรื่องความงดงามบอกตามตรงว่าเขาไม่เถียงเลยแม้แต่ครึ่งคำ เพียงแต่เลดี้เรเซเดนนั้นไม่ใช่สตรีในแบบที่เขาชื่นชอบเท่าไหร่นัก
ดอกไม้ยิ่งเบ่งบานด้วยความงดงามมากเท่าใด เหล่าแมลงต่างก็แย่งชิงกันดอมดมมากเท่านั้น เขาไม่ชอบมองสตรีที่ตัวเองรักอยู่กับผู้อื่นเช่นนั้น เขาไม่ได้ใจกว้างมากขนาดนั้น..
นั่นทำให้ในใจของแลนดรีได้ข้อสรุปแล้วว่าเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเลดี้เรเซเดนอย่างเด็ดขาด
“ครับ? ง่ายๆ แบบนั้นเลย ดะ..เดี๋ยวสินั่นท่านจะไปไหนกัน ทางเข้าวิหารไปอีกทางต่างหาก..”
แลนดรีมองหน้าของสตรีที่กำลังส่งยิ้มให้เขาด้วยแววตาที่เย็นชาประดุจน้ำแข็ง หากเลดี้เรเซเดนนั้นนับได้ว่างดงาม เช่นนั้นเลดี้ผู้นี้ก็ถือได้ว่านางน่ารักเหมือนกับเด็กๆ และมีความตรงมาตรงไปมากพอสมควร
“ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อที่จะเข้าไปในวิหาร”
ดาเนียจุดยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมท่าทีเย็นชาของเขามันถึงได้ถูกใจเธอนัก
“เช่นนั้นท่านมาที่นี่ทำไมกันคะ มาหาภรรยาในอนาคตอย่างนั้นหรือ?”