4.นักเรียนดีเด่น
“เอส นี่คือเรื่องการแต่งงานที่สำคัญ เจ้าไม่ควรกล่าวถึงชื่อของสตรีอื่นเพื่อให้นางเสื่อมเสียเกียรติ”
อ่า..พระเอกก็ยังคงเป็นพระเอกอยู่วันยังค่ำสินะ ผู้ชายธงเขียวแบบภูเขาสิบลูกนี่ก็ไม่เลวเหมือนกัน
“สิ่งที่ข้ากำลังจะบอกเจ้าคือการเตือนด้วยความหวังดีต่างหากลุควิค ข้าต้องการ เลล่านางเหมาะสมจะเป็นดัชเชสของข้ามากกว่าเป็นเคาน์เตสของเจ้า”
ดาเนียซี๊ดปากด้วยความรู้สึกสนุก
“ให้ตายสิ รู้สึกได้ถึงความกดดันของทั้งสองคนเลย ทำไมข้าไม่เกิดมาเป็นเดมเกโลทีส บ้างนะ จะมีได้บุรุษมาแย่งข้าบ้าง”
แมเดอลีนเผลอหัวเราะออกมาเบาๆ กับความน่ารักของดาเนีย แต่รู้สึกว่าเธอน่าจะหัวเราะเสียงดังไปหน่อยเพราะในตอนนี้สายตาของคนทั่วร้านขายเครื่องประดับกำลังหันมามองที่เธอไม่เว้นแม้แต่สายตาของท่านดยุคและท่านเคาน์ที่กำลังโต้เถียงกัน
เมื่อรู้ว่าตัวเองเสียงดังมากเกินไปแมเดอลีนจึงรีบยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้ เธอสวมวิกผมสีน้ำตาลเพราะเลดี้เรเซเดนยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการต่อสังคม เพราะแบบนั้นเธอจึงไม่สมควรจะออกมาข้างนอกในนามของเลดี้ตระกูลเรเซเดน
“มีเรื่องอะไรให้น่าหัวเราะกัน ไร้มารยาท!!”
เอสเตบันปรายตามองหน้าของสตรีผู้หนึ่งที่กำลังหัวเราะคิกคักออกมา
นี่เขา..ด่าเธองั้นเรอะ!
“อ่า..ขออภัยด้วยนะคะท่าน ข้าไร้มารยาท แล้วท่านดยุคผู้มีมารยาท สามารถตะโกนเสียงดังในร้านขายเครื่องประดับได้อย่างนั้นหรือคะ พอดีว่าถึงแม้ว่าข้าจะไม่มีมารยาทแต่ข้าก็ไม่เคยทำเสียงดังให้ผู้อื่นรำคาญใจ..อุ๊บ!”
ดาเนียรีบยกมือขึ้นมาปิดปากของแมดดี้อย่างเร่งด่วน
“ขออภัยด้วยค่ะท่านดยุค ขออภัยแทนเพื่อนที่เป็นนักเดินทางของข้าด้วย นางไม่รู้ธรรมเนียมปฏิบัติของที่นี่เท่าไหร่นัก”
ดาเนียกล่าวออกมาพร้อมกับจับศีรษะของแมเดอรีนให้นางก้มลงเพื่อไม่ให้ท่านดยุคเห็นหน้า
นี่เพื่อนเธอเสียสติไปแล้วรึไง ไปตอบโต้ท่านดยุคได้ยังไงกัน
“ที่นางกล่าวออกมาก็ถูกต้องแล้ว เราไปคุยกันที่อื่นเถอะเอส ขออภัยสุภาพสตรีทุกท่านด้วยนะครับ”
ท่านเคาน์แบล็คก้มหน้าลงก่อนที่เขาจะจับมือของเอสเตบันให้เดินตามเขาออกไป
“ถือว่าวันนี้เจ้าโชคดี..”
เมื่อบุรุษผู้สูงศักดิ์ทั้งสองคนเดินออกไปแล้วดาเนียก็แทบจะกินหัวของแมดดี้
“เจ้าเป็นบ้าไปแล้วรึไง นั่นคือท่านดยุคตระกูลวีไซร์นะ เจ้าไปกินดีหมีมารึไงถึงได้ใจกล้าขนาดนั้น”
เธอแค่ไม่ชอบที่เขาด่าว่าเธอไร้มารยาทนี่
“เราออกไปจากที่นี่เถอะ เดี๋ยวค่อยมาซื้อเครื่องประดับนี่วันหลัง..”
ดาเนียมาส่งเธอที่คฤหาสน์ เมื่อกลับมาถึงสาวใช้ของเธอก็เก็บเสื้อผ้าใส่หีบไม้เรียบร้อยแล้ว และกำลังถูกยกขึ้นบนรถม้าเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปที่วิหารศักดิ์สิทธิ์
แมเดอลีนถอนหายใจด้วยความรู้สึกมากมายที่หลั่งไหลเข้ามา เธอนั่งลงในสวนก่อนจะหลับตาลงช้าๆ ทุกครั้งที่หลับตาสัมผัสที่บุรุษผู้นั้นทิ้งเอาไว้ยังคงหลงเหลือตามร่างกายไม่จางหายไปตามวันและเวลาที่เดินผ่านเลย
“เจ็บรึเปล่า?”
“ค่ะ..จะ..เจ็บมาก”
“ดีแล้ว ความเจ็บปวดจะทำให้เจ้าจดจำข้าได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น”
ดวงหน้างามพลันเห่อร้อนขึ้นมาอีกครั้ง เธอถอดวิกผมสีน้ำตาลออกมา เรือนผมสีแดงสดพลันสยายไปตามแผ่นหลัง
หากได้พบเจอกันอีกครั้งก็คงดี ครั้งนี้เธออยากจะจดจำใบหน้าของเขาให้ชัดเจน อยากจะถามเขาเหมือนกันว่าหลังจากที่ทุกอย่างจบลงแล้วเขายังคิดถึงเธออยู่รึเปล่า หรือว่าเขาไม่ต้องการที่จะพบเจอเธอแล้วกันแน่
........................
ดวงตาคู่นั้นมีสีอะไรกันนะ เรือนผมที่เขาใช้มือนี้สัมผัสมันนุ่มสลวยเหมือนกับเขาสัมผัสลงไปบนผ้าไหม
เอสเตบันนั่งลงในอ่างน้ำอุ่น เขามอง ออกไปด้านนอกหน้าต่างด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย ทว่าในหัวใจของเขากำลังอ่อนไหวมากทีเดียว
ผิวกายของเธอมันเนียนละเอียดราว เขาขบกัดมันลงไปจนเกิดเป็นรอยฟันเล็กๆ บนไหล่ของเธอ เลือดสีแดงสดไหลซึมออกมาบริเวณที่เขากัด
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมในวันนั้นเขาถึงได้กระทำรุนแรงกับนางนักหนา นางร้องขอด้วยน้ำเสียงปนสะอื้น
ร้องขอให้เขาอ่อนโยนและได้โปรดเมตตานาง แต่ทว่าเขาไม่ได้ใจดีถึงขนาดนั้น
เอสเตบันมองมือตัวเอง ในวันนั้นเขาสัมผัสลงไปบนก้อนเนื้อนุ่มนิ่มทั้งสองข้าง เขาบีบมันอย่างแรงจนมันปริออกมาตามร่องนิ้ว ยอดอกคู่งามนั่นเป็นสีชมพูระเรื่อ เขาจำได้ดีว่าเขาทั้งใช้ปากดูดดึงมันอย่างแรงสลับกับใช้ฟันขบกัดมันด้วยความลุ่มหลงและมัวเมา
ช่องทางรักที่อุ่นละมุนเหมือนผิวของผลไม้นุ่มที่หลับใหลในสวนเอเดน ความชื่นฉ่ำที่แทรกซึมราวกับสายน้ำในสวนสวรรค์ เขาใช้ปากกระทำรักตรงนั้นนับครั้งไม่ถ้วน สอดปลายนิ้วเข้าไปในโพรงอ่อนนุ่มนั่นเพื่อทำให้รูเล็กๆ นั่นขยายออก เขาเล้าโลมอยู่ค่อนคืนกว่าแก่นกายของเขาจะสามารถสอดลึกเข้าไปได้
มันยากเย็นแต่ทว่ากลับคุ้มค่าแก่การรอคอย เธอหอมหวานเหมือนผลไม้ที่สุกงอมและรอคอยให้เขาเอื้อมมือไปเด็ดมันลงมา
หยดเลือดสีแดงสดที่ไหนรินลงมาเปื้อนซอกขาทำให้เขารู้ว่าชีวิตของเขาได้กระทำบาปด้วยการพรากพรหมจรรย์ของสตรีไร้เดียงสาผู้นั้น มาถือครองเอาไว้ในมือซะแล้ว
และความผิดบาปนั่นซึมซาบลงไปในหัวใจของเขา ปรากฏเป็นความสุขล้นที่ไม่อาจหยั่งถึง
เขาอยากรู้ว่านางเป็นใคร อยากรู้ว่าหลังจากที่เขาพรากเอาสิ่งที่นางหวงแหนมาแล้ว บนร่างกายที่หอมหวานของนางได้เปิดเผยให้ผู้อื่นเชยชมอีกหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นเขาคงจะเสียดายอย่างสุดซึ้งทีเดียว..
ด้วยเหตุผลที่กล่าวมานี้มันจึงทำให้เขา..ทำรักที่รุนแรงมากกว่าทุกครั้งที่เคยทำมา เพื่อจารึกเอาไว้บนร่างกายของเธอว่าเรื่องเช่นนี้มันไร้ความสุข ให้เธอหวาดกลัวบุรุษผู้อื่นไปเลยน่าจะดีกว่า
นี่แหละคนสารเลวเช่นเขา..
“อึ่ก! อา..”
เมื่อฝ่ามือขยับรูดขึ้นลง ของเหลวใสก็ค่อยๆ ทยอยหลั่งไหลออกมาจากปลายยอดสีลูกพีช เขาเป็นเช่นนี้มาได้หลายวันแล้ว แค่คิดถึงเรื่องวันนั้นเขาก็ตื่นตัวจนแทบบ้า..ลำคอเริ่มสั่นเมื่อถูกมือกระตุกส่วนปลายแรงๆ
เอสเตบันหลับตาลง ในความรู้สึกของเขาริมฝีปากเล็กๆ นั่นกำลังเผยอออกเพื่อที่จะรับเขาเข้าไปด้านในโพรงปาก เกลียวลิ้นที่ไร้เดียงสานั่นแลบเลียลงไปด้วยความเงอะงะ แต่ถึงอย่างนั้นต้องชื่นชมในความพยายามของเธอ ถึงแม้ว่านางจะไม่เคยกระทำมาก่อนแต่นางคือนักเรียนรู้ที่ดี ไม่ว่าเขาจะบอกนางให้ทำเช่นไรนางล้วนเชื่อฟังทั้งนั้น
นิ้วกำรอบโคนแล้วออกแรงบีบแน่น เขาร้องครางออกมาด้วยความสุขสมเมื่อลาวาร้อนพวยพุ่งออกมาจากจุดอ่อนไหว
หากได้เจอกันอีกครั้ง สาบานได้เลยว่าเขาจะขังสตรีผู้นั้นเอาไว้ แล้วทำให้นางเป็นนักเรียนดีเด่นของเขาคนเดียว