2
“ทะ ท่าน...บาดเจ็บหรือไม่”
นางยื่นมือไปข้างหน้า กระทั่งปลายนิ้วสัมผัสแผงหน้าอกแกร่งที่จังหวะการหายใจเข้าออกอันแผ่วเบา มันส่งผลให้อวี้เพ่ยเพ่ยชักมือกลับแทบไม่ทัน
“อะ อื้อ...อ่าส์!”
เขาเป็นผู้ชายตัวโต และส่งลมหายใจแผ่ไออุ่นซ่านถึงเรือนกายนาง ที่สำคัญเมื่อครู่ สัมผัสที่เกิดขึ้นราวกับร่างกายหญิงสาว เสมือนถูกสายฟ้าฟาดเข้าใส่อย่างรุนแรง เรื่องเช่นนี้ ช่างยากที่จะอธิบายเป็นคำพูด
อวี้เพ่ยเอ๋อร์ร้อนฉ่าในร่มผ้า ใบหน้าแดงงามล้ำเห่อแดง ร่างกายบอบบางยากปฏิเสธได้ว่า นางเผลอไผลกับช่วงเวลาชั่วพริบตานั้น ซึ่งส่งผลมาจากเรือนกายแกร่งบุรุษแปลกหน้า
ซึ่งในห้องที่แสงสว่างเข้ามาไม่ถึง หญิงสาวมักมีปัญหาด้านสายตา อันเป็นผลมาจากการถูกวางยาของคนในเรือนสกุลเจี่ยง กระนั้นก็ไม่อาจปฏิเสธตนว่า บุรุษปริศนาดูดีเหลือเกินทั้งยังมีเสน่ห์จับใจ
“แม่นางเจ้าได้รับพิษด้วยหรือ!”
เสียงทุ้มๆ ที่เต็มไปด้วยความห่วงใย ส่งผลให้อวี้เพ่ยเอ๋อร์ที่ก่อนหน้านี้ตัวสั่นเทาเหมือนลูกนกเปียกปอนน้ำฝน อบอุ่นขึ้นราวกับได้รับแสดงอาทิตย์แรกของวัน
“หามิได้ เพียงแต่ข้ากลัวท่านจะจับไข้ เหมือนเมื่อคืน”
อวี้เพ่ยเอ๋อร์ถามน้ำเสียงเบาอยู่สักหน่อย แก้มทั้งสองข้างนางพลันแดงระเรื่อ มือไม้พันกันยุ่ง คงไม่ใช่เพราะเขาเป็นบุรุษ แต่หัวใจบอกว่า หญิงสาวได้พบความรักครั้งแรกอย่างไม่ทันตั้งตัว !
ภาพวันก่อนย้อนกลับมา ส่งผลให้อวี้เพ่ยเพ่ยกลัว ทั้งว้าวุ่นใจ ตัวนางเป็นสตรีสายตาผิดปกติในที่มืด หมอตำแยในเมืองฮุ่ยกล่าวว่า อาการนี้หากได้แพทย์จากสำนักหมอหลวง หรือหมอเทวดา ตรวจอย่างละเอียดและดูแลเรื่องยา โดยกินอย่างสม่ำเสมอสักสองเดือน สายตานางอาจกลับมามองเห็นเป็นปกติ หากน่าเสียดายหลังจากอยู่ที่นี่ นางประสบปัญหามากมาย ที่สำคัญคือเงินขาดมือ อย่าว่าแต่เดินทางไปเมืองหลวงเลย แค่จะออกจากเมืองฮุ่ย ชาตินี้ก็ไม่รู้ว่านางจะมีปัญญากระทำได้หรือไม่ ทุกวันนี้นางไม่มีเงินแม้แต่จ้างสาวใช้ หรือคนมาช่วยงานที่เรือน แต่ละวันต้องออกไปขายขนมอบไส้หมู และยังมีงานผ้าปัก และหนังสือกลอนพร้อมภาพวาดประกอบที่นางพอจะมีความสามารถอยู่บ้าง เพื่อให้ตนไม่ต้องอดตาย อันที่จริงนางควรหาเงินได้มากกว่านี้ แต่เป็นเพราะอวี้เพ่ยเอ๋อร์ มักช่วยเหลือผู้อื่น ทั้งเด็กเร่ร่อน คนแก่ รวมถึงสัตว์ที่หิวโหย
และสาเหตุที่นางมีชีวิตเช่นนี้ ทั้งหมดเกิดขึ้นหลังคืนเข้าหอหลอกๆ ผ่านไปราวๆ ห้าวัน นางถูกส่งตัวออกจากเมืองหลวง ให้ย้ายมาที่นี่ และอวี้เพ่ยเอ๋อร์ยังได้พิษชนิดหนึ่งเข้า ซึ่งด้วยสติปัญญาของนางที่เกิดในสกุลบัณฑิต จึงพอจะทราบว่า พิษดังกล่าวมาจากเหล้ามงคลในคืนส่งตัว ส่วนจะเป็นฝีมือผู้ใด คงไม่พ้นแม่สามี หรือ
สตรีที่หลงรักเจี่ยงซานสามีของอวี้เพ่ยเอ๋อร์ ผู้ที่ยามนี้ เหลือเพียงป้ายวิญญาณ!
แม้อวี้เพ่ยเอ๋อร์ได้แต่งงานกับเจี่ยงซาน ทว่านอกจากไม่เคยเห็นหน้าอีกฝ่าย นางกับได้รับป้ายวิญญาณของเขาจากทางการ ดังนั้นอวี้เพ่ยเอ๋อร์จึงเป็นฮูหยินหม้าย ที่ไม่เคยร่วมเตียงกับสามี เป็นฮูหยินที่ยังสาวและสวยซึ่งชีวิตเหมือนถูกจองจำ พร้อมสายตาดูถูกดูแคลน ของผู้อื่นว่านางคือผู้หญิงกินผัว !
เรื่องนี้จะโทษใครได้ สวรรค์เท่านั้นที่ลิขิตให้นางเป็นหม้ายทั้งที่อายุเพียงสิบเจ็ดปี
ซึ่งการที่นางยอมแต่งงานกับมือปราบเจี่ยง ทั้งที่อายุมากกว่านางเกือบสิบห้าปี เพราะความกตัญญูต่อบิดา และเจี่ยงซานทำงานในหน่วยกองพันเสือโคร่ง เขามอบเงินมิน้อยแก่ครอบครัวนาง ที่เป็นบัณฑิตตกยาก เพื่อให้รอดพ้นจากการเป็นหนี้สิ้น เนื่องจากถูกฟ้องร้องคดีใหญ่ ที่เกี่ยวพันกับท่านหญิงสกุลม่าน
และแม้จะใช้ชีวิตอย่างสันโดษในเมืองฮุ่ยตามลำพัง แต่มีเหตุการณ์ที่ทำให้นางต้องว้าวุ่นใจ และอยู่อย่างหวาดระแวง ซึ่งเกิดจากยามบ่ายวันนั้น อวี้เพ่ยเอ๋อร์กำลังอาบน้ำอุ่นอย่างสบายใจ นางต้องตกใจสุดขีด เมื่อในอ่างน้ำมีบางสิ่งเคลื่อนไหว!
“อ๊ะ...อื้อ... ชะ ช่วยด้วย”
นางร้องเสียงดัง ร่างกายแข็งทื่อในถังไม้ ขณะนั้นงูเกล็ดดำตัวเขื่องซึ่งมีพิษร้าย อยู่ในอ่างไม้พร้อมกับอวี้เพ่ยเอ๋อร์ งูดังกล่าวแน่นอนว่ามีคนจงใจ ปล่อยมันมาอยู่ในเรือนหลังนี้ !
หญิงสาวกลัวจับใจ แม้อยากขยับหนี แต่ร่างกายไม่เชื่อฟังคำสั่ง นางพยายามเหลือเกินที่จะรวบรวมพลัง หากสุดท้ายทำสิ่งใดไม่ได้ ร่างกายแข็งค้าง ราวกับรูปปั้น และไม่รู้ด้วยเหตุใด งูตัวเขื่อง กลับใช้ส่วนหางเลื้อยพันท่อนขาเรียวยาว
“อื้อ... มะ ไม่!”
อวี้เพ่ยเอ๋อร์น้ำตาไหล กลัวเหลือเกิน เมื่อเห็นหัวงูตัวดังกล่าว ค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ นางรีบหลับตาปี๋ และมันเป็นความคิดที่ไม่เข้าท่าสักนิด
ยามนั้น หางของงูรัดขานางแน่นขึ้นทีละนิด เสียงขู่ฟ่อๆ ดังชวนให้ตื่นตระหนก
เมื่อครู่ร่างกายที่แข็งทื่อของนาง กลับเกิดบางสิ่งที่ชวนให้ครั่นคร้ามใจ ด้วยสัตว์เลื้อยคลานเคลื่อนไหวอยู่บนเรือนกายนุ่มนิ่ม ความมันลื่นและเย็นจัด เลื่อนสูงจากท่อนขา ก่อนเฉียดเข้าใกล้เนินเนื้อสวาทอันอวบอูมของความสาวที่ยังไม่เคยผ่านมือผู้ใด
“อี๊... อ๊ะ!” อสรพิษเคลื่อนเข้ามาใกล้เหลือเกิน และสัตว์เดรัจฉานทำสิ่งที่ส่งผลให้กายสาวนี้สั่นระริก
อวี้เพ่ยเอ๋อร์เม้มริมฝีปากแน่น กลั้นเสียงตนไว้ แต่มันช่างน่าอับอาย เนื้องามของนางสั่นระริก กลีบความสาวฉ่ำชื้น ส่วนยอดหน้าอกสีชมพูเข้มก็แข็งเป็นไต
นางไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ตนกำลังเคลิ้มไหว นางกำลังมีความรู้สึกซ่านสยิว ร่างกายนี้ไวต่อความสิเน่หา มันเป็นเช่นนี้ นับแต่นางสายตานางผิดปกติ ซึ่งเป็นผลจากยาพิษที่ผสมอยู่ในเหล้ามงคลจอกนั้น!
กระทั่งนางรวบรวมความกล้าของตน เพื่อหาทางเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่ชวนตื่นตระหนก ก็ดูเหมือนว่าช้าเกินไปเสียแล้ว ด้วยส่วนหัวของงูเลื้อยอย่างรวดเร็ว มันเริ่มรัดที่ลำคอระหงของอวี้เพ่ยเอ๋อร์!