ตอนที่ 2 (ep2.)
ปรมัตถ์ขับรถเลี้ยวผ่านประตูทางเข้าที่สูงตระหง่านของตัวคฤหาสน์ที่กว้างใหญ่บนเนื้อที่กว่าห้าไร่ใจกลางกรุงเข้าไปจอดยังหน้าประตูบ้าน แล้วก้าวลงจากรถ
“คุณปลายหนาว”
นายยุทธ์ชายวัยเกือบสามสิบซึ่งเป็นคนขับรถประจำบ้านวิ่งเข้ามาหาเขาแล้วทักทาย
“ส่งรถไปอู่ด้วย”
ปรมัตถ์หันมามองนายยุทธ์ที่ทำหน้าฉงนพร้อมกับสำรวจมองดูรถจนทั่วคันจนได้เห็นความผิดปกติ ในขณะที่ปรมัตถ์เดินเข้าไปด้านใน ซึ่งเป็นห้องโถงรับแขกที่อลังการด้วยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่หายากและมีราคา บ่งบอกถึงรสนิยมของผู้อยู่อาศัยว่าชอบสะสมของเก่า
ทันทีที่ปรมัตถ์เดินเข้าไปในด้านใน เจ้าสัวเต็มยศ ชายวัย หกสิบปีที่กำลังให้ความสนใจกับพระเครื่องรุ่นเก่าก็เงยหน้าขึ้นแล้วมองตรงมายังลูกชายคนเดียวของเขาที่ไม่ได้เจอหน้ามาเกือบสองเดือน ปรมัตถ์นั่งลงตรงข้ามกับพ่อพร้อมยกมือไหว้
ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ด้วยความสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซนฯ จากคนที่เคยผิวขาวกลับกลายเป็นคล้ำ ดูคมขรึมน่ามองไปอีกแบบ รูปร่างกำยำสมสัดส่วนสมกับอุปนิสัยเป็นคนชอบออกกำลังกาย
“มาแล้วหรือ”
เจ้าสัวเต็มยศเอ่ยทักเมื่อลูกชายยกมือไหว้ เขาละสายตาจากพระเครื่องมองหน้าลูกชายตรง ๆ
“ถ้าแกไม่ได้เข้ามาประชุมที่กระทรวงเทคโนโลยี คงไม่ได้มาบ้านสินะ”
ปรมัตถ์ยิ้มกว้าง
“ครับ”
เขาตอบรับสั้น ๆ ทำให้เจ้าสัวเต็มยศต้องผ่อนลมหายใจออกมาพร้อมกับตวัดสายตาขว้างค้อนให้เขาเสียวงใหญ่ ทำให้ปรมัตถ์เปล่งเสียหัวเราะออกมากับท่าทางของพ่อ ก่อนจะขยับเข้าไปนั่งใกล้ ๆ แล้ววางมือบีบนวดที่ขา
“พอ ๆ ฉันไม่ได้เมื่อย เพราะไม่ได้ขายปุ๋ย”
เจ้าสัวเต็มยศก็ยังอดที่จะแขวะลูกชายเสียไม่ได้
“มาอยู่กี่วัน”
“รอรถเสร็จครับ”
“ทำไม”
“ถูกชนครับ”
เจ้าสัวเต็มยศพยักหน้า
“ใครชน”
ปรมัตถ์ขบกรามแน่นเมื่อนึกถึงใบหน้าที่สวยสะอาด ดวงตากลมโตของสาวน้อยคนนั้น
“คงลูกคนมีเงินครับ”
“น่าเสียดาย ถ้าจนจะไปขอมาเป็นลูกสะใภ้”
ปรมัตถ์มองหน้าพ่อนิ่ง
“ก็เพราะเธอสามารถทำให้แกอยู่บ้านได้หลายวันไง ถ้าเธอไม่ขับรถชนรถแก แกคงจะนั่งอยู่ตรงนี้ตูดไม่ทันร้อนก็คงต้องไป”
ปรมัตถ์เปล่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ อย่างอารมณ์ดี พร้อมกับมองไปรอบตัว
“ผมได้ข่าวว่า ต้นฝนกลับมาแล้ว”
เจ้าสัวเต็มยศพยักหน้าแล้วหยิบพระมาส่องเมื่อชำเลืองสายตาไปเห็นอรวรรยา ภรรยาใหม่ของเขาเดินนวยนาดเข้ามา พลางกวาดสายตามองดูปรมัตถ์นิ่ง
“สบายดีไหมครับ”
ปรมัตถ์เอ่ยทัก
“ไม่เจ็บไม่ไข้ มีกินมีใช้อย่างสะดวกสบาย”
เจ้าหล่อนตอบอย่างฉาดฉานทำให้ เจ้าสัวเต็มยศช้อนสายตามองหน้าภรรยาพลางยิ้มที่มุมปากอย่างนึกหมั่นไส้
“ต้นฝนไปไหนล่ะ ปลายหนาวอยากเจอ”
เพียงแค่เจ้าสัวเต็มยศเอ่ยถึงลูกสาวคนเดียวของอรวรรยา ซึ่งหล่อนมีลูกติดมาหนึ่งคนก่อนจะมาแต่งงานกับเขาเมื่อสิบกว่าปีก่อน ทำให้อรวรรยาถึงกับกำมือแน่นขึ้นมาทันที
“มีอะไรหรือครับ”
แทนคำตอบของปรมัตถ์ ชายหนุ่มวัยยี่สิบห้าปี ผมตัดสั้นเกรียนดูสะอาด เผยใบหน้าที่หล่อเหลาหมดจด ประดับด้วยหนวดและเคราบาง ๆ ผิวขาวสะอาดรูปร่างแบบบางชะโอดชะองเดินเข้ามา
“พี่ปลายหนาว”
เสียงเรียกที่เป็นเสียงของชายหนุ่มดังขึ้น พร้อมกับเรียกชื่อเล่นของปรมัตถ์อย่างคุ้นเคย ทำให้ปรมัตถ์จ้องมองพลางขมวดคิ้วมุ่นด้วยความฉงน ในขณะที่เจ้าสัวเต็มยศหัวเราะหึ ๆ ในลำคอเมื่อมองเห็นหนุ่มน้อยคนนั้นเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่สดใสแต่ตรงข้ามกับอรวรรยา ซึ่งมีสีหน้าบูดบึ้งจนเห็นได้ชัด
“ดีใจจังเลยที่ได้เจอพี่ ผมตั้งใจว่า จะไปหาพี่อยู่เชียว”
หนุ่มน้อยที่มีชื่อเล่นว่าต้นฝนนั่งลงข้างปรมัตถ์พร้อมกับวางมือตบที่เข่าของเขาหนัก ๆ ในขณะที่ปรมัตถ์หันไปมองหน้าพ่อที่อมยิ้มก่อนจะปรายตาไปหาอรวรรยาที่นั่งหน้าบูดอยู่เหมือนเดิม
“สงสัยหรือว่ามันเป็นใคร”
อรวรรยากระแทกเสียงออกมาพลางมองค้อนเจ้าหนุ่มน้อยคนนั้น ทำให้ปรมัตถ์ต้องหันกลับไปพิจารณาชายหนุ่มที่อยู่ข้าง ๆ เขาอีกครั้ง
“แล้วนายเป็นใคร”
แทนคำตอบ หนุ่มน้อยคนนั้นยกมือกอดคอปรมัตถ์แล้วหอมแก้มเขาเสียฟอดใหญ่ ทำให้ปรมัตถ์โดดผางลุกพรวดขึ้นทันที พร้อมกับยกมือกอดอกไว้แน่นเมื่อจ้องมองเจ้าหนุ่มน้อยที่นั่งยิ้มเผล่คนนั้น
“เฮ๊ย!นี่..นี่ นี่.”
ปรมัตถ์ยกมือชี้มาที่หน้าของหนุ่มน้อยคนนั้น ที่ลุกขึ้นแล้วยืนตรง
“ผม ชื่อนางสาววิรุณโปรย ครับผม”
“หา! ต้นฝนหรือนี่”
ปรมัตถ์อุทานออกมาราวกับไม่อยากเชื่อสายตาของตนเอง พร้อมกับมองสำรวจหนุ่มน้อยตรงหน้า ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหล่อนคือหญิงสาวแสนสวยคนหนึ่ง ที่อรวรรยาหมายมั่นไว้ว่าจะให้แต่งงานกับเขาเพื่อที่สมบัติเงินทองจะไม่รั่วไหลไปทางไหน
จากน้องสาวกลับกลายมาเป็นว่าที่ภรรยา เป็นสาเหตุให้ปรมัตถ์ลำบากใจจนต้องขอผันตนเองไปเปิดบริษัทผลิตปุ๋ยอยู่ที่ภาคใต้ ซึ่งอยู่ในที่ดินซึ่งเป็นของแม่ผู้จากไปของเขา
“เราต้องไปคุยกันสองคนครับพี่”
ต้นฝนหรือนางสาววิรุณโปรยเดินเข้าไปหาปรมัตถ์แล้วกอดคอเขาโน้มเข้ามาใกล้ ๆ ด้วยความสูงที่ต่างกันสิบกว่าเซนฯ จากนั้นวิรุณโปรยก็รั้งปรมัตถ์ให้เดินตามตนออกไปยังสวนหย่อมหน้าบ้าน ปล่อยให้ผู้เป็นแม่ที่เหมือนถูกตีแสกหน้าด้วยไม้คมแฝก ต้องนั่งหน้าบูดอยู่ตรงนั้นกับสามีที่แสร้งทำไม่สนใจ แต่แอบชำเลืองสายตามองบ่อย ๆ