บทที่ 2 ทะลุมิติจริงๆ ใช่ไหม (2/2)
ชุยเหมยฮวาเอากับข้าวทุกอย่างใส่ถ้วยและนำไปใส่ไว้ในตะกร้า พร้อมกับตักข้าวสวยร้อนๆ ใส่หม้อใบเล็ก จากนั้นจึงเดินออกจากบ้านและปิดประตูอย่างแน่นหนาก่อนจะเดินไปในหมู่บ้านเพื่อไปหาสามีและทุกคน
ระหว่างเดินเธอไม่สนใจว่าใครจะมองยังไง ในเมื่อนี่คือชีวิตเธอขอแค่ใครอย่ามาหาเรื่องก็พอ แม้ว่าชุยเหมยฮวาคนนี้จะไม่ร้ายและกลับตัวกลับใจเป็นคนดีเพื่อสามีและครอบครัว แต่ใช่ว่าจะร้ายไม่เป็น
ชาวบ้านหลายคนเห็นชุยเหมยฮวาถือตะกร้าคล้ายกับอาหารเดินไปทางที่ดินทำกินของบ้านใหญ่เซียวซึ่งเป็นบ้านของสามี แต่ละคนจึงทำได้เพียงแต่แปลกใจ คิดว่าวันนี้ตะวันขึ้นผิดฝั่งหรือไม่ที่เธอเดินไปทางนั้น โดยปกติหากไม่ไปทางบ้านเดิม ก็ต้องไปบ้านรองเซียวเพื่อไปมองหาอดีตคนรักไม่ใช่เหรอ
“สะใภ้เซียว นั่นหล่อนจะไปไหน?” นางหวั่นซื่ออดใจที่จะถามออกมาไม่ไหว วันนี้สะใภ้บ้านใหญ่เซียวผิดแปลกไปจากเดิม
“เอาอาหารไปให้พี่หย่งเสียนและพ่อแม่สามี ป้าถามฉันทำไม” ในเมื่อถามมา ชุยเหมยฮวาพร้อมที่จะตอบ แต่ถ้าด่ามาเธอด่ากลับด้วยเช่นกัน
นางหวั่นซื่อรวมถึงชาวบ้านได้แต่ทำหน้าเหมือนเห็นผีและมองหน้ากันเลิ่กลั่ก วันนี้คงจะตะวันขึ้นผิดฝั่งแน่ๆ ที่ชุยเหมยฮวาเอาอาหารไปให้สามีและครอบครัวสามี หากเป็นบ้านชุยหรือบ้านรองเซียวพวกเธอคงจะเชื่อ
“ปะ...เปล่า ปกติเห็นไม่เคยเดินมาไปทางนั้น ฉันเลยถามดู ไม่มีอะไร ไปเถอะ” นางหวั่นซื่อรีบปฏิเสธ เพราะคิดว่านี่คือความฝัน เธอคิดว่าตัวเองคงต้องไปพักผ่อน อาจจะเหนื่อยจนเกิดภาพหลอน
“มีใครจะถามอะไรฉันอีกไหม?”
เธอถามและกวาดสายตามองบรรดาป้าว่างงานทั้งหลาย ที่มักจะนั่งจับกลุ่มแทะเมล็ดฟักทองนินทาชาวบ้าน แต่ละคนรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันควัน เพราะกลัวสายตาของเธอที่มองมา แม้จะยิ้มแต่สายตานั้นกลับไม่ยิ้มด้วย
เมื่อปลีกตัวออกมาจากกลุ่มของป้าที่ว่างงานแล้วเธอจึงมุ่งหน้าไปหาสามีและพ่อแม่สามีทันที ใกล้จะถึงแล้วแท้ๆ สงสัยตอนออกจากบ้านเธอลืมดูว่าก้าวเท้าไหนออกมาทำให้เจอกับอดีตคนรักของร่างนี้เรียกไว้
“เหมยฮวารอก่อน”
เซียวเจี้ยนซูร้องเรียก แม้ว่าจะไม่ได้ชอบชุยเหมยฮวาแต่เพราะหญิงสาวมักจะมีอะไรมาให้เสมอ ทำให้เขาทิ้งหรือตัดความสัมพันธ์กับเธอไม่ลง แต่ยิ่งเรียกเท่าไหร่ชุยเหมยฮวาไม่มีทีท่าว่าจะหยุดคุยกับเขาเหมือนที่ผ่านมา ทำให้ชายหนุ่มรีบวิ่งมาดักหน้าและเตรียมจะคว้าแขนเธอ กลับเป็นชุยเหมยฮวายกเท้าถีบไปที่กลางลำตัวเข้าอย่างจัง
พลั๊ก! ตุ๊บ! “โอ๊ย! เหมยฮวาคุณเป็นบ้าอะไร ถีบผมทำไม” ชายหนุ่มร้องเสียงหลงทั้งเจ็บและจุก ไม่คิดว่าหญิงโง่คนนี้จะกล้าทำร้ายเขา ทั้งๆ ที่เธอหลงเขาอย่างหัวปักหัวปำ
“ขอโทษนะฉันเป็นคนบ้าจี้และซุ่มซ่าม เท้าเลยกระตุก ว่าแต่คงไม่เจ็บหรอก แรงของฉันคงไม่ทำให้ชายหนุ่มรูปร่างยังกับวัวแบบคุณเจ็บใช่ไหม”
ชุยเหมยฮวาลอยหน้าลอยตาตอบ พอดีว่าเท้ากระตุกแรงไปหน่อย ทั้งสองคนไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนยืนแอบมองอยู่ เพราะตั้งใจว่าจะไปหาอาหารมาให้พ่อกับแม่กิน แต่กลับมาเจอทั้งสองคนเข้าพอดี
“เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ว่าแต่คุณจะไปไหน ในตะกร้านั่นอาหารหรือเปล่า”
เซียวเจี้ยนซูเอ่ยถามก่อนจะมองตะกร้าใส่อาหารตาเป็นประกายเตรียมที่จะคว้ามา แต่ชุยเหมยฮวาเตะเขาอีกครั้งก่อนจะถอยหนี ไม่ใช่ว่าสู้ไม่ได้ แต่กลัวอาหารตกพื้นขี้เกียจกลับไปทำใหม่ นี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว หากกลับไปทำใหม่ สามีเธอและพ่อแม่สามีจะกินอะไรล่ะ
“อืม ในตะกร้าคืออาหาร แต่ของพี่หย่งเสียนและพ่อแม่สามี หากคุณไม่มีอะไรแล้วขอตัวก่อนนะ”
“หมายความว่ายังไง เธอทำอาหารไปให้ไอ้หย่งเสียนเหรอ เธอเป็นบ้าอะไรเหมยฮวา เธอไม่ได้เกลียดมันหรือไง” เซียวเจี้ยนซูตวาดด้วยความลืมตัว ความสุภาพหรือหน้ากากที่มีของเขาจึงหายไปหมด