บทที่2 ในเมื่อมาแล้ว ก็จงสงบใจอยู่ที่นี่เถิด
ลู่ม่านยังไม่ทันได้ตั้งสติ ประตูก็ถูกคนผลักเข้ามาอย่างรุนแรง
หญิงชราอ้วนท้วนพูดฉอดๆน้ำลายสาดกระเด็นไปทั่ว “ตายหรือยัง? ถ้าตายก็ยิ่งดีเลย ข้าจะได้เรียกคนมาจับเจ้าโยนออกไป”
ลู่ม่านมองหญิงชราตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “เมื่อกี้เรียกฉันว่าอะไรนะ?”
สายตาของนางเย็นชา มองดูหญิงชราตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า นางสวมชุดกระโปรงผ้ากระสอบ มัดผมไว้ข้างหลังด้วยปิ่นปักผม ตอนนี้นางแน่ใจแล้วว่า นางข้ามเวลามาจริงๆ
“เรียกเจ้าแล้วยังไง? เจ้าอย่าคิดว่ามีเจ้าสามปกป้องเจ้า เจ้าจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ! ตอนนี้เจ้าฆ่าตัวตายเพื่อหย่า เจ้าคิดว่าเจ้าสามยังจะปกป้องเจ้าอีกเรอะ!” พูดจบ นางก็หยิกแขนของลู่ม่านแรงๆ
ลู่ม่านไม่ทันตั้งตัว สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็ผลักหญิงชรานั้นล้มลงไปอย่างไม่รู้ตัว
พอผลักลงไปแล้ว นางก็รู้สึกว่าตัวเองทำเกินไป นางเรียนเทควันโดมาก่อน แต่ใช้วิชานี้มาจัดการกับคนแก่ เหมือนจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่
กำลังจะเข้าไปพยุงนางขึ้นมา หญิงชรารีบวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว รอวิ่งไปไกลแล้ว ก็ถึงร้องออกมาเสียงดัง
ยังดีที่ตอนนี้เป็นช่วงเช้า ในบ้านไม่มีคนอื่นอยู่เลย
ลู่ม่านนอนลงไปบนเตียงอีกครั้ง ในใจสับสนไปหมด
แต่ความโศกเศร้าลำพังนี้อยู่ไม่ได้นาน นางก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับแมลงวันที่บินเข้ามาจากหน้าต่าง
นางมองดูขยะในบ้านอย่างหมดเรี่ยวแรง ช่างเถอะ ยังไงตอนนี้ก็กลับไปไม่ได้แล้ว จะบ้าตายเพราะแมลงวันไม่ได้
ลู่ม่านไม่มีความสามารถอื่น แต่ความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ของนางนั้นดีมาก ไม่งั้น เด็กกำพร้าคนหนึ่งจะกระเสือกกระสนดิ้นรนทำงานในเมืองใหญ่ได้ยังไง? สุดท้ายยังมีบ้านมีรถอีก?
พูดแล้วก็ลงมือทำทันที นางเลิกแขนเสื้อขึ้นแล้วหยิบผ้าขึ้นมา
ถ้วยชามบนโต๊ะไม่รู้ว่าทิ้งไว้กี่วันแล้ว ก็ไม่มีคนเก็บกวาด นางบีบจมูกแล้วเก็บถ้วยชามพวกนั้นลงไปในกะละมัง จากนั้นก็เช็ดโต๊ะ ตู้ เก้าอี้ให้สะอาด
สุดท้ายก็กวาดพื้น!
มองดูขยะที่กองเป็นภูเขาเล็กๆ ลู่ม่านก็ถอนหายใจในใจ ไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านเป็นคนยังไง ทำไมถึงสกปรกแบบนี้?
นางไม่รู้เลยว่า เจ้าของร่างคนเดิมไม่ชอบสามีคนนี้จึงตั้งใจปล่อยบ้านให้รกแบบนี้
ใช้เวลาไปครึ่งค่อนวัน นางถึงเก็บกวาดสะอาด แต่ทำไมยังมีแมลงวันตอมนางอยู่นะ?
นางก้มดมกลิ่นตัวของตัวเองก็เห็นว่าตัวเองตัวเหม็นมาก……
นางเกือบอ้วกออกมา นางค้นหาของในตู้เสื้อผ้าที่อยู่ข้างเตียง กลับค้นเจอเสื้อตัวใหม่ ไม่คิดเลยว่า บ้านพังๆแบบนี้จะมีเสื้อผ้าใหม่ๆได้?
นึกถึงคำพูดของผู้ชายเมื่อเช้านี้ เจ้าของร่างคนเดิมอาจจะฆ่าตัวตายเพราะอยากหย่ากับผู้ชาย จากนั้นนางจึงข้ามเวลามาอยู่ในร่างนี้แทน
แต่ว่า นางทำแบบนั้นกับผู้ชายแล้ว แต่เขายังซื้อเสื้อใหม่ให้นางอีก และเมื่อคืนถึงแม้จะนอนหลับปุ้ย นางก็ยังรู้สึกได้ว่าคนที่คอยห่มผ้าให้นางคือผู้ชายคนนั้น พูดตามตรงนะ เทียบกับคนเลวๆอย่างเฉินเฟยอวี่แล้ว ผู้ชายคนนี้น่าพึ่งพากว่าเยอะ
ลู่ม่านเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ก็เอาถ้วยชามกับเสื้อผ้าออกไปซัก
ลานบ้านมีบ่อน้ำ ตอนที่ลู่ม่านเอาเสื้อผ้าออกไปซัก ก็มีหญิงสาวหุ่นผอมบางเดินเข้ามาในลานบ้าน ดวงตาคมกริบและคิ้วโก่ง ดูแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นคนชอบพูดจาเสียดสีชาวบ้าน
นางเดินเข้ามา พลางแคะเมล็ดทานตะวัน เปลือกเมล็ดทานตะวันก็ไม่เก็บให้ดี กินทิ้งกินขว้างตลอดทางที่เดินมา
ในตอนที่เห็นลู่ม่านสวมชุดกระโปรงผ้าไหมนุ่มตัวใหม่ออกมา สายตาของนางก็ประกายไปด้วยความอิจฉาริษยา
“เหอะ ลู่ซื่อ* ไหนเจ้าว่าจะหย่ากับเจ้าสามไง? ทำไมยังใส่เสื้อตัวใหม่ที่เขาซื้อให้อีกล่ะ?”
“หย่าแล้วยังไง? ถึงจะหย่าตอนนี้ข้าก็ยังไม่ไปไหนนี่?” ลู่ม่านตอบโดยไม่เกรงใจ
หญิงชราเฉินหลี่ซื่อที่ตอนเช้าถูกลู่ม่านผลัก ได้ยินลูกสะใภ้ใหญ่จ้าวซื่อมา ก็ฮึดสู้แล้วเดินออกมาจากห้องทันที
“ใช่ ห้ามเจ้าใส่เสื้อตัวใหม่ของบ้านเฉินนะ! สะใภ้ใหญ่ เจ้ามาช่วยข้าเร็ว ถอดเสื้อบนตัวนางลงมา!”
“ใครกล้า!” ลู่ม่านไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้คนอื่นรังแกได้ง่ายๆนะ ไม่งั้นนางคงถูกรังแกจนตายในบ้านเด็กกำพร้าแล้ว
นางมองตาค้อน แตกต่างจากลู่เสี่ยวม่านที่เอาแต่จะฆ่าตัวตายในเมื่อก่อนมาก หญิงชราก็กลัวหัวหด นึกถึงตอนเช้าที่ถูกผลัก ยังคงหวาดกลัวในใจเล็กน้อย
จ้าวซื่อกลับไม่รู้อะไร ยังคิดว่านางยังเป็นลู่เสี่ยวม่านที่ปล่อยให้พวกเขาด่าทอและตบตีได้ง่ายๆ ยื่นมืออยากกระชากเสื้อของนาง
ลู่ม่านปัดมือออกไป กำลังจะลงมือ
ด้านหลังก็มีเสียงดังขึ้น “พี่สะใภ้ นั่นจะทำอะไรน่ะ?”