ตอนที่ 2 เกิดเรื่อง
ตอนที่ 2 เกิดเรื่อง
เมื่อทั้งสองเข้ามานั่งในรถ ขุนพลก็ถอดเสื้อของตัวเองที่สวมใส่อยู่ออก เนื่องจากอากาศด้านในรถค่อนข้างร้อน ถึงแม้ว่าจะเอากระจกลงข้างละหน่อยแล้วก็ตาม จากนั้นเขาก็หลับไป ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันเลยด้วยซ้ำ ส่วนตะวันเธอนั่งมองหน้าเขาอยู่อย่างนั้น จนตัวเองเผลอหลับตามไปเช่นกัน
เช้าวันรุ่งขึ้น
ช่วงเช้ามืดท้องฟ้าเริ่มสาง อากาศโดยรอบจะเย็นกว่าปกติ ภายในรถมีหญิงชายสองคนกำลังนอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่ในนั้น
"ตื่นๆเก็บของเว้ย" เฮียกล้ามาที่บ้านสวนแต่เช้า ปลุกคนโน้นคนนี้ให้ลุกขึ้นมาช่วยกันเก็บข้าวเก็บของงานแต่งเมื่อวานนี้
"มาแต่เช้าเลยนะ" เฮียผาเจ้าบ่าวของงานตื่นแล้วเช่นกัน เขาเดินลงมาจากชั้นบนด้วยใบหน้าสดชื่นมีความสุข
"อ้าวเฮีย...เข้าหอคืนแรกเป็นยังไงบ้าง" ได้กันตั้งนานแล้ว! แถมเจ้าสาวก็ตั้งท้องแล้วด้วย ไม่รู้คนถามต้องการอะไร...เฮียผาคิดในใจ!
"หลับเป็นตาย แล้วไอ้ตะวันล่ะ เมื่อคืนมันนอนไหน" มองไปรอบๆไม่เห็นน้องสาวก็เลยถามไปอย่างนั้น แก้เขินที่เมื่อครู่โดนถามถึงเรื่องเข้าหอคืนแรก
"อ้าว...เมื่อคืนมันไม่ได้กลับบ้านนะ เฮียสิงห์ตื่นๆ น้องสาวเราล่ะนอนไหน" มองไปรอบๆก็ไม่เห็นมี เฮียกล้าจึงหันไปเขย่าตัวเฮียสิงห์ให้ตื่นขึ้น
"ไม่รู้ว่ะ หนาวขอผ้าห่มอีกผืนซิ" อากาศในสวนช่วงเช้าค่อนข้างเย็นจริงๆ ทุกคนที่กำลังนอนหลับอยู่ตามพื้นก็ค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นมานั่ง ส่วนมากจะเป็นญาติๆคนบ้านไกลกับเมาขับรถกลับบ้านไม่ไหว
"ตื่นเลยๆ ลุกขึ้นช่วยกันเก็บของก่อนเดี๋ยวค่อยนอนใหม่" ในขณะที่เฮียกล้ากำลังปลุกเฮียสิงห์ให้ตื่น เฮียผาก็มองไปรอบๆบ้านหาน้องสาวแต่ก็ไม่เจอ
"ไอ้กล้าแล้วตะวันล่ะ" ทั้งสองพี่น้องหันมามองหน้ากันอีกครั้ง รู้สึกตงิดใจแปลกๆ
"แล้วไอ้พลล่ะ มันนอนไหน ผมเห็นรถมันยังจอดอยู่ทางโน้น" เฮียกล้ามองไปรอบๆบ้าน ซึ่งทุกคนก็ลุกขึ้นมานั่งกันหมดแล้ว แต่ก็ไม่เห็นขุนพล แต่เห็นรถยังจอดอยู่แสดงว่าเจ้าของรถยังไม่ได้กลับ
"ไปดูซิ" ทั้งสองคนพี่น้องเดินตรงไปที่รถของขุนพลทันที ขายาวๆก้าวฉับๆ ภาวนาขออย่าให้เป็นอย่างที่คิด
ทันทีที่มาถึงรถฟอร์จูนเนอร์สีขาวของขุนพลที่จอดอยู่ ทั้งสองคนพี่น้องชะโงกหน้ามองเข้าไปที่ด้านในรถ
"ไอ้ตะวันอยู่ในนี้จริงๆด้วย" ภาพที่เห็นขุนพลไม่ได้ใส่เสื้อ ทั้งคู่กำลังนอนกอดกันกลม โดยหันหน้าเข้าหากัน ทันใดนั้นประตูรถข้างหนึ่งก็ถูกเปิดออกด้วยฝีมือของคนด้านนอก
"ตื่นๆ ไอ้พลมึงทำอะไรน้องกูเนี่ย" เสียงเฮียผาดังลั่น จนลูกน้องในสวนและเฮียสิงห์ได้ยินเข้าก็รู้เลยว่าน่าจะเกิดเรื่องขึ้น ทั้งหมดจึงรีบพากันเดินเข้ามาดู
ทางด้านขุนพลกับตะวัน เมื่อได้ยินเสียงเฮียผาดุก็เริ่มรู้สึกตัว ทั้งสองขยับตัวเล็กน้อยก่อนที่จะค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น ทันทีที่ทั้งคู่ลืมตาตื่นขึ้นมามองหน้ากันก็รู้สึกตกใจ ต่างคนต่างผละออกจากกัน สภาพเปลือยท่อนบนของขุนพลทำให้คนที่มองเข้ามาคิดไปต่างๆนานา
"ตะวัน...เอ็งมานอนอยู่ในนี้ได้ยังไง" ตะวันลืมตาตื่นขึ้นมา สิ่งที่เห็นไม่ได้น่าตกใจเท่ากับใบหน้าของพี่ชายทั้งสามคนของเธอตอนนี้ นอกจากจะไม่พอใจแล้ว น่าจะเอาเรื่องเฮียพลด้วย
"เฮียไม่มีอะไรนะ แค่เมาแล้วก็หลับไปเฉยๆ" ตะวันมองหน้าขุนพลแล้วรีบพูดแก้ต่างให้เขาทันที ในขณะที่เจ้าตัวนั่งเงียบ เพราะสภาพที่ตื่นขึ้นมาเห็น ทำให้เขาพูดอะไรไม่ออกเลยจริงๆ แต่ก็เอื้อมมือไปหยิบเสื้อที่ถอดออกเอาขึ้นมาสวมกลับเข้าที่เดิม ก่อนที่จะมีคนเขามามุงดูกันมากกว่านี้
"จะไม่มีอะไรได้ยังไง นอนกอดกันกลมขนาดนี้" ทางด้านขุนพลแค่กลืนน้ำลายลงคอยังรู้สึกยาก ตอนนี้สมองของเขามึนไปหมดคิดอะไรไม่ออกเลย
".........." ตะวันก้มหน้าลง ไม่รู้จะพูดอะไร ต่างคนต่างเมาแล้วก็หลับไป ส่วนเรื่องกอดเธอไม่แน่ใจ แต่มากกว่านี้ไม่มีแน่นอน
"ไงมึง ไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยเหรอ ลงมา!" เฮียผาฉุนหนัก เขากระชากคอเสื้อของขุนพลให้ลงมาจากรถ หวังจะสั่งสอนสักทีสองที
"ผมไม่มีอะไรจะพูด"
"ตะวันลงมา" เฮียสิงห์ดึงน้องสาวลงมาจากรถคันที่นั่งอยู่เช่นกัน ตอนนี้บริเวณรถเต็มไปด้วยผู้คนที่พากันเดินเข้ามาดู แต่ก็เป็นคนสนิททั้งนั้นไม่มีคนอื่น
"เฮีย...ค่อยๆพูดกันก็ได้ เมื่อคืนต่างคนต่างเมาอาจจะไม่ได้มีอะไรมากกว่าที่เห็นก็ได้" เฮียกล้าใช้คำว่าอาจจะ เนื่องจากสภาพที่เห็นทั้งสองคนนอนอยู่ด้วยกันจึงไม่กล้าฟันธงว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ผัวะ! ผัวะ!" เฮียผาปล่อยหมัดทันทีไปที่ใบหน้าของขุนพลสองทีเต็มแรง จนขุนพลเซและล้มลงไปนั่งอยู่กับพื้น ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะสู้กลับแต่อย่างใด
"เฮียๆใจเย็นก่อน" เฮียกล้ารีบรั้งตัวเฮียผาออกไม่ให้เข้าไปซ้ำ ส่วนตะวันเมื่อเห็นขุนพลโดนเฮียผาต่อย เธอจึงรีบวิ่งเข้ามาประคองให้ขุนพลรีบลุกขึ้นยืน
"ไอ้กล้ามึงถอยไป วันนี้กูจะเอาเลือดหัวมันออก"
"ไม่นะเฮีย ไม่มีอะไรจริงๆหนูสาบานได้" ตะวันรีบพูดช่วยขุนพลอีกครั้ง ในขณะที่เจ้าตัวยืนเงียบ ริมฝีปากได้เลือด
"เฮีย...มีเรื่องอะไรกันคะ" ในขณะนี้เองนาราเจ้าสาวหมาดๆได้ยินเสียงเอะอะของผู้เป็นสามี เธอจึงรีบเดินเร็วๆเข้ามาดู
"ไอ้พลมึงกลับบ้านไปก่อนป่ะ" เป็นเสียงของเฮียกล้าบอกให้เพื่อนกลับบ้านไปก่อน ขุนพลจึงเดินไปเปิดประตูทางด้านคนขับเตรียมที่จะขึ้นไปนั่ง
"เฮียพล!" ตะวันร้องเรียกขุนพลเสียงดัง เขาจึงหันกลับมามองหน้าเธออีกครั้ง
"หนูขอโทษ" ตะวันคิดว่าตัวเองเป็นคนทำให้เรื่องวุ่นวายนี้เกิดขึ้น ถ้าเมื่อคืนเธอไม่ขึ้นมานั่งบนรถกับเขา ขุนพลก็คงไม่ต้องมาเจ็บตัวแบบนี้
"เราไม่ผิดหรอก เฮียผิดเอง" ขุนพลพูดแค่นี้ จากนั้นเขาก็ขึ้นรถแล้วขับออกไป ตอนนี้เจ้าถิ่นกำลังมีอารมณ์ ขืนอยู่ต่อไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร เขาจึงขับรถกลับบ้านไปอาบน้ำอาบท่าก่อน จะเอายังไงเดี๋ยวค่อยว่ากันใหม่
#ขุนพล
สวัสดีครับ ผมขุนพล ผมมีอาชีพหลักคือทำรีสอร์ต ผมอยู่กับแม่และหลานชายหนึ่งคน ในบริเวณบ้านที่ผมอยู่มีบ้านสองหลัง มีบ้านแม่กับบ้านผม แม่ของผมชื่อประนอม อยู่กับหลานชายชื่อไอ้หยก ไอ้หยกมีอายุ 17 ปี กำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย เป็นลูกของพี่ชาย ส่วนพี่ชายของผมไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ กับภรรยาใหม่ พ่อกับแม่ของหยกแยกทางกันตั้งแต่หยกตัวเล็กๆ ผมกับแม่จึงเอาหยกมาเลี้ยงไว้เอง
ส่วนแม่ของผมท่านมีอาชีพทำขนมขาย ส่งตามร้านกาแฟและร้านสะดวกซื้อทั่วๆไป