๓ ตุ๊กตาอารมณ์ (๓)
“เป็นบ้าไปแล้วเหรอ!” ตะโกนบอกแล้วพยายามผลักเขาให้ห่าง แต่ชายหนุ่มกลับยืนนิ่งไม่ไหวติง จับข้อมือเล็กทั้งสองข้างแล้วดึงเธอให้เข้ามาใกล้ตนมากกว่าเดิม ดวงตากลมเบิกกว้างตกใจกับการกระทำนั้น
“ใช่ ฉันบ้าไปแล้ว บ้าเพราะผู้หญิงหลายใจมักมากที่เข้ามาทำร้ายครอบครัวคนอื่น! ผู้ชายบนโลกไม่มีแล้วหรือไงถึงมานอนกับคนมีเจ้าของแถมยังแก่คราวพ่อ” คำกล่าวโทษนั้นเธอก็จนใจจะปฏิเสธ บอกหลายครั้งแต่เขาก็ยังไม่เชื่อสักที
“แบบนั้นไม่สนุกหรอก มาลองกับฉันดีกว่า” ส่ายศีรษะอย่างรวดเร็ว พยายามสะบัดมือให้หลุดแล้วถอยห่าง ทว่าไม่อาจหลีกหนีจากคนตรงหน้าได้ เขาตรึงหล่อนไว้ที่เดิมพลางแสยะยิ้มอย่างน่าเกลียด แววตาพราวระยับสร้างความหวาดผวาแก่คนมองเป็นอย่างมาก
“คุณ คุณจะทำอะไรน่ะ” ถึงพอจะเดาได้ว่าความต้องการของอีกฝ่ายคืออะไร แต่กลับเลือกจะถามราวคนไร้ความคิด เสียงหวานสั่นไหวแทบจะร้องไห้อยู่รอมร่อ เธอไม่น่าสะเพร่าเปิดประตูเพราะคิดว่าเป็นแม่บ้านนำผลไม้มาให้เหมือนทุกวันเลย
คราวนี้จะทำอย่างไรล่ะ ตนแย่แน่แล้ว...
“ทำไมล่ะ แค่จะเล่นสนุกนิดหน่อยเอง”
“อย่าทำอะไรบ้าๆ นะคุณพสุ!” เบี่ยงหน้าหลบเมื่อเขากำลังจะจูบเธอ หัวใจเต้นรัวราวกับจะทะลุออกมานอกอก เธอพยายามหาทางหนีทีไล่ของตัวเอง คิดจะเหยียบเท้าเขาแล้วกลายเป็นว่าชายหนุ่มอุ้มร่างบางพาดบ่าในทันที พร้อมทุ่มลงบนเตียงนุ่มไม่ออมแรงเล่นเอาหล่อนถึงกับจุก
“พ่อที่รักแม่มาตลอดถึงกับนอกใจมาเอาผู้หญิงแบบเธอ ฉันก็อยากรู้ว่าคนอย่างเธอมีดีตรงไหน...ขอลองหน่อยแล้วกัน” ไม่นานเขาก็ขึ้นคร่อมทับร่างแบบบาง ตรึงแขนทั้งสองข้างของหล่อนไว้เหนือศีรษะ ปล้ำถอดเสื้อตัวโคร่งออกไปถึงเธอจะขัดขืนแต่สุดท้ายอาภรณ์ชิ้นนั้นก็หลุดออก เปิดเปลือยท่อนบนแก่สายตาคมที่มองอย่างหื่นกระหาย
“กรี๊ด ออกไปนะไอ้บ้า คุณบ้าไป...อื้อ” ไม่รอช้าก้มลงใช้ลิ้นตวัดปลายถันสีเข้มอย่างรวดเร็วจนมันเริ่มแข็งเป็นไต เขาใช้ปากกัดจนเธอร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บ แต่ไม่นานเสียงนั้นก็หายไปเมื่อพสุโน้มใบหน้ามาปิดปากด้วยจุมพิตกักขฬะ ไม่มีความอ่อนโยนหรือนิ่มนวลสักนิด
เขาดูดกลืนปากจิ้มลิ้มและใช้ฟันขบริมฝีปากล่างของหล่อน ก่อนจะกัดจนมันแตกมีกลิ่นเลือดกระจายทั่วโพรงปาก แม้หล่อนจะพยายามดิ้นให้หลุดพ้นมากเท่าไหร่ หรืออยากร้องอ้อนวอนมากเพียงไหน กลับเป็นการเปิดโอกาสให้ชายหนุ่มได้เข้ามาสำรวจอย่างหยามใจ
แขนเรียวยังคงถูกตรึงไว้เหนือศีรษะมน ขาทั้งสองข้างก็ถูกเขาใช้เข่ากดทับเอาไว้ เธอไม่อาจหลุดพ้นได้เลย มีเพียงน้ำตาที่บ่งบอกถึงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
“โอ๊ย!” ใช้จังหวะที่เขากำลังกวาดลิ้นทั่วโพรงปากตน กัดลิ้นของเขาจนชายหนุ่มร้องเสียงหลง เผลอปล่อยหล่อนเป็นอิสระ กุลจิราจึงรีบลุกแล้วหมายจะวิ่งไปขังตัวเองในห้องน้ำ แต่ก็ช้าเกินไปเพราะพสุสามารถคว้าเอวบางไว้ได้ ทุ่มเธอลงบนเตียงเช่นเดิม
“ฉันจะทำให้เธอเจ็บ เหมือนกับที่เธอทำลายครอบครัวของฉัน!” ประกาศิตนั้นทำให้คนตัวเล็กรู้แล้วว่าหล่อนไม่อาจหนีพ้นได้ ไม่นานเขาก็สำเร็จโทษแก่นักโทษที่นอนน้ำตาอาบแก้ม แม้จะมีความสงสัยอยู่บ้างกับความคับแคบของช่องสีหวานแต่ก็ปัดความรู้สึกนั้นออกไป
เล่นสนุกกับเรือนร่างของเธอจนพอใจ ฝากรอยเอาไว้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ หากมีคนมาใช้เรือนร่างนี้ต่อได้รู้ว่าก่อนหน้านี้หล่อนโดนอะไรมาบ้าง
เขาทำทุกอย่างเพื่อความสะใจ ไม่คิดถึงคนที่นอนซมบนเตียงร้องไห้ปริ่มขาดใจเลยสักนิด เมื่อธุระเสร็จก็ออกจากห้องกลับไปพักผ่อน ขณะที่คนโดนกระทำนอนคุดคู้กอดตัวเองอยู่อย่างนั้น พร่ำพรรณนาถึงความไม่ยุติธรรมกับสิ่งที่ตนต้องเผชิญ
ตราบาปที่พสุฝากเอาไว้...เธอจะสามารถลืมมันได้หรือเปล่า
ถึงเวลาจ่ายตลาดแต่คนที่รับผิดชอบยังไม่ลงมาจากบนห้อง แม่บ้านจึงขึ้นมาตามด้วยสีหน้าไม่ใคร่จะสบอารมณ์ หล่อนถึงได้รีบอาบน้ำแต่งตัวไปทำหน้าที่ของตน จ่ายตลาดและเก็บบิลทั้งหมดเอาไว้เพื่อจะได้ทำบัญชีส่งคุณภุชงค์
กุลจิราพยายามทำตัวเข้มแข็งทั้งที่เมื่อคืนถูกล่วงล้ำร่างกายหลายรอบ สวมเสื้อผ้าแขนยาวเพื่อปกปิดร่องรอยสวาท แต่กลายเป็นจุดสนใจให้คนที่ร่วมโต๊ะอาหารถามไถ่ด้วยความสงสัย
“ทำไมวันนี้ใส่เสื้อแขนยาวนักล่ะ หนาวเหรอ” คำถามนั้นสร้างความสนใจแก่คนที่เพิ่งลงมาชั้นล่าง เป็นคืนแรกที่เขานอนอย่างสบายใจหลับใหลด้วยความสุข หลังจากเผชิญความทุกมาหลายสัปดาห์
“ค่ะ” ตอบเสียงเบาแล้วก้มหน้ากินข้าว เธอพยายามปกปิดแววตาร้าวรานจากการถูกคนเลวทำร้ายจิตใจและร่างกาย ปัดความคิดเหล่านั้นออกไป คิดเสียว่าทำทานให้สุนัขหิวโซตัวหนึ่ง ถึงจะโกรธแค้นเขาเท่าไหร่ก็กล้ำกลืนความรู้สึกทั้งหมด
วันหน้าค่อยแก้แค้นก็ไม่สาย...เธอจะทำให้เขากระอักเลือดเลยคอยดูสิ
“หือ น้องสาวของพี่หนาวเหรอจ๊ะ” คนที่เพิ่งเข้ามาในห้องอาหารกลับตรงมาจับไหล่บางเอาไว้ แล้วลูบไล้อย่างอาจหาญต่อหน้าบิดา จนท่านต้องปรามลูกชายตนเอง
“พสุ! อย่ารุ่มร่าม”
“ทำไมล่ะครับ คุณพ่อบอกว่าเธอเป็นน้องสาวของผมไม่ใช่เหรอ พี่ชายกอดน้องสาวจะเป็นไรไป อย่าใจแคบสิ” นอกจากไม่เชื่อฟังแล้วยังกอดเธอให้ประมุขของบ้านได้ดูอีกต่างหาก เห็นอย่างนั้นคุณภุชงค์ก็ลมแทบจับ
“แบ่งๆ กันใช้บ้าง”
“พสุ!” พ่อลูกเริ่มมึนตึงใส่กันจนหล่อนกลัวจะเกิดเรื่อง ถึงได้รีบลุกอย่างรวดเร็วพร้อมบอกเสียงดัง หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ไม่อยากคิดถึงเรื่องเมื่อคืนที่สร้างความอัปยศอดสูให้ตนเอง
“คุณท่านคะ! หนูขอไปมหา’ลัยก่อนนะคะ ได้ ได้เวลาแล้ว” คว้ากระเป๋ามาสะพายแล้วมองหน้าท่าน ซึ่งคนอายุมากก็พยักหน้า รู้ว่าหากหล่อนอยู่นานกว่านี้คงได้โดนพสุเล่นงานแน่
“ไปเถอะ”
“เดี๋ยวพี่ไปส่งนะจ๊ะ พี่จะออกไปข้างนอกพอดี...ขอไปส่งน้องสาวนะครับคุณพ่อ” แต่ร่างสูงก็ไม่ปล่อยโอกาสหลุดมือ รีบคว้ามือบางมากุมเอาไว้ก่อนจะจูงกึ่งลากให้เธอเดินตาม ถึงเธอจะขืนตัวเอาไว้สุดกำลังก็ไม่อาจต้านทานได้
