ตอนที่ 14 เสแสร้ง
และหลังจากนั้น เขาก็เหาะหายตัวไปอีก ครั้ง บินเชี่ยวชาญเหมือนกับนกนางแอ่น หาย ไปมาอย่างไร้ร่องรอย
มีคู่ต่อสู้ที่ฝีมือน่ากลัวขนาดนั้นแอบมองอยู่ ในตำหนักของตน ช่างเป็นเรื่องที่ยากที่เฉินเฮ่าจะสามารถข่มตาหลับลงได้
แววตาของเหลียงซีนที่มีความเบิกบานใจ เกิดขึ้นเมื่อครู่ลงมองดูแล้วยังมีคนที่มี อุดมการณ์เช่นเดียวกับนาง วันข้างหน้านางไม่ กลัวที่จะต้องตัวคนเดียวไม่มีวิธีรับมือกับเฉินเฮ่าแล้ว
เพลงประกอบเล็กๆในใจ ก็ผ่านพ้นไปเช่นนี้ นางก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มองการกวัดแกว่ง มือในคัมภีร์ต่อไป มองไปมองมา ก็ไม่รู้เลยว่าตนเองนั้นหลับไปเมื่อใด
รอเมื่อนางตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็คือถูกคน
สาดน้ำปลุกให้ตื่น เสียงสาดน้ำโครมซ่าที่ดังขึ้น ทำให้นางตกใจลุกขึ้นนั่งตื่นขึ้นจากฝัน
นี่มันเกิดเรื่องอะไรกันขึ้น
นางขยี้ตาไปมา ภาพที่ดูเลือนรางนั้น สามารถมองเห็นรูปร่างของสิ่งมีชีวิตี่ยืนอยู่ด้าน หน้าของนางได้ สวมเสื้อยาวสีเหลืองอ่อน มวย ผมที่ถูกพับเก็บอย่างเป็นระเบียบ ทั่วทั้งใบหน้า ที่ขาวใสนั้นดูดึงดูดใจ
นี่ไม่ใช่เหลียงอิน ลูกพี่ลูกน้องสุดที่รักของนางหรือ
“ที่แท้ก็น้องอินนั่นเอง มีเวลามา เยี่ยมเยียนข้าที่คุกใต้ดินแต่เช้า ลำบาก ร่างกายที่อ่อนแอของเจ้าเสียจริงๆ ได้ยินมาว่า น้องอินถูกคนทำให้มีมลทิน ทำไมยังกล้าที่จะออกมาด้านนอกล่ะ”
เหลียงซีนไม่ได้เกรงใจนาง คำพูดแค่ไม่กี่ คำทำให้แก้มของเหลียงอินแดงเถือกไปทั่ว
ใบหน้าเหมือนกับกุ้งตัวใหญ่ที่นึ่งจนสุกเกินไป
คนในสมัยโบราณช่างขี้อายเสียจริง เพิ่ง เอ่ยพูดเพียงไม่กี่ประโยค ก็ทำให้นางเขินอาย เช่นนี้ หากพูดอีกครั้งอย่างตรงไปตรงมาสัก หน่อย ก็คงอดที่จะหาสถานที่แอบมุดเข้าไปไม่ได้
เพียงเสี่ยววินาทีเสียง “เพี๊ยะ” ดังขึ้นเมื่อมี ฝ่ามือหนึ่งเหวี่ยงเข้าที่บนใบหน้าของเหลียงซีน ใบหน้าข้างหนึ่งของนางบวมแดงขึ้นมาทันที
นางจึงเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว มองเห็น เพียงหญิงชราที่แต่งตัวเป็นสาวใช้ยืนอยู่ด้านหน้าของนาง คนผู้นี้ก็คือหวางโผ เป็นคนที่ ติดตามเหลียงอินมาตอนออกเรือน
เดิมนางคือสาวใช้ที่ติดตามแม่ของเหลียง อิน เมื่อหลังจากที่เหลียงอินแต่งงานออกมา นางจึงติดตามมายังตำหนักอ๋องเซงแห่งนี้
“ไม่ได้รับการสั่งสอนเช่นเจ้า ใครช่างให้ ความกล้าแก่เจ้าพูดอวดดีออกมาต่อหน้าพระ ชายารอง วันนี้ข้าน้อมรับคำสั่งของท่านอ๋อง มาที่คุกใต้ดินนี้เพื่อสั่งสอนเจ้าโดยเฉพาะ"
หวางโผเอ่ยเสร็จแล้วเงยขึ้น มองไปที่ ใบหน้าด้านซ้ายของเหลียงซีนแล้วเหวี่ยงมือลง ไปอีกครั้ง หากแต่มือของนางยังไม่ทันที่จะ เหวี่ยงลงมาบนแก้มก็ถูกเหลียงซีนรับมือนั้นไว้ เสียก่อน
หนึ่งฝ่ามือ ก็มากเกินไปแล้วสำหรับนาง ไม่สามารถให้หญิงชราตบตนเองอีกครั้งเป็น แน่
“เจ้าเป็นใคร ถึงอย่างไรข้าก็คือพระชายา เอก ต้องให้เจ้าสั่งสอนข้าอย่างงั้นหรือ หญิง แก่หนังเหนียว"เหลียงซีนพูดจบ ยกเท้าขึ้นถีบ ออกไป
เมื่อวานตอนเย็นฝึกฝนเคล็ดลับ วันนี้ช่าง
เหมาะดีเหลือเกินที่ได้นำมาทดสอบกับบ่าวชรา ผู้นี้ ถือว่าไม่เสียเวลาหนึ่งคืนที่เรียนไปโดย เปล่าประโยชน์
หลังจากเตะเท้าออกไปข้างหนึ่ง เหลียง ซีนยังส่งหมัดออกไป แม้ว่าแรงอาจจะยังไม่เพียงพอ แต่ว่าเรียนมาอย่างมีแบบแผน หนึ่งหมัดที่ออกไป บ่าวที่เป็นหญิงชราจึงต้านไม่ ไหว จึงล้มลงไปบนพื้นทั้งตัว
มองนางร้องครวญครางอย่างทุกข์ทรมาน แล้ว ในใจของเหลียงซีนนั้นภูมิใจอย่างยิ่ง อย่างที่คิดไว้ว่าเรียนศิลปะการต่อสู่อย่างไรก็มี ประโยชน์
“พี่ซีน พี่ลงมือกับหวางโผอย่างนั้นได้ อย่างไร พี่สาวบ้าไปแล้ว พวกเจ้ายังไม่รีบไป จับตัวพี่ซีนไว้อีก"เหลียงอินที่มองเห็นสภาพนั้น ก็ร้องตะโกนขึ้นมาเสียงดังทันที
พวกสาวใช้ข้างกายทั้งด้านซ้ายและขวาก็ เข้าไปจับตัวของเหลียงซีน แต่ว่ากลับถูก
นางใช้หมัดแบบเดียวกันนั้นชกออกมา ทั้งหมด จึงล้มกลิ้งลงไปที่พื้น
สุดท้าย เหลียงซีนจึงมาถึงข้างกายของเหลียงอิน จับที่ปกเสื้อของเหลียงอินขึ้นมากำ ในมือแน่น “เสแสร้งจริงๆ เชิญเจ้าแสร้งต่อไป เจ้ามี ฝีมือก็เข้ามาตบตีกับข้าด้วยตนเอง มิฉะนั้นข้า ก็ไม่เกรงใจเจ้าแล้ว”
นางใช้เล็บที่งามยาวเล็งไปที่ใบหน้าที่ขาว ใสของเหลียงอิน จากนี้เป็นต้นไป นางคิด ดีแล้วว่า ไม่สามารถให้ผู้ใดมากดขี่อีกแล้ว
ตอนนี้ เหลียงอินคือเนื้อที่ถูกวางไว้บนเขียง
“เพียงข้ากรีดเล็บนี้ลงไป แก้มที่ขาวใสดูมี น้ำมีนวลของเจ้าก็จะสามารถเปลี่ยนไปเป็น ลายของแมว ไม่มีใบหน้าเช่นนี้ ข้าจะคอยดูว่า เจ้าจะชักจูงเฉินเฮ่าได้อย่างไร”
เล็บของเหลียงซีนยังหยุดอยู่ที่บนใบหน้า
ของเหลียงอิน สามารถเห็นได้ว่า นางกำลัง สั่นเทาไม่หยุด
เพียงเชื่อได้ว่าเป็นสตรี ก็ล้วนที่จะสนใจ ความงามของตนทั้งสิ้น ไหนยังจะเป็นสตรีที่ อาศัยความงดงามของใบหน้าจนเองเพื่อความ ก้าวหน้าสุขสบายเช่นนางนี้
“เจ้าคิดจะทำเช่นไร"เหลียงอินสูดหายใจ เข้าไป พยายามให้ตนเองนั้นสงบลงเท่าที่จะ ทำได้
แต่ว่าขนตาเพียงสั่นไหวเบาๆ กลับทำให้ นางขายหน้าแล้ว
“วันนั้น เจ้าพูดออกมาว่าเจ้าถูกข่มเหง เป็นเรื่องโกหกใช่หรือไม่ บ่าวผู้นั้นเป็นคนของ ใคร เจ้าควรรู่อยู่แก่ใจ ทำไมจะต้องใส่ร้ายข้า "เหลียงซีนเอ่ยถามขึ้น
“พี่ซีนตอนนี้พูดเรื่องนี้ขึ้นมายังมีความ หมายอีกหรือเจ้าคะ บ่าวผู้นั้นคือคนที่พี่ซื้อมา
ตั้งใจให้มาทำร้ายข้า คิดไม่ถึงว่าตอนนี้กลับ ย้อนมาให้ร้ายน้องสาว...”
เหลียงอินยิ่งพูดก็ยิ่งมีน้ำตาไหลออกมา มากขึ้น
“เจ้ายังจะหลอกว่าโง่ต่อหน้าข้า ใบหน้านี้ ของเจ้าไม่ต้องการมันแล้วใช่หรือไม่"เหลียงซีนเอ่ยขึ้นอย่างคุกคามข่มขู่นางออกไป
คิดไม่ถึงว่า เหลียงอินจะไม่สนใจคำพูดนี้ แต่น้ำตาไหลกลับออกมาไม่หยุด
ใครจะรู้ว่า ด้านหลังกลับมีน้ำเสียงที่แสน เย็นชาดังขึ้นมา “เหลียงซีน ข้าดูแล้วว่าเจ้าก็ ไม่ต้องการใบหน้านี้ของเจ้าแล้วเช่นกัน”
เหลียงซีนหันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว ก็ มองเห็นเฉินเฮ่าที่ยืนประชิดอยู่ด้านหน้าของ นาง เหมือนกับร่างที่ถูกสาปให้เป็นหิน
เขามาถึงแล้วนี่เอง นางว่าแล้ว เหลียง
อินจึงรีบเปลี่ยนเป็นดูอ่อนแอทันทีเช่นนี้
สองคนนี้เป็นคู่ที่สวรรค์สร้างมาให้คู่กัน จริงอย่างที่คิดไว้ เหลียงอินแกล้งเฉลียวฉลาด เฉินเฮ่านั้นก็โง่เขลา
หรือว่าเขามองไม่ออกเชียวหรือ นางทำได้ เพียงสืบหาความจริงของเรื่องราวในวันนั้น ไม่ ได้คิดที่จะทําลายความงดงามของเหลียงอิน จริงๆ สักหน่อย
นางยังไม่ทันที่จะกระทําสิ่งใดออกมา ข้อมือก็ถูกเฉินฮ่าวกุมอย่างโหดเหี้ยม คล้ายกับถูกหักลงอย่างนั้น
เจ็บ เจ็บปวดอย่างยิ่ง
..