บทที่4 ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ
“ข้าบอกแล้วไง ข้าไม่สนว่าเขาจะโกรธหรือไม่โกรธข้า ขอแค่เขาอย่ามาหาข้าอีกก็พอ รบกวนเจ้าช่วยดูเขาด้วย ชาตินี้ทั้งชาติข้าไม่อยากเห็นน้ำหน้าของเขาอีกแล้ว”
เซ่เชียนฮวนอยากไล่ซูอวี้เอ๋อร์ออกไปไวๆ นางมวนท้อง จนอยากอ้วกทุกอย่างออกมาอย่างทนไม่ไหว
แต่นางไม่รู้เลยว่า ชายหนุ่มเปรียบเสมือนฝันร้ายคนนั้นเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังนางแล้ว!
ซูอวี้เอ๋อร์เงยหน้าขึ้น แสร้งทำเป็นเพิ่งเห็นเซียวเย่หลัน ลุกขึ้นโค้งคำนับอย่างลนลาน “ท่านอ๋อง”
“???”
เซ่เชียนฮวนดีดตัวผึงราวกับสปริง หันไปมองด้านหลังด้วยสีหน้าราวกับเห็นผี
ไอ้หมาบ้านี่เดินไม่มีเสียงเลยหรือไง?
แปลว่าต้องเคยทำอะไรลับๆล่อๆมาเยอะมากแน่ๆ เวลาเดินถึงได้เหมือนโจรย่องเบาแบบนี้
เซียวเย่หลันเม้มปากจนกลายเป็นเส้นตรง มองมายังเซ่เชียนฮวนอย่างเย็นชา แล้วเอ่ยถามว่า “เมื่อกี้เจ้าพูดอะไรนะ”
“ที่แท้ท่านอ๋องก็หูไม่ดีนี่เอง งั้นข้าจะพูดอีกครั้งก็แล้วกัน ต่อไปนี้กรุณาอย่ามาโผล่หน้าให้เกะกะลูกตาข้าอีก” เซ่เชียนฮวนกระตุกยิ้มมุมปากยิ้มเยาะเย้ยออกมา
เซียวเล่เหลัน “...........”
สตรีปัญญาอ่อนผู้นี้ เหมือนจะเปลี่ยนไปอย่างไรอย่างนั้น
ถ้าเป็นเมื่อก่อนนางแทบจะไม่พูดอะไรแบบนี้ออกมาด้วยซ้ำ วันๆเอาแต่ตามติดเขาอย่างกับอะไรดี สะบัดอย่างไรก็ไม่หลุด
หรือว่านางจะคิดได้แล้วว่าใช้วิธีนั้นคงไม่ได้ใจชายหนุ่ม ถึงได้หันไปใช้ไม้อื่นโดยการทำทีเป็นไม่สนใจเขาเพื่อดึงดูดให้เขาสนใจ?
โง่เง่าสิ้นดี!
“ตอนนี้ได้ยินชัดหรือยัง? รบกวนไสหัวไปพร้อมๆกับคนในใจของเจ้าได้ละ ขอบคุณ”
น้ำเสียงของเซ่เชียนฮวนเต็มไปด้วยความรำคาญ นางยื่นมือออกไปค้ำโต๊ะ พร้อมกับหันหน้าไปอีกทางแล้วส่งเสียงกระแอมไอออกมาเบาๆ
ทว่า เซียวเย่หลันกลับเอื้อมมือออกมาบีบคางของนางเอาไว้
นางเชิดคางนางขึ้น ให้นางสบตากับเขา
“เซ่เชียนฮวน เจ้าเก่งขึ้นนี่”
เมื่อดวงแสงอาทิตย์ส่องแสง ใบหน้าหล่อเหลาสมส่วนของชายหนุ่มก็สะท้อนเข้ามาในม่านตาของเซ่เชียนฮวน เปรียบเทียบกับท่าทางป่าเถื่อนภายใต้ค่ำคืนอันมืดมิดเมื่อคืนแล้ว เขาในเวลานี้ดูคมเข้มและเย็นชา ดุจดั่งเทพสวรรค์ผู้น่าเกรงขาม
“ปล่อยข้า….”
เซ่เชียนฮวนพูดพร้อมกับดิ้น
แต่นางเอ่ยพูดได้ไม่ทันไร ทันใดนั้นบริเวณช่วงคอก็เกิดปั่นป่วน
ไม่ได้การแล้ว
ความรู้สึกไม่สบายตัวรุนแรงขึ้น จนแทบจะทนเอาไว้ไม่ไหว
เซียวเย่หลันคิดว่านางกำลังเล่นตัว จึงก้มมองลงต่ำ “อวี้เอ๋อร์อุตส่าห์หวังดีมาเยี่ยมเจ้า แต่เจ้ากลับทำหน้าไม่รับแขกใส่นาง เจ้านี่ยังมียางอายอยู่ไหม?”
“ข้าไม่มียางอาย? ฮ่าๆ งั้นเจ้าก็ไม่ต่างอะไรกับหมาหรอก อ้วก”
เซ่เชียนฮวนทนไม่ไหวอีกต่อไป
นางจับแขนของเซียวเย่หลันเอาไว้แน่น คอเริ่มแข็ง จากนั้นก็อ้วกออกมาทันที
จากมุมของนาง แน่นอนว่าอ้วกโดนตัวของเซียวเย่หลันเต็มๆ
คนอื่นๆที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยต่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป
ใบหน้าหล่อเหลาของเซียวเย่หลันย่ำแย่ราวกับมีฝุ่นเกราะ นัยน์ตาพลันทอแววอาฆาตเข้มข้น
เขาจำต้องปล่อยคางของหญิงสาวออก จากนั้นก็ก้มลงมองเศษอ้วกบนร่างกายของตน กัดฟันกรอดแล้วเอ่ยพูดว่า “เซ่ เชียน ฮวน!”
“อุ้ยตาย ท่านอ๋อง ไม่เป็นอะไรนะเพคะ” ซูอวี้เอ๋อร์วิ่งเข้ามาอย่างลนลานทำตัวไม่ถูก พร้อมกับหยิบผ้าขึ้นมาบรรจงเช็ดให้เซียวเย่หลัน
นางหันไปขึ้นเสียงใส่ชิงถิงที่มัวแต่ยืนนิ่งอึ้ง “มัวยืนบื้ออะไรอยู่ ยังไม่รีบไปตักน้ำมาอีก?!”
“เจ้าค่ะ!”
ชิงถิงเรียกคืนสติกลับมาได้ ก็ออกไปตักน้ำอย่างกล้าๆกลัวๆ
เซียวเย่หลันผลักซูอวี้เอ๋อร์ที่กำลังเช็ดตัวให้ออกไป จากนั้นก็ก้าวยาวๆ เข้าไปดึงคอเสื้อของเซ่เชียนฮวน แล้วออกแรงบีบคอของนาง ตะคอกเสียงต่ำว่า “เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม!”
“แค่กๆๆ”
เซ่เชียนฮวนอ้วกออกมาเสร็จก็หมดเรี่ยวแรง จึงปล่อยให้ชายหนุ่มลงไม้ลงมือกับตนเอง บีบคอจนนางจนเสียงโอกอากออกมา
นี่นางกำลังจะตายหรือ