บทที่ 5 บ่าวทรยศเจ้านาย
จู่ๆเซ่เชียนฮวนก็รู้สึกหดหู่
ดีเหมือนกัน หากตายไปทั้งอย่างนี้ ไม่แน่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง นางอาจจะได้กลับไปที่ห้องแล็บอันคุ้นเคยก็เป็นได้
ถึงตอนนั้นนางจะกินบะหมี่หลายๆกล่องให้หนำใจเลย
ไม่ต้องมารองรับอารมณ์ของผู้ชายคนนี้อีก
เซ่เชียนฮวนหลับตาลง กระนั้นสัญชาตญาณเอาตัวรอดของนางก็ยังทำให้นางเอื้อมมือออกไปจับมือของเซียวเย่หลันเอาไว้
“ท่านอ๋อง หากทำเช่นนี้ หวางเฟยจะสิ้นลมเอาได้นะ” ซูอวี้เอ๋อร์รออยู่เงียบๆพักใหญ่ เมื่อเห็นว่าเซ่เชียนฮวนทรมานถึงขีดสุด ถึงได้ส่งเสียงปรามเบาๆ
เซียวเย่หลันจ้องมองใบหน้าซีดขาวของเซ่เชียนฮวนแน่นิ่ง สุดท้ายก็ค่อยๆคลายนิ้วมือออกทีละนิ้ว
เขาอยากกำจัดสตรีสกปรกผู้นี้ทิ้งมันเสียเดี๋ยวนี้
แต่ว่า จวนอานติ้งโหวกับราชวงศ์มีสายใยต่อกัน หากบุตรสาวในตระกูลของพวกเขามาถูกฆ่าตายในจวนจ้านอ๋อง ฮ่องเต้คงตรวจสอบเรื่องนี้จนถึงที่สุดแน่
“เห็นแก่อวี้เอ๋อร์ วันนี้ข้าจะปล่อยเจ้าไปก็แล้วกัน!”
เซียวเย่หลันยังไม่หายเคือง จึงผลักเซ่เชียนฮวนออกไปอย่างแรง จ้องมองใบหน้าอันเจ็บปวดของนางอย่างเย็นชา ลำคอขาวผ่องที่มีรอยนิ้วมือประทับ เซล้มลงบนพื้นราวกับถูกลมพัดปลิว
ท่าทางน่าสงสารนั้นกลับไม่สามารถทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสงสารนางเลยสักนิด
เซียวเย่หลันส่งเสียงหึออกมา จากนั้นก็คว้าจับมือซูอวี้เอ๋อร์ เตรียมที่จะพายอดดวงใจของเขาออกไปจากสถานที่อันสกปรกแห่งนี้
หลังจากที่เขาก้าวผ่านธรณีประตู ก็ชะงักฝีเท้า แล้วหันกลับไปมองหญิงสาวที่นอนหมดแรงบนพื้นด้วยแววตาเยือกเย็นพร้อมคิ้วที่ขมวดมุ่น “จำเอาไว้ หากองครักษ์ของข้าเป็นอะไรไป ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!”
เซ่เชียนฮวนไอออกมาอย่างต่อเนื่อง ม่านตาสะท้อนแผ่นหลังของเซียวเย่หลันและซูอวี้เอ๋อร์ที่เดินออกไปไกลๆเรื่อยๆ
นางกัดฟันกรอด ไม่ยอมส่งเสียงใดๆออกมา อย่างน้อยจะให้คู่ชายหญิงชาติหมานั่นได้ยินเสียงอันเจ็บปวดของนาง จนกลายเป็นตัวตลกของพวกเขาในวันข้างหน้าไม่ได้เด็ดขาด!
ทัังๆที่ยังไม่ได้ทำอะไร ในเวลาไม่ถึงสองวัน ต้องมาถูกทรมานปางตายในจวนแห่งนี้
ใบหน้าเป็นมิตรของคนสนิทค่อยๆปรากฏขึ้นมาในหัวทีละคน ทำให้เซ่เชียนฮวนคิดถึง และโศกเศร้า เมื่อครู่ตอนที่ถูกเซียวเย่หลันบีบคอ น้ำตาของนางไม่ไหลออกมาสักหยด แต่ในเวลานี้กรอบตาเริ่มแดงอย่างห้ามไม่ได้
ใช่
นางจะตายไม่ได้
ต้องมีชีวิตที่ดีต่อไป อดทนต่อไป ถึงจะหาทางกลับบ้านได้!
“น้ำ…….”
เซ่เชียนฮวนเอ่ยพูดด้วยเสียงแหบแห้ง
นางพยายามเงยหน้าขึ้น แต่กลับพบว่าชิงถิงไม่สนใจนางเลย รีบถือถังน้ำตามออกไป ปากก็ส่งเสียงว่า “เดี๋ยวบ่าวไปส่งท่านอ๋องกับแม่นางกู้เองเจ้าค่ะ!”
เหอะ บ่าวทรยศ
เซ่เชียนฮวนดูออก ว่าบ่าวรับใช้คนนี้ถูกซูอวี้เอ๋อร์ซื้อตัวไปแล้ว จึงไม่ค่อยอยากทำตามคำสั่งนางอย่างจริงๆจริงๆเท่าไหร่
หากนางเดาไม่ผิดล่ะก็ เหตุผลที่ชิงถิงให้เจ้าของร่างเดิมกินยาเกินขนาดเข้าไป ความเป็นไปได้เก้าส่วนเก้ามาจากแรงยุยงของซูอวี้เอ๋อร์ มิเช่นนั้นบ่าวรับใช้ที่เติบโตมาในครอบครัวที่มีพ่อมีแม่ จะไปรู้จักยาปลุกกำหนัดได้อย่างไร?
มีเพียงหญิงสาวในหอนางโลมเท่านั้นแหละ ที่รู้จักอะไรพรรค์นี้
เซ่เชียนฮวนไม่คาดหวังให้ชิงถิงกลับมาดูแลตนเอง หญิงสาวคนนั้นเหม็นขี้หน้านางเสียยิ่งกว่าอะไรดี ถึงได้เห็นดีเห็นชอบกับซูอวี้เอ๋อร์ขนาดนั้น
นางทำได้เพียงอาศัยแรงของตนตะเกียกตะกายขึ้นไปบนเตียง ถอดกระโปรงที่เลอะเทอะไว้ข้างเตียง แล้วใช้ผ้าห่มที่ทั้งบางแล้วก็หยาบกร้านมาห่มร่างกายเอาไว้ช้าๆ
เซ่เชียนฮวนหลับลึกไปภายใต้ความหนาวเหน็บและความโดดเดี่ยวที่กำลังกัดกิน
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน
เมื่อท้องฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท นางถึงได้ตื่นขึ้นมา
แล้วก็เป็นอย่างที่นางคิดเอาไว้ ชิงถิงไม่ได้นำสำรับมาให้นาง และไม่ตักน้ำมาให้นางชำระร่างกาย อีกฝ่ายนั่งอยู่หน้าประตูตำหนักอย่างเบื่อหน่าย เมื่อเห็นว่านางลุกขึ้น ถึงได้ค่อยๆเดินเข้ามา
“หวางเฟย ท่านตื่นแล้วหรือ?”