บทที่ 13 ดูออก
“หวางเฟยโปรดวางใจ บ่าวจะตั้งใจทำงาน”
ชิงถิงพยายามข่มความดีใจอันบ้าคลั่งภายในใจเอาไว้ แสร้งทำทีเป็นประพฤติดี เข้าไปรับพัดในมือของจางมามามาถือเอาไว้
จางมามาเองก็อยากจะพักผ่อนสักพัก หลังจากถอนสายบัวทำความเคารพเซ่เชียนฮวนเสร็จ ก็เดินไปพักข้างๆ ในเมื่อเด็กสาวคนนั้นคือสาวใช้ของหวางเฟย นางจึงไม่เกิดข้อเคลือบแคลงใดๆ
เซ่เชียนฮวนจ้องมองหม้อยาแน่นิ่ง จากนั้นก็เอ่ยพูดอย่างเรียบนิ่งว่า “ถึงอย่างไรเย่สิ้นก็ต้องมารับโทษเพราะข้า พวกเจ้าว่าข้าจำเป็นต้องอยู่ที่นี่เพื่อต้มยาให้เขาเองดีหรือไม่”
เมื่อชิงถิงได้ยินเช่นนั้น ก็รีบเอ่ยท้วงว่า “อย่าเลยเจ้าค่ะนายหญิง ท่านเป็นถึงผู้สูงศักดิ์ จะมาต้มยาให้องครักษ์เองกับมือได้อย่างไรเจ้าคะ? งานหนักเช่นนี้ควรให้บ่าวไพร่ทำเองดีกว่า แค่ท่านนำทางบ่าวมาที่นี่ ก็ถือว่าเป็นน้ำใจอันใหญ่หลวงแล้วเจ้าค่ะ”
“จริงเจ้าค่ะ สีหน้าของหวางเฟยก็ดูไม่ค่อยดีด้วย บ่าวว่าท่านกลับไปพักผ่อนก่อนดีกว่า” จางมามาเอ่ยเสริม
“ก็ได้ เช่นนั้นพวกเจ้าก็ระวังหน่อยแล้วกัน หากต้มเสร็จแล้วให้รีบเอาไปส่งให้เย่สิ้นทันที”
เซ่เชียนฮวนพยักหน้า ไม่ได้ดึงดันจะอยู่ต่อ
ผ่านไปสองชั่วยาม
ก็เข้าสู่เวลากลางคืน คนที่อยู่ในเรือนก็เริ่มบางตาลงเรื่อยๆ จางมามาเองก็กลับเรือนไปนอนแล้ว ทำให้ชิงถิงมีโอกาสได้วางยาในที่สุด
ชิงถองมองรอบๆอย่างระมัดระวัง เมื่อแน่ใจแล้วว่ามีเพียงแค่ตนอยู่คนเดียว ถึงได้แอบหยิบถุงยาออกมา แล้วเปิดฝาหม้อออก
องครักษ์เย่เอ๋ย หากไปอยู่ยมโลกแล้วก็อย่าจองเวรจองกรรมข้าเลยนะ!
โบราณกล่าวไว้ว่าผู้ใดมิเห็นแก่ตัว ผู้นั้นสวรรค์จักลงทัณฑ์ ถ้าจะโทษใครก็โทษที่ตัวเองเกิดมาดวงซวยเสียเถอะ
ชิงถิงคิดในใจว่าหลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จ หวางเฟยจะต้องถูกขับไล่ออกจากจวนอ๋องเป็นแน่ ทีนี้นางก็จะหลุดพ้น ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขอยู่ข้างกายแม่นางซู แค่คิดก็รู้สึกดีเป็นไหนๆ
เมื่อเห็นว่าผงยาเทลงในหม้อไปจนเกือบหมดแล้ว ใบหน้าของชิงถิงก็เผยรอยยิ้มทะนงออกมา
และในตอนนี้เอง
จู่ๆก็มีเสียงตะโกนดังมาจากข้างหลังของนาง “นั่นเจ้าทำอะไร?!!”
ชิงถิงสะดุ้ง เมื่อหันกลับไป ก็เห็นนางเว่ยและมามาสองคนมาโผล่อยู่ข้างหลัง ทั้งยังถลึงตาใส่นางอย่างโมโห
มามาสองนางนั้นไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบพุ่งเข้ามารวบตัวของชิงถิงเอาไว้ พร้อมกับกดนางลงกับพื้น หนึ่งในนั้นพูดออกมาเสียงเย็นว่า “เด็กเห่อขนเช่นเจ้ากล้าดีอย่างไรมาวางยาพิษองครักษ์เย่ ไม่กลัวท่านอ๋องตัดหัวขาดหรือไง?”
ในหัวของชิงถิงอื้อไปหมด จากนั้นก็เอ่ยพูดเสียงสั่น “ข้าเปล่านะ ข้าถูกหวางเฟยส่งตัวมา”
“หุบปาก! มาถึงขนาดนี้แล้ว เจ้ายังคิดจะลากหวางเฟยเข้ามาเกี่ยวอีกหรือ? ข้าจะบอกอะไรให้นะ เมื่อครู่หวางเฟยเพิ่งมาเตือนข้า บอกว่าบุตรชายของข้าเป็นคนซื่อตรง มักจะถูกใครหลายคนเหม็นขี้หน้า ให้ระวังคนที่รอจังหวะแก้แค้น ข้าถึงได้รีบมาดูสถานการณ์ที่นี่ ไม่คิดเลยว่าหวางเฟยจะพูดถูก พวกข้าถึงได้มาเจอคนชั้นต่ำหน้าไม่อายอย่างเจ้านี่ไง!”
นางเว่ยด่าทอออกมาเสียงดัง พร้อมกับถ่มน้ำลายใส่หน้าชิงถิงอย่างแรง
ชิงถิงเบิกตากว้าง
หรือว่า…..
หวางเฟยผู้โง่เขลาคนนั้น จะดูออกมาตั้งแต่แรก??!
“พี่ว่าน รบกวนเจ้าไปเชิญหวางเฟยมาที่นี่หน่อย” นางเว่ยเอ่ยพูดกับคนที่เข้ามามุงดูเหตุการณ์
นางไม่ได้เป็นเพียงมารดาขององครักษ์เย่อย่างเดียว แต่ยังรับผิดชอบเรื่องจับจ่ายภายในจวนด้วย ค่อนข้างมีตำแหน่งในบรรดาบ่าวไพร่ เป็นรองแค่พ่อบ้านเท่านั้น คนที่ชื่อพี่ว่านได้ยินที่นางพูด ก็รีบวิ่งตรงไปที่เรือนหลันเซียงที่เซ่เชียนฮวนอาศัยอยู่
ไม่นานหลังจากนั้น เซ่เชียนฮวนก็มาถึงที่เกิดเหตุ
“ถวายบังคมหวางเฟย” นางเว่ยถอนสายบัวทำความเคารพ จากนั้นก็ชี้ไปยังชิงถิงเอ่ยพูดอย่างชิงชังว่า “สาวใช้ผู้นี้ใส่ยาพิษในหม้อยา ทั้งยังถูกพวกข้าจับได้คาหนังคาเขา หวางเฟยโปรดจัดการนางด้วยเจ้าค่ะ”