บท
ตั้งค่า

บทที่ 11 ทำตัวอ่อนแอเรียกร้องความสงสาร

ตอนที่เซียวเย่หลันเข้ามาในห้อง สิ่งแรกที่เห็นก็คือหญิงสาวที่กำลังนอนเอนกายอย่างเกียจคร้านบนตั่ง ใบหน้าไร้เครื่องสำอางแต่งแต้ม มีผ้าบางๆห่มไว้กับตัว สีหน้าซีดเซียวอิดโรย แต่กระนั้นกลับไร้ซึ่งความขลาดตัว

จู่ๆก็ทำให้เขานึกถึงแมวขาวที่นอนอาบแดดบนหลังคาในราชวังขึ้นมา

หลังจากเหม่อลอยไปในชั่ววินาที ในใจของเขาก็กลับมาร้อนรุ่มด้วยเพลิงโกรธอีกครั้ง

“เซ่เชียนฮวน เจ้ากล้าดีอย่างไร ถึงได้ไม่ทำความเคารพข้า?” เซียวเย่หลันเอ่ยพูดอย่างเยือกเย็น

เซ่เชียนฮวนเปิดเปลือกตาขึ้นมาอย่างเชื่องช้า จากนั้นก็เอ่ยถากถางว่า “ข้าบาดเจ็บ ไม่สะดวกถวายบังคม ท่านอ๋องโปรดเห็นใจ”

กล่าวจบ นางก็ก้มหน้ามุดเข้าไปในหว่างแขนของตนเอง ต้องการพักผ่อนต่อ

ทำตัวอ่อนแอเรียกร้องความสงสารสินะ!

นี่เป็นความคิดแรกที่เข้ามาในหัวของเซียวเย่หลัน

เขาขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ไปเรียนวิธีจำใจมากมายแบบนี้มาแต่ไหน เขาถึงได้เกลียดหญิงสาวมาแต่ไหนแต่ไร โดยเฉพาะคนโง่เขลาที่เอาแต่ตามตอแยเฉกเช่นเซ่เชียนฮวน ยิ่งนางใช้ลูกไม้มากเท่าไหร่ ก็มีแต่จะทำให้เขารู้สึกเกลียดมากเท่านั้น

เขาเดินเข้าไป จากนั้นก็ยื่นมือไปบีบคางของเซ่เชียนฮวนเอาไว้ บังคับให้นางเงยหน้าขึ้น เอ่ยพูดด้วยนัยน์ตาลุ่มลึกว่า

“วันนี้ข้าจะมาเตือนเจ้า”

“ห๊ะ? ข้าไปทำอะไรอีก?”

“รู้อยู่แก่ใจยังจะมาถามอีก!”เซียวเย่หลันออกแรงที่ข้อมือเล็กน้อย จนใบหน้าเล็กๆของนางเริ่มมีเลือดฝาด “หากเจ้าไม่แอบใช้เล่ห์เหลี่ยม มารดาของเย่สิ้นจะไปขอร้องให้เจ้าช่วยได้อย่างไร?”

เซ่เชียนฮวนรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้ชายหนุ่มกรุ่นโกรธในที่สุด

เหอะ!

ถ้าจะพูดว่าเขาโง่ ก็คงเป็นเพราะเขาหัวไว จนคิดอะไรไปไกล

ถ้าจะพูดว่าเขาฉลาด แต่กลับแยกแยะถูกผิดไม่ออก มีตาหามีแววไม่ ถึงได้ทะนุถนอมแม่ดอกบัวขาวที่สะอาดแต่เพียงภายนอกแต่ข้างในเน่าเฟะเฉกเช่นซูอวี้เอ๋อร์เอาไว้อย่างกับเป็นสิ่งของล่ำค้า

เซ่เชียนฮวนเลิกคิ้วขึ้น เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าราบเรียบ “ในเมื่อท่านอ๋องคิดว่าข้าทำเรื่องไม่ดี เหตุใดไม่จับข้าไปขังไว้ในห้องเก็บฟืนเป็นเพื่อนหนูท่อต่อล่ะ นี่ยังจะวิ่งหน้าตั้งมาหาข้าอีก?”

“เจ้าคิดว่าข้าอยากเห็นหน้าตาขี้เหร่ของเจ้านักหรือไง?” เซียวเย่หลันเอ่ยพูดอย่างเยือกเย็น “เซ่เชียนฮวน เจ้าจงจำเอาไว้ หากครั้งหน้าเจ้ากล้าทำเรื่องอะไรที่มันท้าทายขีดจำกัดความอดทนของข้าอีก แม้แต่ไทเฮาก็จะช่วยเจ้าเอาไว้ไม่ได้”

สิ้นคำพูด เขาก็ปล่อยมือออก

“ข้าไม่ได้ขี้เหร่สักหน่อย” เซ่เชียนฮวนบ่นงึมงำ

นางลูบคาง เม้มปากแน่น ทันใดนั้นความทรงจำบางอย่างเกี่ยวกับเซียวเย่หลันก็ผุดขึ้นมาในหัว

ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ทำแค่วางท่าข่มขู่

เพราะเคยมีวันหนึ่ง คุณชายจวนอานติ้งโหวเมามายและพุ่งพรวดเข้าไปหาเซียวเย่หลันบนถนน ในตอนนั้นเขาไม่พูดพร่ำทำเพลง ใช้มีดฟันเข้าที่หัวของคุณชายอานติ้งโหวทันที

เมื่อหัวหลุดจากคอก็ถูกหมาจรจัดคาบไป ตามกลับมาไม่ได้ เฉินอานโหวผู้น่าสงสารจึงทำได้เพียงนำศพของบุตรชายกลับมาไว้ที่ห้องโถงไว้ทุกข์ จนถึงป่านนี้ก็ยังไม่ฝัง

เรื่องนี้ถูกกล่าวถึงอย่างครึกโครม แม้นฮ่องเต้จะอนุญาตให้ลงโทษเซียวเย่หลัน แต่เพราะทางชายแดนมีเหตุด่วน จึงต้องให้เซียวเย่หลันนำทัพไปปฏิบัติการ สุดท้ายก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลย

เรื่องอะไรแบบนี้ไม่ใช่ว่าเคยเกิดขึ้นเพียงแค่ครั้งเดียว

แค่นึกถึงเซ่เชียนฮวนก็รู้สึกขนลุกแล้ว สมกับที่เจ้าของร่างเดิมเป็นพวกหน้ามืดตามัว ผู้หญิงปกติที่ไหนจะมาชอบผู้ชายที่เปรียบเสมือนยมบาลที่พรากชีวิตคนอื่นไปอย่างไม่กะพริบตาอย่างเซียวเย่หลันกัน??

ต่อให้หล่อแค่ไหน ก็ไม่คู่ควรหรอก!

ไม่ได้การละ นางต้องหาทางออกไปจากจวนแห่งนี้ให้ได้ หากต้องอยู่กับปีศาจตนนี้ กลัวก็แต่ว่าจะหลบหนีไม่พ้น!

“หน้าแมวแล้วยังจะพูดจาไม่เพราะอีก” เมื่อเซียวเย่หลันได้ยินที่เซ่เชียนฮวนบ่น ก็ส่งเสียงหึออกมา

เซ่เชียนฮวนได้ยินดังนั้น ก็ตอกกลับไปอย่างอดไม่ได้ “เช่นนั้นคนปากแหลมหน้าแหลมอย่างแม่นางซู คงหน้าเหมือนหนูสินะ? ท่านอ๋องนี่ช่างรสนิยมดีจริงๆ”

พูดจบได้ไม่ทันไร เซ่เชียนฮวนก็รู้สึกคิดผิด

ผู้ชายคนนี้กำลังหัวร้อน นางไม่ควรปากไวเอาชีวิตน้อยๆของตนเองไปแขวนไว้เช่นนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel