บทที่ 9 ชื่อเสียงที่โหดร้าย
เสี่ยวเหลียนขอทานน้อยตอบเจื้อยแจ้ว ใบหน้าดำเมี่ยมเสื้อผ้าขาดจนเมิ่งลี่เฟยคิดว่าจะทนความหนาวได้อย่างไร แต่นางผู้นี้ก็ยังดูสบายดี เมิ่งลี่เฟยจึงนับถือในความอดทนต่อความหนาวบาดกระดูกของนาง
เมิ่งลี่เฟยยืนดูเสี่ยวเหลียนกินขนมจนหมด กระทั่งคล้ายขนมจะติดคอใบหน้าแดงก่ำทั้งไอออกมา กว่าจะหายใจได้อีกคราก็แทบแย่ เมิ่งลี่เฟยรู้สึกขบขันจึงหัวเราะออกมาจนปวดท้อง
"ข้าถูกใจเจ้า เห็นหน้าเจ้าแล้วสนุกกว่าเล่นกับบ่าวในจวนเสียอีก"
ว่าแล้วนางก็ควักถุงเงินออกมาทั้งมอบให้เด็กขอทานไปทั้งถุง เมิ่งลี่เฟยกลัวว่าบ่าวจะตามมาเจอแล้วห้ามนางให้เงินคนมากเช่นนี้ นางจึงปัดมือของตนเองแล้วบอกเสี่ยวเหลียนเบา ๆ
"ข้าไปก่อนนะ เงินนี่ให้เจ้าไปซื้อของที่อยากกิน"
เสี่ยวเหลียนรับถุงเงินมาอย่างงง ๆ กระทั่งคิดได้จึงยิ้มกว้างออกมา
"ขอบคุณ คุณหนู"
เมิ่งลี่เฟยเพียงพยักหน้าแล้วหมุนตัวคิดเดินจาก ทว่านางกลับชนเข้ากับบุรุษผู้หนึ่ง เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบว่าเขากำลังแสยะยิ้มอย่างน่ากลัวเผยฟันดำเมี่ยม
เมิ่งลี่เฟยตกใจ แต่นางไม่หวาดกลัวด้วยรู้ว่าไม่มีผู้ใดกล้ายุ่งกับชนชั้นสูงให้เดือดร้อนเป็นแน่
ตรงกับที่นางคิด คนผู้นั้นเมื่อเห็นการแต่งกายด้วยผ้าไหมเนื้อดี ใบหน้างดงามทั้งยังปักปิ่นหยกแสดงฐานะสูงส่ง คนผู้นั้นขยับกายห่างนางทันใด ทั้งยังเอ่ยชมดวงตาวาว
"โอ๊ะ คุณหนูบ้านใดกันจึงได้น่ารักเช่นนี้ โปรดอภัยให้ข้าน้อยที่ไม่มีตา"
เมิ่งลี่เฟยเชิดใบหน้าเล็กที่ฉายแววงดงามจนคนต้องตื่นตะลึงขึ้นเล็กน้อย นางกระแอมให้คอโล่งส่งเสียงดังฟังชัด
"ทหารของข้ามาโน่นแล้ว รีบหลีกทาง"
แน่นอนว่าเมื่อได้ยินคำว่าทหาร บุรุษฟันดำผู้นั้นพร้อมกับพวกอีกสองคนรีบค้อมตัวหลีกทางให้อย่างนอบน้อม เขาผายมือแล้วเอ่ยว่า
"เชิญคุณหนูขอรับ"
เป็นทหารอารักขาของเมิ่งลี่เฟยจริง ๆ พวกเขาหน้าตื่นวิ่งเข้ามาหานาง ทว่าไม่มีผู้ใดกล้าตำหนิเมิ่งลี่เฟยสักคน ได้แต่ขอให้นางกลับไปที่เกี้ยวเพราะได้เวลากลับจวนแล้ว
"ข้ายังอยากเดินเที่ยวอีกหน่อย"
นางกลับเอ่ยคำนี้แล้วเดินไปอีกทาง ผ่านมาราวครึ่งชั่วยามเมิ่งลี่เฟยที่กำลังจะกลับจวน พลันได้ยินเสียงแหลมเล็กของเด็กผู้หนึ่ง นางจึงหันไปมองเห็นร่างของเด็กขอทานผู้นั้นที่นางได้ให้เงินไว้ถูกลากไปที่มุมหนึ่ง
เมิ่งลี่เฟยก้าวขาวิ่งไปที่ตรอกเล็กแคบนั้นทันใด ทหารองครักษ์ได้แต่ร้องเรียกคุณหนู ๆ ด้วยความตกใจเช่นกัน
ทว่าเมื่อไปถึงเมิ่งลี่เฟยกลับพบเด็กหญิงขอทานคนนั้นถูกทำร้ายจนนอนตัวงออยู่ที่พื้น ใบหน้าของนางถูกตีจนเลือดอาบ รู้สึกว่าศีรษะจะมีแผลลึก
เมิ่งลี่เฟยน้ำเสียงร้อนรน
"ผู้ใดทำเจ้า ผู้ใด"
เด็กขอทานชี้นิ้วเล็กไปอีกทางหนึ่งพร้อมกับเอ่ยว่า
"ชายสามคนใส่ชุดดำ พวกเขาปล้นเอาเงินข้าไป"
เมิ่งลี่เฟยตะโกนสั่งองครักษ์ทันใด
"ไปลากตัวมันมา สั่งสอนให้เข็ดหลาบ"
ชั่วพริบตาเมิ่งลี่เฟยก็ยืนกอดอกอยู่ท่ามกลางสายตาของประชาชนที่มามุงดูอย่างสนใจ ช่างบังเอิญยิ่งที่บุรุษที่ถูกจับตัวมานั้นคือคนที่นางเดินชนก่อนหน้านี้นั่นเอง
เมิ่งลี่เฟยไม่พูดพร่ำทำเพลง นางสั่งให้ทหารค้นตัวพวกมันจนกระทั่งได้ถุงเงินของนางคืนมา ผู้คนเริ่มสงสัยว่าเกิดสิ่งใดขึ้น
เมิ่งลี่เฟยไม่สนใจสายตาของผู้ใด ไม่คิดส่งคนผิดให้ทางการเลยสักนิด
"เอาแส้มาให้ข้า"
ในยามนั้นเองที่เมิ่งลี่เฟยในวันเพียงเก้าขวบลงมือเฆี่ยนตีคนพวกนั้นด้วยตนเองกระทั่งพวกมันสลบคาแส้ท่ามกลางสายตาคนมากมายด้วยท่าทางแข็งกร้าวผิดวิสัยคุณหนูในห้องหอ
ข่าวลือถูกแพร่กระจายออกไปว่าเมิ่งลี่เฟยเหี้ยมโหดเพียงใด สามารถเฆี่ยนคนสลบคามทอด้วยแส้เดียว บ้างก็ว่าคนพวกนั้นเพียงแค่ขวางทางเดินของเมิ่งลี่เฟยจึงถูกลงโทษอย่างหนัก บ้างก็ว่าคนพวกนั้นเพียงแค่ฟันดำก็ทำให้คุณหนูจวนเสนาบดีมีโทสะแล้ว
นับแต่นั้นมาชื่อเสียงความโหดร้ายของเมิ่งลี่เฟยจึงถูกเล่าขาน ทั้งยังขนานนามให้นางว่าเป็นคุณหนูปีศาจแห่งจวนเสนาบดี