บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 8 ศัตรูตัวร้าย

ไป๋หลีเซวียนเดิมที่สุขุมไม่แยแส ทว่าพอเห็นโฉมหน้าคมคายหล่อเหล่านี้แล้ว พลันรู้สึกราวฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย ความเกลียดชังในใจราวกับจะฉีกทึ้งนางออกเป็นเสี่ยง ๆ

นิ้วเรียวในชายแขนเสื้อกำแน่น จนเล็บจิกลึกเข้าเนื้อ เจ็บจนน้ำตาซึมชื้นในตาของนาง

จิ้งอ๋อง เป็นมันนั่นเอง..

คนที่นางทุ่มเทความรักให้อย่างไม่ลืมหูลืมตาในชาติก่อน รักลุ่มลึกทุ่มเทให้มันทั้งใจกาย ทว่าท้ายที่สุด

มันกลับไม่แม้แต่จะปลายตามองลูกของตัวเองเลยสักนิด ยังเอามาพนันกับไป๋ลู่อิงอีกต่างหาก..

คาดไม่ถึงเลย ว่าจะได้พบกันเร็วขนาดนี้ ใช่แล้ว วันนี้ไป๋ฮูหยินจัดงานเลี้ยงในบ้าน อวดทุกผู้คนว่านางได้ขึ้นเป็นไป๋ฮูหยินอย่างถูกต้องเต็มภาคภูมิ

แน่นอนว่า ย่อมต้องเชิญจิ้งอ๋องมาด้วย ในเมื่อจิ้งอ๋องคือบุตรเขยที่สมบูรณ์แบบดั่งคนในอุดมคติของนางทุกประการ

ส่วนเรื่องที่เขามีหมั้นหมายกับไป๋หลีเซวียนนั้น คิดว่าไม่ยากเลยหากจะหาวิธีทำลายมันเสียก็สิ้นเรื่อง ถึงเวลานั้นแม่ของไป๋หลีเซวียนหลิงม่านรูย่อมไม่อาจอ้างเหตุผลใดขึ้นมาได้ 

และจะอย่างไรก็ต้องถูกนางกดดันให้ส่งมอบตราคุมทัพออกมาอยู่ดี

"ท่านอ๋อง ทางนี้พ่ะย่ะค่ะ”

เสนาบดีซูยิ้ม เชิญจิ้งอ๋องฉู่เจว๋เหินให้เดินเข้ามา สีหน้าเต็มไปด้วยความพอใจ จิ้งอ๋องหมั้นหมายไว้กับไป๋หลีเซวียน อีกเพียงสามเดือนก็ถึงกำหนดสมรสกันแล้ว

เสนาบดีไป๋พอใจคู่สมรสนี้เป็นที่สุด เพียงแต่ช่วงนี้ไป๋ฮูหยินกลับคอยส่งสัญญาณทั้งทางตรง และทางอ้อมให้เขาเปลี่ยนคนในสัญญาหมั้นหม ายเป็นอิงเอ๋อตลอดเวลา

“ท่านอ๋อง ท่านอา"  เฉินชิงหยางรีบวิ่งมาอยู่หน้าเสนาบดีไป๋ แล้วโค้งกายทำความเคารพที่หนึ่ง แล้วแบมือให้เห็นปิ่นในมือ พร้อมระบายบอกเล่าทุกอย่างออกมา สีหน้าเต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ

“ขอท่านอาโปรดช่วยตัดสินใจ ให้ความเป็นธรรมกับข้าด้วยเถิดขอรับ ไป๋หลีเซวียนทุบข้าจนสลบ ขโมยปิ่นของข้า ที่เป็นถึงของหมั้นหมายแทนใจของท่านยายอาวุโส

และท่านผู้เฒ่าอาวุโส ท่านยายทะนุถนอมหวงแหนมันเป็นอย่างมาก หากน้องหลีเซวียนชื่นชอบปิ่นปักผม เพียงบอกข้าจะให้ข้าซื้อปิ่นเป็นร้อยเล่มมาให้นางก็มิได้เป็นปัญหาเลย"

สายตามีเงื่อนงำหลายคู่ มองมาที่ตัวไป๋หลีเซวียน

สายตาจิ้งอ๋องที่แต่เดิมตกอยู่ที่ร่างงดงามเป็นที่เลื่องลือทั่วเมืองหลวงของไป๋อิงเอ๋อ หากพอได้ฟังวาจาเฉินชิงหยางแล้ว แววตาก็เย็นยะเยือก ปรายมองมาที่ไป๋หลีเซวียน

เสนาบดีไป๋เห็นนางสร้างความอับอายเบื้องหน้าท่านอ๋องพระคู่หมั้น โทสะก็ผุดขึ้นในทันใด ก้าวขึ้นมายกมือขึ้นตวัดใส่ไป๋หลีเซวียน

ไป๋หลีเซวียนถอยร่นหลบหลีก ทว่ายามที่แหงนหน้าขึ้นมอง กลับเห็นกระบี่เล่มหนึ่งขวางข้อมือเสนาบดีไป๋ไว้อยู่ เสนาบดีไป๋มองผู้ที่แทรกเข้ามา สีหน้ายิ่งทวีความเดือดดาล

"หลิงม่านรู เจ้ามาเสนอหน้าทำอะไร?”

หลิงม่านรูก็คือมารดาของไป๋หลีเซวียนเดิมที่ควรเป็นฮูหยินใหญ่ในจวนเสนาบดี นอกจากไป๋หลีเซวียนแล้ว นางยังมีบุตรชายอีกคนหนึ่ง นามว่าไป๋จวินหาน เป็นพี่ชายของไป๋หลีเซวียน

ตั้งแต่เจ็ดปีก่อนที่ท่านเสนาบดีนำหลิงซีเยี่ยน และไป๋ลู่อิงที่เลี้ยงดูไว้นอกจวน กลับมาด้วยเขาก็เริ่มหลงใหลหล่อน ข่มเหงภรรยาเอก

ตั้งแต่ยามนั้น หลิงม่านรูก็แทบไม่ปรากฏกายต่อหน้าผู้คนภายนอกอีกเลย

นางเพียงแค่คิด ว่าสามีของตนเองไปร่วมรักกับญาติผู้น้องของนางแล้ว ก็รู้สึกขยะแขยงอยากอาเจียน

ใครจะไปคิดว่า วันนี้นางกลับโผล่ออกมา ทั้งยังมีกระบี่อยู่ในมือ กดดันเสนาบดีอยู่ต่อหน้าจิ้งอ๋อง

ไป๋หลีเซวียนตกตะลึง หันหน้าไปมองมารดาที่กำลังปกป้องนางอย่างรักใคร่หวงแหน ทั้งที่ใบหน้าซีดขาวด้วยอาการเจ็บป่วยอยู่

ความรู้สึกผิด และความหวงแหนโหยหาพลันผุดขึ้นมาในใจทำให้นางรีบพุ่งตัวเข้าไปในอ้อมแขนของหลิงม่านรูทันที

“ท่านแม่”

ข้าขอโทษท่านแม่ ข้าขอโทษชาติที่แล้ว เป็นข้าที่ดวงตามืดบอด ทำร้ายให้ท่านต้องอยู่มิสู้ตาย แน่นอนว่าคำพูดเหล่านี้ไป๋หลีเซวียนไม่เอ่ยออกมา

“เสนาบดีไป๋ ท่านมีหลักฐานหรือไม่ หลักฐานที่แสดงว่าเซวียนเอ๋อเป็นผู้ขโมยมา และหลักฐานที่แสดงว่าเซวียนเอ๋อเป็นผู้ทุบตีคุณชายเฉิน”

“ไสหัวกลับเรือนของเจ้าไปซะ เรื่องที่นี่ มิใช่ธุระกงการอะไรของเจ้า”

เสนาบดีไป๋เพียงเห็นว่าเป็นหลิงม่านรู ไฟโทสะก็ลุกพล่านขึ้นมา หลิงม่านรูมาจากจวนแม่ทัพ

ฝึกกระบี่ตั้งแต่วัยเยาว์ มิได้มีความอ่อนหวานเหมือนอิสตรีเลยแม้แต่น้อย หากมิใช่เข้าต้องการสมรสเชื่อมดองกับจวนสกุลหลิง เพื่อเสริมอำนาจบารมีตนเองแล้วล่ะก็ เขาย่อมไม่มีทางแต่งกับหลิงม่านรูอย่างแน่นอน

หลิงม่านรูขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เดือดดาลจนกระบี่ในมือสั่นสะท้านไปมา คิดอยากตวัดกระบี่สักที

ไป๋หลีเซวียนยกมือขึ้นกุมมือของมารดาไว้ ลอบวาดอักษรหลายตัวบนฝ่ามือนาง หลิงม่านรูซะงักงัน แล้วสงบลงในฉับพลัน

“หลีเซวียน!"

เสนาบดีไป๋ตวาดดังลั่นอย่างเดือดดาล

“หากปิ่นนี้เป็นเจ้าขโมยมาจริง เช่นนั้นจวนเสนาบดีคงเก็บเจ้าไว้ไม่ได้แล้ว?”

เช่นนั้นเขาจะได้ถอนตัวนางออกจากการหมั้นหมายได้พอดี

ไป๋หลีเซวียนเหยียดตัวตรง หลุบตาลง ยืนหยัดอย่างมั่นคง มองดูแล้ว ไม่มีทีท่าหวาดหวั่น หรือกระวนกระวายเลยแม้แต่น้อย

พอได้ฟังวาจานี้ของเสนาบดีไป๋แล้ว ไป๋หลีเซวียนค่อยก้าวออกมายอบกายลง

"ตอบท่านพ่อ เซวียนเอ๋อมิได้ขโมยเจ้าค่ะ"

“เจ้ายังจะปากแข็งอีกหรือ คิ้วเรียวดังใบหลิวของไป๋ฮูหยินขมวดมุ่น “ปิ่นของท่านยายเฒ่าอาวุโสเฉินนี้ ข้าเคยเห็นมาก่อน คือปิ่นเล่มนี้ไม่ผิดแน่ ชิงหยางถูกตีจนสลบอยู่ในกอหญ้า ขณะที่เจ้าก็อยู่แถวนี้ เจ้าจะแก้ตัวอย่างไร?"

“พี่ใหญ่ ท่านรีบยอมรับผิดเถิดเจ้าค่ะ มิแน่ว่าท่านลุงใหญ่อาจจะยอมเว้นโทษท่าน” ไป๋จิ่งสือเด็กสาวผู้มีโฉมหน้างดงาม กล่าวเสียงแผ่วเบา

กล่าวพลางค่อยๆ ลอบเข้าใกล้จิ้งอ๋องไปพลาง คิดดึงดูดความสนใจ เรียกสายตาจิ้งอ๋องให้มองมา

ตำแหน่งพระชายาของจิ้งอ๋องนั้น มิเพียงไป๋ลู่อิงที่มาดหมาย บ้านรองก็เล็งไว้เช่นเดียวกัน

แววตาไป๋หลีเซวียนหลุบลงมองที่ตัวปิ่น ได้ยินพวกนางกล่าวหาว่า ตนเป็นหัวขโมยอย่างแน่นอนแล้ว ก็ทำท่าคล้ายมีวาจาจะเอื้อนเอ่ยอยู่หลายครั้ง จนในที่สุดก็กล่าวออกมาเสียงแผ่วเบา

“ท่านแม่เจ้าคะ ลูกไม่รู้จริงๆ เจ้าค่ะ ว่าเหตุใดญาติผู้พี่ถึงได้หมดสติอยู่ในกอหญ้า ทว่าสำหรับปิ่นเล่มนี้”

ไป๋ฮูหยินถลึงตาใส่หลิงม่านรูอย่างดุร้าย แววตาเต็มไปด้วยความสะใจ ฟาดฟันกันมาทั้งชีวิต

 มิใช่นางหรือที่มักเป็นฝ่ายชนะ นางทั้งแย่งสามีมาได้ ทั้งช่วงชิงหน้าตาความร่ำรวยสูงศักดิ์มาได้อีก

ไป๋ลู่อิงเห็นจิ้งอ๋องเหลือบมองจิ่งสือวูบหนึ่ง ก็กัดฟันกรอด ยกมือขึ้นดึงไป๋ซูหลิวบุตรสาวของอนุอีกคนให้มาหลบอยู่ด้านหลังของนาง

พอไป๋จิ่งสือเห็นสายตาท่านอ๋องมองมาที่ตนเองแล้ว ดวงหน้างดงามก็เงยขึ้น แววตาไหวระริกอย่างตื่นเต้นยินดี

ไป๋ซูหลิวยืนบิดผ้าเช็ดหน้าแน่น ที่แห่งนี้มิเปิดโอกาสให้นางกล่าววาจาใดๆเลย เพราะนางเองก็อยากสบตากับจิ้งอ๋องบ้างเช่นเดียวกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel