1. เนื้อหนังทาสสาว [ชายาทาส]
เนื้อหนังทาสสาว [ชายาทาส]
“ทาสสาวคนนี้เป็นของข้า!”
เขาประกาศลั่นพร้อมกับเดินออกไปจากห้องนอน ซัวหวาจึงได้เห็นว่าด้านนอกมีชายชุดดำอีกหลายสิบคนกำลังจับกุมเหล่าลิ่วล้อของขุนนางสวีเอาไว้ ทุกอย่างวุ่นวายสับสนราวกับผืนดินถูกพลิกกลับด้าน ก่อนที่สติสัมปชัญญะจะขาดหายไปในที่สุด
เฮือก!
ซัวหวาผวาตื่นด้วยความงุนงงสับสน ปวดศีรษะร้าวลงกระบอกตา ใบหน้าซีกซ้ายที่โดนตบบวมฉึ่งจนปวดตุบๆ แต่นางกลับไม่สนใจความเจ็บปวดเหล่านั้น รีบผุดลุกจากฟูกนอนอบอุ่นหวังจะหลบหนี ทว่าแข้งขาที่อ่อนแรงกลับทำให้นางล้มคว่ำคะมำลงไปกับพื้น
โครม!
จังหวะที่หญิงสาวพยายามพยุงกายลุกขึ้นยืน กลับถูกอุ้มขึ้นจากพื้นจนตัวลอยอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันได้ตั้งตัวนางก็ตกอยู่ในอ้อมกอดแข็งแกร่งของชายคนหนึ่ง เขามีหน้าตาหล่อเหลาจนทำให้นางถึงกับตกตะลึง แต่เมื่อจ้องลึกเข้าไปในดวงตา นางก็จำเขาได้ในทันที...
ชายที่ใช้ดาบฟันศีรษะของขุนนางเฒ่าสวีขาดกระเด็นในดาบเดียวนั่นเอง
พอจำได้ดังนั้นนางก็หวาดกลัวจนตัวสั่น ความตายมาจ่ออยู่ใกล้แค่เพียงปลายจมูก ชีวิตของนางไม่ว่าจะหันไปทางซ้ายหรือวิ่งหนีไปทางขวาก็ต้องพบเจอกับความตายไม่อาจหลีกเลี่ยงสินะ
นางหลับตาแน่นไม่ได้ดิ้นรนขัดขืนอย่างที่ควรจะเป็น ยิ่งดิ้นรน ยิ่งเจ็บตัว นางอยากตายแบบไม่ต้องทรมาน ทาสที่ไร้ทางสู้ก็ไม่ต่างจากหนูโสโครกในตรอกแคบๆ ที่แสนสกปรก ไม่มีใครมองเห็นค่า มีแต่จะกระทืบให้จมดินแล้วเดินผ่านไปโดยไม่แม้แต่จะชายตามอง
ซัวหวารับรู้ได้ว่าแผ่นหลังของตนเองแนบลงบนฟูกนอนนุ่มนิ่ม ฟูกนอนที่ตลอดชีวิตนางไม่มีโอกาสได้นอนเลยสักครั้ง เพราะปกติแล้วนางต้องนอนรวมกับทาสคนอื่นๆ โดยใช้ผ้าขาดที่เย็บปะซ่อมแซมปูรองนอนอย่างอัตคัด
ความคิดสะดุ้งกึก เมื่อริมฝีปากของนางถูกบดแนบลงมา ทาสสาวเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ จึงได้รับรู้ว่าคนตัวโตได้โน้มใบหน้าลงมาปิดเรียวปากของนางด้วยเรียวปากอุ่นร้อนของเขาเสียแล้ว
“อื้อ...”
แม้ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ขัดขืน จะยอมตายโดยเจ็บปวดน้อยที่สุด ทว่าเมื่อถูกจูบจนหัวใจกระตุกนางก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตาโพลง สองมือยกขึ้นปัดป้องผลักไสเขาด้วยความตื่นตระหนก
พลาดเสียแล้ว...
ทันทีที่นางส่งเสียงร้องชายโหดเหี้ยมผู้นี้ก็แทรกปลายลิ้นร้อนเข้ามาในโพรงปากของซัวหวาอย่างรวดเร็ว มือที่ผลักไสปัดป่ายถูกมือหนาสากที่เพิ่งบั่นคอขุนนางเฒ่ารวบขึ้นไว้เหนือศีรษะอย่างง่ายดาย
นางกลั้นใจหมายจะกัดลิ้นเขาให้ขาด จากนั้นจะยอมก้มหัวให้เขาบั่นคอจบสิ้นชีวิตที่แสนรันทดนี้เสีย ทว่าจูบที่แสนเว้าวอนอ่อนหวานกลับทำให้นางมึนงงสับสน หัวใจที่ควรเต้นแรงด้วยความหวาดกลัวกลับเต้นระส่ำด้วยความหวิวไหววาบหวาม เรี่ยวแรงที่พยายามผลักไสกลับหดหายไปเสียสิ้น
นะ...นี่มันอะไรกัน
นางหายใจติดขัดเมื่อถูกปล้นปลิดลมหายใจไปอย่างหน้าตาเฉย จูบของชายผู้นี้หวานล้ำราวกับน้ำตาลก้อนรสหวาน มือข้างหนึ่งที่ว่างเปล่าเลื่อนลงไปยังต้นขาขาวนวลก่อนจะโลมไล้ไปมาจนคนตัวเล็กถึงกับสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวระคนซ่านกระสัน
“เจ้าช่างหวานนัก”
เสียงทุ้มนุ่มพึมพำแผ่วเบาเมื่อปล่อยริมฝีปากของทาสสาวก่อนจะจูบไซ้ไปตามซอกคอเรียวระหง ไล่เรื่อยใช้ปลายลิ้นร้อนตวัดเลียแล้วทิ้งรอยจูบแดงระเรื่อไว้เต็มลำคอราวกับจะตีตราความเป็นเจ้าของ
“ปะ...ปล่อย”
ทันทีที่ริมฝีปากเป็นอิสระนางก็ขอร้องให้เขาปล่อยทันที คนตัวโตที่กำลังตะโบมจูบไซ้ไปตามซอกคอถึงกับหยุดกึก เขาเงยหน้าขึ้นจ้องลึกเข้าไปในแววตาตื่นตระหนกราวกับกวางป่าที่ระวังภัยของทาสสาว
ซัวหวาหายใจไม่ทั่วท้อง แววตาคมกร้าวของชายตรงหน้าเต็มไปด้วยอำนาจที่ทำให้นางรู้สึกหวาดหวั่น เขาไม่เหมือนขุนนางเฒ่าสวี หรือขุนนางผานที่นางเคยรู้จัก เขาดูผิดแผกไปจากคนเหล่านั้น
“เจ้าต้องเป็นของข้าทั้งตัวและหัวใจ ดังนั้นข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไปเด็ดขาด”
ชายหนุ่มพูดพลางก้มหน้าลงแล้วครอบครองริมฝีปากของนางเอาไว้อีกครั้ง จูบเร้ารัญจวนราวกับกำลังรีดเค้นวิญญาณออกจากเรือนร่างนุ่มนิ่มทำให้ทาสสาวลืมสิ้นซึ่งความหวาดกลัว แปรเปลี่ยนเป็นความซ่านกระสันอย่างที่นางไม่เคยได้สัมผัส
“อื้อ อาห์”
นางเผลอส่งเสียงครางออกมาอย่างน่าละอายเมื่อมือหนาสากกอบกุมโหนกนูนของนางเอาไว้เต็มมือ เขาใช้ฝ่ามือนวดเฟ้นแผ่วเบา ยิ่งนวดนางก็ยิ่งเสียวจนหน่วงหนักขึ้นมาถึงท้องน้อย
“มะ...ไม่”
นางส่ายหน้าสะบัดด้วยความสับสน มีบางสิ่งบางอย่างเหนือการควบคุม ที่หว่างขาของนางราวกับมีหยาดน้ำใสไหลออกมาเปรอะเปื้อนนิ้วมือของชายหนุ่มจนเปียกชุ่ม ไหลเยิ้มฉ่ำแฉะจนเปื้อนลงไปบนฟูกนอนสีขาว
น่าละอาย...
นางกำลังมีอารมณ์ และกำลังต้องการการเติมเต็มจากชายผู้นี้ ชายที่เพิ่งฆ่าคนตายด้วยใบหน้าเรียบเฉยไร้ความเมตตา
“ยะ...หยุดนะ!”
ซัวหวากัดริมฝีปากล่าง ส่ายหน้าแรง หอบหายใจจนตัวโยน เมื่อนิ้วกลางของเขาชำแรกแทรกเข้าไประหว่างกลีบบุปผา ถูไถไปมา ก่อนจะบดคลึงเมล็ดสวาทอย่างแผ่วเบา ส่งผลให้นางถึงกับลืมสิ้นซึ่งความอาย บิดตัวเร่าอยู่ในอ้อมกอดของเขา
“อะ...อาห์ อาห์”
นางครางเสียงกระเส่า ทั้งตกใจและเสียวซ่านกับสัมผัสที่นางไม่เคยรู้จักมาก่อน มันซาบซ่านหวิวไหวจนนางแทบคลั่ง เวลานี้คนตัวโตปล่อยมือนางให้เป็นอิสระแล้ว และนางกำลังยกมันปัดป่ายกอดก่ายเขาเอาไว้อย่างเผลอไผล
“อาห์ อาห์ อะ อื้อ อื้อ”
ซัวหวาส่งเสียงหวานครางกระเส่าอยู่ข้างหูคนตัวโต ยิ่งทำให้แท่งทวนยาวใหญ่ของเขาชูผงาดดุนดันอยู่ภายในกางเกง จนเขาต้องกดข่มมันไว้ด้วยการกัดสันกรามจนปูดโปน
นิ้วมือยังคงระรัวเร่ง ในขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงซุกไซ้ไปตามซอกคอเรียวระหง ก่อนจะเลื่อนลงต่ำแล้วใช้จมูกโด่งฝังลงยังใจกลางอกสล้างทรงกลมเอาไว้ สูดกลิ่นหอมของหญิงสาวที่เพิ่งพ้นวัยปักปิ่นมาได้ไม่นาน นางเปรียบดั่งดอกไม้ที่ยังคงตูม เพิ่งจะแย้มกลีบบานได้เพียงกลีบเดียวก็ถูกคนชั่วเอาไปเร่ขายบำเรอกามเสียแล้ว