บท
ตั้งค่า

สำรอง ที่ 2-2 เยือนจวนท่านอ๋อง

“ช่วงนี้คุณหนูแพ้แสงแดดเจ้าค่ะ ใบหน้าที่แสนบอบบางเห่อแดงได้ง่าย จึงต้องใช้ผ้าปิดบังใบหน้าเอาไว้ครึ่งหนึ่งตามคำแนะนำของท่านหมอ หวังว่าท่านพ่อบ้านจะไม่ถือสาและช่วยกำชับเหล่าสาวใช้ให้ช่วยกางร่มบังแสงแดดให้คุณหนูทุกครั้งเมื่อมีโอกาส”

ฟางเหม่ยได้ยินหมิงจูแก้ตัวกับพ่อบ้านของท่านอ๋องด้วยน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำ ไม่มีแม้ท่าทางเคอะเขิน ราวกับว่าการโกหกเป็นธรรมชาติของนาง ทำให้ฟางเหม่ยแอบลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะอย่างน้อยๆ คุณหนูหลัวน่าก็คัดเลือกคนมาทำงานได้อย่างฉลาดเฉลียว

หญิงสาวนิ่วหน้าน้อยๆ ก่อนจะฉุกใจคิดได้ว่า คุณหนูหลัวน่านั้นไม่ถนัดในการใช้สมองสักเท่าไหร่ จึงเป็นไปไม่ได้ที่คุณหนูหลัวน่าจะคิดอะไรซับซ้อน และเลือกใช้คนได้อย่างแยบคายเช่นนี้

แล้วใครกันเล่าเป็นผู้เลือกใช้คน...

สงสัยว่าคงเป็นฮูหยินหวงผู้เป็นมารดาของคุณหนูหลัวน่ากระมัง เพราะทั้งรักทั้งตามใจบุตรสาวจนเคยตัว ขนาดถูกใต้เท้าหวงต่อว่าอยู่หลายครา กระนั้นความรักที่มีต่อบุตรสาวกลับมากล้นจนผิดที่ผิดทาง

เรียกได้ว่าที่คุณหนูหลัวน่าโตมาเป็นหญิงสาวนิสัยเสีย เอาแต่ใจ และยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งอย่างก็เพราะมีมารดาคอยให้ท้ายนั่นเอง

“ท่านอ๋องพักอยู่ที่เรือนป่าไผ่ขอรับ”

พ่อบ้านเอ่ยขึ้นปลุกหญิงสาวให้หลุดจากภวังค์ความคิด

“เรือนป่าไผ่หรือ”

“ขอรับ นับตั้งแต่กลับมาจากสงคราม ท่านอ๋องก็ปลีกตัวไปอยู่ที่เรือนป่าไผ่ และกำชับไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งวุ่นวาย เรียกได้ว่าค่อนข้างเก็บตัวเลยทีเดียวขอรับ ไม่ยอมพบปะผู้คน ไม่ยอมพูดคุยกับผู้ใด ทั้งจวนก็มีเพียงข้าคนเดียวเท่านั้นที่เข้าออกเรือนป่าไผ่ได้”

หัวใจของฟางเหม่ยไหววูบด้วยความห่วงใยเมื่อได้ยินเช่นนั้น ดวงตาคู่สวยเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาจนพ่อบ้านสังเกตเห็น จึงยกแขนเสื้อขึ้นปิดบังริมฝีปากที่ยกยิ้มเอาไว้ นึกดีใจที่เห็นว่าคุณหนูหลัวน่ายังคงรักและห่วงใยเจ้านายของตน ไม่ทอดทิ้งไปยามที่กำลังลำบากเช่นนี้

“ผลจากสงครามคงกระทบต่อจิตใจท่านอ๋อง เอ่อ...ท่านพี่มาก”

หญิงสาวเกือบจะเผลอเรียกขานซุนจ้าวเฟิงอย่างห่างเหิน ทั้งที่ความจริงแล้วนางต้องเรียกเขาว่า ‘ท่านพี่’ เพราะทั้งคู่หมั้นหมายกันมาเกือบสองปีแล้ว อีกทั้งยังส่งจดหมายพูดคุยกันอย่างสนิทสนมมาโดยตลอด

“แม้จะได้รับชัยชนะกลับมาจนองค์ฮ่องเต้ทรงปูนบำเหน็จรางวัลมากมาย กระนั้นหัวใจที่ต้องจมอยู่กับกองเลือดและเศษซากชีวิตคงทำให้ท่านพี่ปวดร้าวใจยิ่งนัก”

“เป็นเช่นนั้นขอรับ”

พ่อบ้านพยักหน้าน้อยๆ ตีสีหน้าหม่นเศร้า ห่อไหล่ลู่หลงราวกับว่ากำลังแบกความทุกข์ไว้บนบ่าทั้งสองข้าง

“แล้วอาการบาดเจ็บเล่า ท่านหมอว่าอย่างไรบ้าง”

“ล่าสุดท่านหมอบอกว่ากระดูกขาข้างที่หักเริ่มเชื่อมประสานกันแล้วขอรับ แผลที่ใบหน้าเริ่มดีขึ้น แต่ว่าดวงตาถูกพิษร้ายแรงอาจต้องใช้เวลาในการรักษา ซึ่งไม่อาจบอกได้ว่าจะยาวนานสักแค่ไหน จะกลับมามองได้อีกครั้ง หรือตาบอดไปตลอดชีวิต ก็คงต้องหวังพึ่งปาฏิหาริย์เท่านั้น”

“ขอแค่มีหนทาง ไม่ว่าจะยาวนานเท่าไหร่ก็จะต้องรักษาอย่างเต็มที่ ข้าเชื่อว่าท่านพี่ต้องกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง ท่านพ่อบ้านเองก็อย่าเพิ่งท้อนะเจ้าคะ ข้าจะช่วยท่านพ่อบ้านดูแลท่านพี่อีกแรง”

“โชคดีของท่านอ๋องเหลือเกินที่มีคู่หมั้นใส่ใจเช่นนี้ ข้าเชื่อว่าคุณหนูจะช่วยให้ท่านอ๋องกลับมาแข็งแรงและร่าเริงอีกครั้งขอรับ”

ฟางเหม่ยได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ หัวใจของนางหนักอึ้ง สงสารอ๋องจ้าวเฟิงจับขั้วหัวใจที่ถูกคู่หมั้นคู่หมายหลอกลวงซ้ำแล้วซ้ำเล่า

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณหนูหลัวน่าหลอกลวงท่านอ๋อง...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel