5
ช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังรับประทานอาหารกันนั้น ทุกสายตาต่างมองมาที่ฉู่หยีหนิง นางพลันรู้สึกว่านางเป็นตัวประหลาด ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ แม่นมหม่าได้พูดอะไรให้ฟังหลายอย่าง ในตระกูลฉู่ บิดาของนางดำรงตำแหน่งเป็นราชครู ของรัชทายาทองค์ปัจจุบัน ฉู่หวงเป็นคนเก่งที่สามารถไต่เต้าไปถึงตำแหน่งราชครูรัชทายาทได้ แน่นอนว่ามีสกุลใหญ่ ของสกุลหรงคอยให้กายช่วยเหลือ สกุลหรงคือสกุลของฮูหยินใหญ่หรงซือ ท่านอารอง ฉู่เจิ้งเป็นนายอำเภอที่ฮวยเซียนไกลร้อนลี้ นาน ๆ ทีจะกลับมาเมืองหลวง ส่วนท่านอาสามฉู่เจี้ยนได้เสียชีวิตไปนานแล้ว มีเพียงคุณหนูฉู่ซินและฮูหยินสามเจิ้นเหมยที่อยู่ในจวนฉู่ ด้วยความเมตตาจากฮูหยินผู้เฒ่าฉู่ จึงให้ฮูหยินสามอาศัยอยู่ในจวนแห่งนี้
ฉู่หยีหนิงได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากแม่นมหม่า นางนึกขอบคุณจริง ๆ ที่เล่าเรื่องราวให้นางฟัง นางจะได้ทำตัวถูก
ฉู่หวงเห็นหน้าบุตรสาวเป็นครั้งแรกคาดไม่ถึงว่า นางจะมีดวงหน้าคล้ายเขาเจ็ดส่วน สามส่วนนั้นคล้ายหญิงแพศยา ทำให้อารมณ์ที่เบิกบานนั้นหายไปในพริบตาเมื่อหวนคิดถึงฉินฮุ่ย หลังจากที่ทานอาหารเย็นอิ่มแล้ว ก็พลันแยกย้ายกันกลับเรือน ฮูหยินผู้เฒ่าฉู่ เรียกฉู่หยีหนิงไว้
“ท่านย่ามีอะไรเจ้าคะ” หญิงสาวมองผู้เป็นย่า อย่างสงสัย
“วันพรุ่งข้าจะส่งคนไปสอนมารยาท หญิงงามให้เจ้าแล้วกัน เจ้ามาจากบ้านนอกคงจะไม่รู้อันใด ผู้คนคงจะหัวเราะเอาได้ เจ้าเป็นคุณหนูรองตระกูลฉู่จะให้ผู้ใดมาหัวเราะเยาะเจ้ามิได้”
“เจ้าค่ะท่านย่า”
ฉู่หยีหนิงกลับมาที่เรือนสกาวใจ พลางนั่งที่ตั่งยาว แม่นมจ้าวรินน้ำชาปี้หลัวให้เจ้านายพร้อมถอดผ้าคลุมออกให้คุณหนู
“เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ คุณหนู” แม่นมจ้าวอยากรู้ วันนี้คุณหนูไปทานข้าวที่เรือนใหญ่กับคนพวกนั้นเป็นวันแรก
“แต่ละคน ช่างประจบสอพอท่านย่าเสียจริง” นางหวนนึกถึงตอนรับประทานอาหาร เห็นฉู่หงอิงประจบสอพอบ้านสายตรงอย่างฮูหยินใหญ่และท่านย่า
“คุณหนู อย่าไปสนใจเลยเจ้าค่ะ ตอนนี้คุณหนูมาในจวนฉู่แล้ว ท่านต้องเข้มแข็งอย่าได้อ่อนแอ บ่าวเชื่อว่าฮูหยินผู้เฒ่าต้องหาคนมาแต่งงานกับคุณหนู”
แม่นมจ้าวกังวลไม่น้อยเรื่องเกี่ยวกับการแต่งงานของฉู่หยีหนิง เพราะอยู่ในหุบเขา ใครจะไปอยากจะแต่งกับนาง ในเมื่อคนพวกนี้มารับตัวคุณหนู แสดงว่าย่อมเห็นความสำคัญของคุณหนูแล้ว
เรื่องนี้ นางลืมคิดไปเลย ว่าสตรีควรถึงวัยที่ออกเรือน แต่นางยังไม่อยากจะออกเรือน นางหวาดกลัวเหลือเกิน การแต่งงาน
“แม่นมจ้าว วันพรุ่งท่านย่าจะให้คนมาสอนมารยาทข้า”
“ท่านมิต้องกลัวเจ้าค่ะ” หญิงสาวกำลังจะเข้านอน แม่นมหม่าพาสาวใช้ขั้นหนึ่งสองคนมาที่เรือนสกาวใจ นามว่าป่ายจือ ป่ายเซียง สองสาวใช้เป็นคนของฮูหยินผู้เฒ่าให้มาดูแลฉู่หยีหนิง กระนั้นนางฝากแม่นมหม่าไปขอบคุณฮูหยินผู้เฒ่าแทนนางด้วย สาวใช้สองนางดูเป็นมิตรมาก คืนนั้นนางให้สองสาวใช้ไปพักผ่อน ตอนเช้าค่อยมาหานาง…
ราตรีมืดมิดสายลมพัดหวีดหวิว ในจวนฉู่ ใบไม้ล่วงหล่นลงมา เงาร่างหนากระโดดเข้าไปในห้องหนังสือ ทำให้เชิงเทียนพลันวูบไหวเล็กน้อย ฉู่เจิ้งยกมือขึ้นประสานแล้วโค้งคำนับ
“ถวายพระพรรัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ” ฉู่เจิ้งไม่คิดว่า รัชทายาทจะเข้ามาหาเขาในยามวิกาลเยี่ยงนี้
“ไม่ต้องมีพิธีกับข้านัก ท่านราชครู” รัชทายาท จีเฉวียนมองราชครูฉู่ ที่เป็นอาจารย์ของเขา จีเฉวียนในชุดสีดำ
“ข้ามาในคืนนี้ เพราะมีเรื่องอยากให้ท่านช่วย เสด็จพ่อต้องการให้ รุ่ยอ๋องแต่งงานกับบุตรสาวเจ้า แน่นอนว่ามิใช่ฉู่ชิงชิง เพราะฉู่ชิงชิงนางคือคู่หมั้นข้า ข้าได้ยินมาว่าทานเพิ่งไปรับบุตรสาวจากบ้านนอกมา ท่านรู้หรือไม่ว่า รุ่ยอ๋องฆ่าไม่ตาย ตอนนี้ได้กลับมาแล้ว หลังจากหายตัวไปนานนับเดือน ข้าหวังว่าราชครูจะช่วยข้า ข้าต้องการตราพยัคฆ์ของกองทัพทหาร ถึงแม้ข้าจะเป็นรัชทายาท แต่อำนาจทหารอยู่ในมือรุ่ยอ๋องจะมีประโยชน์อันใด”
ฉู่หวงมองรัชทายาท ในอนาคตเขากับรัชทายาทต้องเป็นพ่อตากับลูกเขยกันนี่คือลูกเขยเต่าทองคำของเขา(ลูกเขยที่มีชื่อเสียง) ทำไมเขาจะไม่ช่วยรัชทายาทเล่า อีกอย่างบุตรสาวคนโตที่เขาภาคภูมิใจ นางจะต้องนั่งตำแหน่งฮองเฮาของแผ่นดิน
“ข้าน้อยจะทำตามรับสั่งท่านขอรับ ให้นางไปหาตราพยัคฆ์มาให้ได้” รัชทายาทได้ยินคำตอบที่พอใจจากพ่อตา มุมปากแสยะยิ้มอย่างพอใจ ไม่นานนักร่างหนาหายไปทางหน้าต่าง สำหรับเขาแล้ว ฉู่หยีหนิงไม่มีประโยชน์อันใด ถึงแม้นางจะใช่บุตรสาวของเขาหรือไม่ เขาต้องการใช้ประโยชน์จากนางเพื่อให้บุตรสาวอันเป็นที่รักของเขานั่งตำแหน่งฮองเฮาในอนาคตอย่างไม่สั่นคลอน
วันต่อมาแลงแดดส่องลงมาอย่างเจิดจรัส ฉู่หยีหนิงได้ตื่นแต่เช้าเพื่อมาเรียนมารยาท รอคนที่ท่านย่าหามาให้มาสอนนาง หญิงสาวนั่งในเรือนตั้งหน้าตั้งตารอ เห็นแม่นมหม่าบอกว่าแม่นมสวีเป็นคนมาจากวังหลวง คนของไทเฮาโดยเฉพาะ ในอดีตฮูหยินผู้เฒ่าฉู่กับเยียนไทเฮาเป็นสหายกัน กระนั้นเรื่องที่ฮูหยินผู้เฒ่าฉู่ ขอคนสนิทของไทเฮามาสอนมารยามหลานสาวที่จวนจึงเป็นเรื่องง่ายราวกับปลอกกล้วย เมื่อเรื่องทราบไปถึงเรือนอื่น ๆ ทำให้คุณหนูใหญ่และคุณหนูสามพากันอิจฉา
“ท่านแม่ข้าไม่ยอม นางบ้านนอกถือสิทธิ์อะไร ได้แม่นมสวีในวังหลวงมาสอนมารยาทงาม แล้วพวกข้าเล่า ท่านย่าลำเอียงชัด ๆ” ฉู่ชิงชิงนึกอิจฉาฉู่หยีหนิง และนึกชังท่านย่าที่ลำเอียง
“ท่านป้า ท่านต้องให้แม่นมคนนั้นสอนพวกข้าด้วยนะเจ้าคะ” ฉู่หงอิงไม่ยอม อย่างไรนางก็อยากจะเรียนรู้มารยาทงามเพิ่มเติมถึงแม้พวกนางจะเรียนมาแล้วก็ตาม ในตอนที่พวกนางเรียนได้แค่อาจารย์ธรรมดาสอน มิใช่คนที่มาจากวังหลวงเสียหน่อย
ฮูหยินใหญ่ในใจนึกชังแม่สามีไม่น้อย ช่างลำเอียงเสียจริง ที่ให้นังบ้านนอกนั่น มันเรียนมารยาทกับคนในวังหลวง
“เอาล่ะ ข้าจะขอท่านย่า ของพวกเจ้าเอง”
“ขอบคุณท่านแม่”
“ขอบคุณท่านป้า”
เรือนสกาวใจในยามนี้ เจ้าของเรือนพลันเรียนปักผ้ากับแม่นมสวี วันแรกของการเรียน แม่นมสวีคิดว่า สตรีควรจะเรียนปักผ้าก่อน จึงจะให้เรียนมารยาทอันดับท้าย ๆ หญิงสาวมองพัดที่นางปักเป็นรูปนกยวนยาง ที่คู่กันอย่างงดงาม แม่นมสวียิ้มอย่างพอใจ ดูท่าคุณหนูรองช่างเป็นคนมีพรสวรรค์ยิ่งนัก อีกทั้งใบหน้ายังงดงาม แม้ไร้เครื่องประทินโฉม นางเพิ่งจะกลับมาที่จวนหลังจากถูกขับไล่สิบห้าปีเต็ม ข้อกล่าวหาที่ว่ามิใช่บุตรท่านราชครู คงจะไม่ใช่ความจริงเสียแล้ว ใบหน้าท่านราชครูทับซ้อนที่ใบหน้านางขนาดนั้นจะเถียงได้อย่างไร
เมื่อยามใกล้จะพลบค่ำแม่นมสวีจึงได้ขอตัวกลับวังหลวง ฉู่หยีหนิงพร้อมสาวใช้ทั้งสองคนไปส่งแม่นมสวีที่หน้าจวน จากนั้นพวกนางก็พลันเดินกลับมาที่เรือน
“คุณหนูรอง ฮูหยินผู้เฒ่าเชิญท่านไปที่ห้องโถงเจ้าค่ะ” สาวใช้เรือนใหญ่มารายงานนาง กระนั้นจึงมุ่งไปที่เรือนใหญ่แทน
“ท่านยาย” เมื่อนางเข้าในเรือนใหญ่เห็นฮูหยินผู้เฒ่าจิบชาอย่างสบายใจ อีกทั้งมี คุณหนูใหญ่ คุณหนูสาม คุณหนูสี่ ฮูหยินใหญ่นั่งเพียบพร้อมราวกับรอนางอย่างนั้นล่ะ
“หนิงเอ๋อร์ นั่งสิ” ฮูหยินผู้เฒ่าฉู่เชิญหลานสาวนั่งลง
ฉู่หยีหนิงนั่งลงอย่างช้า ๆ
“วันพรุ่งนี้ พี่น้องของเจ้าจะเรียนมารยาทด้วย เจ้าต้องมาเรียนที่เรือนใหญ่ ข้าให้เจ้าเรียนกับคนในวังหลวงพวกนางอยากจะเรียนด้วย เจ้าคงมิว่าอันใดหรอกนะ”
นางจะว่าอันใดได้เล่า
“เจ้าค่ะ หลานเข้าใจแล้ว”
“เอาล่ะ พวกเจ้าก็สบายใจได้ วันพรุ่งก็มาเรียนที่นี้แล้วกัน” ฮูหยินผู้เฒ่าฉู่ ปวดหัวเหลือเกินกับสตรีพวกนี้
“ฮูหยินมีราชโองการมาเจ้าค่ะ” สาวใช้เข้ามารายงาน ทั่วทั้งห้องต่างแตกตื่น ราชโองการอะไรจะมาช่วงพลบค่ำเล่า หญิงสาวทุกคนต่างรีบไปที่หน้าจวนฉู่ ฉู่หยีหนิงไม่รู้ว่าราชโองการอันใด นางจึงสาวเท้าเดินตามหลังคนเหล่านั้น
ขันทีสวมชุดสีน้ำเงินปรายตามองคนสกุลฉู่มาครบกันหมดทุกคนรึยัง ฉู่เจิ้งเพิ่งกลับมาจากวังหลวง ไม่คิดว่าคนของฝ่าบาทจะมาไวถึงเพียงนี้