บทที่ 4
หลังจากที่พ่อบ้านพาหมอหลวงกู้เข้ามาตรวจดูอาการของเพ่ยเพ่ยแล้ว หมอหลวงกู้ก็ต้องประหลาดใจที่แผลของพระชายานั้นถูกจัดการไปเรียบร้อยแล้ว
แผลถูกพันไว้อย่างดีจนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นฝีมือของคนทั่วไปที่ไม่ใช่หมอ หรือผู้ช่วยหมอ เขาจึงทำเพียงเขียนใบสั่งยาให้ชิงชิงและยังจัดยาทาแผลบางส่วนเอาไว้ให้นางด้วย
เหลยคังเฝ้ามองดูหมอหลวงกู้อยู่ไม่ห่าง เพราะเขาไม่ค่อยไว้วางใจหมอหลวงท่านนี้สักเท่าไหร่ หลังจากที่เขาได้เห็นแม่นางฝูส่งสัญญาณบางอย่างให้กับหมอหลวงกู้
หมอหลวงกู้เองก็รู้ว่าเขาไม่ควรทำอะไรพระชายาในตอนนี้ เพราะมีองครักษ์ของท่านอ๋องคอยตามติด เขาจึงทำได้เพียงจับชีพจรแล้วเขียนใบสั่งยาส่งๆ ให้เท่านั้น
หลังจากที่ทุกคนออกไปแล้ว เพ่ยเพ่ยก็สั่งให้ชิงชิงนำยาที่เธอสั่งให้ไปต้มนั้นเข้ามา เธอกลั้นใจดื่มรวดเดียวจนหมด แม้รสชาติจะขมปี๋แต่ก็คงจะดีกว่าต้องตายรอบสองแน่
เพ่ยเพ่ยพลิกดูใบสั่งยาของหมอหลวงกู้ไปมา พร้อมกับส่ายหน้า
นี่มันยารักษาอาการฟกช้ำทั่วไป ข้าคงจะหายในเร็ววันนี้หรอก
แผลขนาดนี้ ยาแก้ไข้ก็ไม่สั่ง ยาแก้แผลอักเสบก็ไม่มี เจ้าอ๋องนั้นส่งหมอแบบนี้มารักษานางเขาคิดจะซ้ำเติมนางอีกอย่างนั้นหรอ เพ่ยเพ่ยได้แต่นึกเจ็บใจแทนหยางเพ่ยเพ่ย ก่อนจะยื่นใบสั่งยานั้นคืนให้กับชิงชิง
"เอาไปทิ้งเสีย ต้มยาตามที่ข้าสั่งเท่านั้นนะชิงชิง"
"เจ้าค่ะคุณหนู"
"ชิงชิงข้าจำได้ว่าเรามีโสมชั้นดีติดมากับสินเดิมของข้าด้วยไม่ใช่รึ เจ้าจงนำไปต้มไว้สำหรับบำรุงกำลังให้ข้า ข้าจำเป็นต้องนำออกมาใช้เสียแล้ว"
"เจ้าค่ะคุณหนู" ชิงชิงพยักหน้ารับคำสั่งจากผู้เป็นนาย
"ข้าอยากพักผ่อนแล้ว ถ้าเจ้าทำอะไรเรียบร้อยแล้วก็ไปพักผ่อนเถอะ"
"แต่เจ้าต้องจำเอาไว้ล่ะ หากข้าไข้ขึ้นเพราะพิษบาดแผลเจ้าก็อย่าลืมต้มยาตามที่ข้าสั่ง เช็ดตัวให้ข้า คอยดูร่างกายข้าอย่าให้ตัวข้าร้อนจนเกินไป เข้าใจไหม"
เพ่ยเพ่ยบอกวิธีการดูแลรักษาแผลและอาการไข้เบื้องต้น เทียบยาที่ต้องใช้โดยละเอียด รวมถึงรายการอาหารการกินของคนป่วยให้แก่ชิงชิง ถือเป็นโชคดีที่ชิงชิงพอจะอ่านออกเขียนได้อยู่บ้าง
"ชิงชิง หากข้าสลบไปหรือไม่รู้สึกตัวเพราะพิษไข้ เวลาที่เจ้าอยู่กับข้าสองคนก็จงลงกลอนประตูเสียให้เรียบร้อย อย่าให้ใครเข้ามารบกวนหรือฉวยโอกาสยามที่ข้าอ่อนแอได้ อย่าทิ้งข้าไว้คนเดียว สิ่งใดที่ทำในห้องนี้ได้ก็จงทำที่นี่ ย้ายของของเจ้ามานอนกับข้าเสียในห้องนี้"
เพ่ยเพ่ยสั่งชิงชิงท่าท่างเอาจริงเอาจัง ด้วยความที่นางเป็นทหารมาก่อนในชาติที่แล้ว เพ่ยเพ่ยจึงมักจะระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ อีกอย่างนางไม่รู้ว่าเจ้าอ๋องโหดนั่นจะบ้าขึ้นมาอีกเมื่อใด กันไว้ก่อนดีกว่า
"และไม่ว่าท่านอ๋องจะทำร้ายอะไรข้าเจ้าก็อย่าได้เข้ามาห้าม คอยมองดูอยู่ห่างๆ ก็พอ หากเจ้าคิดว่าสถานการณ์มันเริ่มเลวร้ายแล้วจงรีบหาทางหลบออกไปจากที่นี่ เจ้าต้องกลับไปที่จวนสกุลหยางแจ้งเรื่องราวแก่บิดาและพี่ชายของข้า เจ้าเข้าใจหรือไม่"
"เข้าใจเจ้าค่ะคุณหนู ข้าจะทำตามที่ท่านสั่งเจ้าค่ะ"
ชิงชิงรับคำสั่งด้วยความประหลาดใจ
นี่คุณหนูกลายเป็นคนรอบคอบเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน เหตุการณ์ร้ายเพียงชั่วข้ามคืนทำให้คุณหนูเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ แต่ช่างเถอะ คุณหนูเปลี่ยนไปเช่นนี้ก็ดี จะได้ไม่มีใครมาทำร้ายคุณหนูของนางได้อีก ชิงชิงยิ้มให้กับคุณหนูของนาง
"คุณหนูพักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ"
หลังจากส่งเพ่ยเพ่ยเข้านอนแล้ว ชิงชิงก็ย้ายของเข้ามาและก็เป็นดังที่เพ่ยเพ่ยคาดเอาไว้ นางไข้ขึ้นสูงอยู่ถึงสามวันสามคืน
"เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะคุณหนู วันนี้ท่านไม่มีไข้แล้ว ข้าคอยเช็ดตัวตามที่ท่านสั่งตลอด แล้วข้าก็ต้มยาตามที่คุณหนูสั่งแล้วนะเจ้าคะ คุณหนูทานข้าวก่อน เสร็จแล้วจะได้ทานยาเลยเจ้าค่ะ"
ชิงชิงเอ่ยอย่างกระตือรือร้น นางดีใจเหลือเกินที่วันนี้เพ่ยเพ่ยฟื้นขึ้นมาเสียที แถมตัวก็ไม่ร้อนเหมือนเดิมแล้ว สีหน้าของนางเริ่มมีเลือดฝาดปรากฏขึ้นให้เห็นหลังจากที่นางดูซีดเซียวอยู่หลายวัน
ชิงชิงช่วยประคองเพ่ยเพ่ยให้ลุกขึ้นนั่งพิงที่หัวเตียง
"ได้ ขอบใจเจ้ามากนะชิงชิง หากไม่มีเจ้าข้าคงแย่"
"คุณหนูอย่ากล่าวเช่นนี้เลยเจ้าค่ะ เป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว คุณหนูทานข้าวต้มหน่อยนะเจ้าคะ เดี๋ยวข้าป้อนให้เจ้าค่ะ"
"ได้"
เพ่ยเพ่ยรับข้าวต้มเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย เธอได้แต่คิดว่าเธอต้องรีบหายให้ไว จะได้วางแผนว่าควรจะใช้ชีวิตของตัวเองอย่างไรต่อไปดี เธอต้องรักษาชีวิตนี้เอาไว้ให้ดีที่สุด ก็เธอยังไม่ได้อยากจะตายในเร็ววันนี้นี่ เธออุตส่าห์ได้มีโอกาสย้อนมาในยุคอดีตแบบนี้ ช่างเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อนัก
เธออยากจะเปิดโลกทัศน์และท่องเที่ยวไปให้ทั่ว เพราะเธอไม่มีโอกาสได้ทำเรื่องเหล่านี้เลยในชาติที่แล้ว เธอมุ่งมั่นไปกับการทำงานจนไม่ได้ใช้ชีวิตส่วนตัวอย่างที่ควรจะเป็น เธอจะใช้โอกาสนี้เติมเต็มสิ่งที่เธอขาดไปในชาติก่อน
"ชิงชิง ระหว่างที่ข้าพักฟื้นอยู่ มีใครเข้ามารบกวนบ้างหรือไม่"
"ไม่มีใครมาเจ้าค่ะคุณหนู มีเพียงอิงหลัวสาวใช้ของแม่นางฝูเหวินที่เห็นว่าเดินผ่านไปผ่านมาแถวนี้บ่อยๆ เจ้าค่ะ คงจะมาสืบข่าว"
"ใช่สิ ข้าลืมไปเลยชิงชิง เจ้าช่วยเล่าให้ข้าฟังทีว่าแม่นางฝูเหวินเป็นอะไรไป ข้าไปทำอะไรให้นาง ทำไมท่านอ๋องถึงได้มากล่าวหาข้าว่าข้าเป็นตัวต้นเหตุให้นางเป็นอะไรสักอย่าง ข้าฟังแล้วสับสนยิ่งนัก"
เพ่ยเพ่ยคิดแล้วยังแค้นอ๋องหมิงไม่หาย ชิงชิงก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เพ่ยเพ่ยฟังอย่างละเอียด
"แสดงว่าตอนนี้นางไม่เป็นอะไรแล้วใช่หรือไม่"
"ไม่เป็นอันใดแล้วเจ้าค่ะ มีท่านอ๋องคอยดูแลไม่ห่างกายถึงเพียงนั้น"
ชิงชิงออกอาการหงุดหงิดแทนเจ้านายของตน มีอย่างที่ไหนกัน ชายาของตัวเองนอนป่วยอยู่ทางนี้กลับไม่เหลียวแลสักนิด จะส่งคนมาถามไถ่อาการก็ยังไม่มี
คุณหนูของนางคงน้อยใจเป็นแน่ ชิงชิงทำหน้าเศร้า แต่สิ่งที่เพ่ยเพ่ยคิดนั้นกลับสวนทางกับนาง
ไอ้เจ้าอ๋องจอมโหดนั่นทำเกินไปแล้ว หยางเพ่ยเพ่ยนางไม่ได้ทำอะไรร้ายแรงสักหน่อย
นางก็แค่วางยาปลุกกำหนัด แต่เขากลับมัดมือมัดเท้านางไว้ เมื่อพิษไม่ได้รับการแก้นางก็คงจะธาตุไฟเข้าแทรกจนตาย แถมนางคงจะดิ้นทุรนทุรายจนเกิดแผลที่มือและเท้า แผลเหวอะหวะจนน่ากลัว นางคงจะทนพิษบาดแผลไม่ไหวด้วยกระมัง และจากที่ฟังจากชิงชิงแล้วดูเหมือนฝูเหวินจะแสร้งกระโดดลงไปในน้ำเองเสียด้วยซ้ำ
แม่นางหยางไม่น่ามาหลงรักผู้ชายแบบนี้เลยจริงๆ ให้ตายเถอะ
เพ่ยเพ่ยยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห
"แม่นางฝูไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว หลังจากนี้ก็หวังว่าจะอยู่ใครอยู่มัน อ๋องหมิงเองก็เช่นกัน อย่ามายุ่งกับข้าอีกก็พอ!"
เพ่ยเพ่ยกัดฟันกรอด สายตาบ่งบอกว่าเธอไม่สบอารมณ์สุดๆ
"คุณหนูทำไมกล่าวเช่นนั้นล่ะเจ้าคะ ตอนนี้ท่านเป็นพระชายาเอกของท่านอ๋องนะเพคะ แม่นางฝูนั่นนับเป็นอะไร"
ชิงชิงรู้สึกสับสนในใจ
ทำไมคุณหนูพูดจาราวกับว่าไม่ได้รักท่านอ๋องแล้ว ทั้งๆ ที่คุณหนูแสดงออกมาตลอดว่าหลงรักท่านอ๋องมากถึงเพียงนั้น
"นางจะเป็นอะไรก็เรื่องของนางเถิด ข้าไม่ต้องการแก่งแย่งชิงดีอะไรกับใครทั้งนั้น ข้าแค่อยากอยู่อย่างสงบ"
เพ่ยเพ่ยเอ่ยเสียงเรียบ ท่าทางของของนางดูไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับเรื่องอะไรเลยจริงๆ จนชิงชิงนึกแปลกใจ
"คุณหนูไม่ใช่ว่าท่านรักท่านอ๋องมากหรอกหรือเจ้าคะ ทำไมท่านพูดเหมือนไร้ซึ่งเยื่อใยต่อท่านอ๋องแล้วอย่างนั้น"
"ชิงชิง เจ้าไม่เห็นที่เขาทำกับข้าหรือ รักได้ก็เลิกรักได้เหมือนกันเจ้าไม่รู้หรือ ข้าก็มิใช่คนโง่งม ท่านอ๋องแสดงออกถึงขนาดนั้นแล้วข้ายังจะคิดหวังอะไรได้อีก"
"คนเราน่ะเจ็บแล้วก็ควรจำ เจ้ารู้หรือไม่"
-ตำหนักใหญ่-
"เจ้าแน่ใจหรือว่านางเอ่ยเช่นนั้น"
อ๋องหมิงเอ่ยเสียงเรียบ คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากัน
นี่นางจะมาไม้ไหนอีก แต่หากว่าเป็นเช่นนั้นได้จริงๆ ก็ดี
"พะย่ะค่ะท่านอ๋อง พระชายาเอ่ยเช่นนั้นจริงๆ อีกทั้งพวกนางยังเก็บตัวเงียบ ทั้งพระชายาและสาวรับใช้พะย่ะค่ะ" องครักษ์เงาเอ่ยตอบ
"หึ…เป็นเช่นนั้นได้ก็ดี ตามดูนางต่อไป อย่าให้พวกนางรู้ตัว เจ้าออกไปได้"
"พะย่ะค่ะ" องครักษ์เงาหายตัวไปอย่างรวดเร็วและไร้ร่องรอย