บทที่ 3 เรื่องในอดีต 1
เช้าวันต่อมานางจึงได้รู้จากปากของอาเจินว่านางได้สารภาพทุกอย่างแล้วนั่นเป็นเพราะนางเมาจนขาดสติ
เกาเฟยอวี่จึงได้จับนางขังเอาไว้ในเรือนของตน เขาบอกว่าจะจัดการเรื่องนี้เอง
แต่แล้วนางก็ได้รู้ว่าการจัดการของเขานั้นก็คือ การที่เขาจะพาคนมาจับนางถึงจวนและพานางไปยังลานประหาร
ทว่าก่อนวันที่ทางการจะส่งทหารมาจับนางและครอบครัว
ในคืนนั้นกลับมีคนของบิดามาพานางหนี คนผู้นั้นเก่งกาจยังสามารถหลบหลีกทหารเวรยามนั้นได้อย่างรวดเร็วและพานางไปหาครอบครัวเพื่อเร่งออกเดินทางไปนอกเมืองห้วยโจว
ในวันที่นางออกนอกเมืองนั้น นางร้องไห้แทบเป็นสายเลือด ทั้งยังทบทวนความผิดของตนเอง รู้สึกว่าที่ลงทุนมาทั้งหมดล้วนสูญเปล่า นอกจากจะไม่ได้รับสิ่งใดแล้วนางยังเสียทุกสิ่งไปทั้งหมดแล้ว
ซูลี่จูหนีออกมานอกเมืองได้สำเร็จแต่ไม่พบครอบครัวของตนเอง คนผู้นั้นบอกว่ายามนี้ทหารติดตามไม่ลดละ ท่านพ่อของนางจึงพาครอบครัวล่วงหน้าไปก่อนแล้ว
คนผู้นั้นพานางมาซ่อนตัวที่หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งพร้อมกับสาวใช้นามอาเจิน จากนั้นเขาก็จากไปทิ้งนางและบ่าวรับใช้เอาไว้เผชิญชะตากรรมเพียงสองคน
“คุณหนูข้าจะไปติดตามหานายท่าน ท่านอยู่ที่นี่อย่าไปที่ใดรอข้านะขอรับ”
“เข้าใจแล้ว เจ้าระวังตัวด้วยนะ”
“ขอรับ”
อาเจินกับนางหลบซ่อนกันอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนั้นนานถึงครึ่งปีโดยที่ไม่ได้ติดต่อกับครอบครัวของนางอีก และคนผู้นั้นก็ไม่โผล่หน้ามาแม้แต่ครั้งเดียว
ซูลี่จูคิดว่าบางทีเขาอาจจะตายไปแล้ว
แต่นางไม่กล้าหนีไปที่ใดด้วยความหวังว่าเขาจะติดต่อมา และพานางไปหาครอบครัวในที่สุด นางเฝ้ารอมานานหลายเดือนแต่คนที่มากลับเป็นทหารที่สืบเสาะข่าวจนพบว่านางอยู่ที่นี่
ในวันที่ทหารโผล่มานางและอาเจินจึงได้หลบหนีอีกครั้ง
ซูลี่จูได้ทำร้ายนายทหารผู้หนึ่งจนเขาหัวแตก ทหารผู้นั้นบันดาลโทสะจึงคิดสังหารนาง
เพื่อปกป้องซูลี่จูอาเจินได้กอดนางเอาไว้และยอมรับดาบที่ฟันลงมาแทนซูลี่จู
คำสุดท้ายที่อาเจินพูดก็คือ
“คุณหนูหนีไปเจ้าค่ะ”
“อาเจิน ไม่นะอาเจิน เจ้าอย่าตายนะ อาเจิน”
สาวใช้ที่ภักดีตายไปต่อหน้า เลือดไหลนองท่วมร่างของนางที่กอดอาเจินเอาไว้ ซูลี่จูเข่าอ่อนร่างกายสั่นสะท้าน นางไม่อาจหนีไปที่ใดได้อีกแล้ว
ทุกคนต้องตายเพราะนางเป็นต้นเหตุ!
ในที่สุดซูลี่จูก็ถูกจับกลับมาที่เมืองห้วยโจวโดยคนผู้นั้นมาจับนางด้วยตนเอง
ผู้ตรวจการเฉิงสือที่ไล่ล่านางมาตลอดหลายเดือน นางเห็นแววตาของเขา นางไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับเขามาก่อน แต่ดูเหมือนเขาจะชิงชังนางยิ่งกว่าสิ่งใด
เมื่อมาถึงห้วยโจว นางก็ได้รู้ว่าบิดาของอันผิงจือตายแล้ว ส่วนอันผิงจือนั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นเช่นใด
นางไม่ได้พบทั้งอันผิงจือและเกาเฟยอวี่ นางได้พบครอบครัวแต่กลับไม่ได้พูดคุยกัน ทุกคนล้วนหนีไม่พ้นต่างถูกจับมัดมือมัดปากไม่เว้นแม้กระทั่งน้องฝาแฝดของนางที่ยังเป็นเพียงเด็กน้อยเท่านั้น
บิดาของนาง มารดาของนางมองนางด้วยสายตาเศร้าหมอง น้ำตาของคนชราทั้งคู่ไหลออกมาเป็นสาย คล้ายจะบอกนางว่า
ขอโทษ