บทที่ 2 จุดเริ่มต้น
สกุลอันและสกุลซูนับว่าเป็นคู่แข่งทางการค้าแห่งเมืองห้วยโจว
บิดาของซูลี่จูโลภในเงินทองและกิจการของสกุลอันส่วนตัวนางก็โลภในตัวของเกาเฟยอวี่ ต้องการครอบครองเขาเพียงผู้เดียว
นางริษยาอันผิงจือและได้ร่วมมือจัดฉากใส่ร้ายสกุลอันกับบิดาของนาง หากทำเรื่องนี้สำเร็จสกุลอันต้องถูกจับเข้าคุก อันผิงจือก็ต้องถูกร่างแหและหายไปตลอดกาล
ซูลี่จูและอันผิงจือเป็นเด็กสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน รู้จักกันมาตั้งแต่เยาว์วัย พวกนางเป็นเพื่อนร่วมสำนักศึกษา และเคยสนิทกันเป็นอย่างยิ่ง นับว่าเคยเป็นสหายรักก็ว่าได้
แต่แล้วเรื่องราวก็พลิกผัน เมื่อวันที่เกาเฟยอวี่มาที่ห้วยโจว พวกนางทั้งสองในฐานะบุตรสาวของพ่อค้าคนสำคัญย่อมได้เข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับเจ้าเมืองคนใหม่
เพียงซูลี่จูได้พบหน้าบุรุษที่สง่างามเช่นเกาเฟยอวี่ นางก็บังเกิดอาการคลั่งไคล้และตกหลุมรักเขาทันใด
ในวันนั้นพวกนางสองคนตกน้ำเพราะเกิดอุบัติเหตุเกาเฟยอวี่กระโดดลงไปช่วยเพียงอันผิงจือส่วนซูลี่จูถูกผู้อื่นช่วยขึ้นมา
ตั้งแต่นั้นเกาเฟยอวี่ก็มองเพียงอันผิงจือเพียงผู้เดียว ความบาดหมางจึงเกิดขึ้นในใจของซูลี่จู นางเกลียดอันผิงจือเข้ากระดูกดำ
หลังจากนั้นเกาเฟยอวี่ก็ไปเยี่ยมอันผิงจือ ออกปากขอเป็นสหายกับนางและยังส่งของบำรุงร่างกายไปให้อันผิงจือมากมาย
ผู้คนในห้วยโจวล้วนเข้าใจได้โดยพลัน เกาเฟยอวี่คงมีใจให้อันผิงจือแล้ว
อันผิงจือเองก็ตกหลุมรักเขาเช่นกัน ที่ผ่านมาซูลี่จูต้องอดทนฟังเรื่องที่ทำให้นางริษยา เกาเฟยอวี่ดีต่ออันผิงจือมากเพียงใด ซูลี่จูก็เกลียดอันผิงจือมากขึ้นเท่านั้น
อันผิงจือที่ดีแต่โอ้อวดถึงความรักใคร่ของเกาเฟยอวี่ให้นางฟัง ทำให้นางริษยาจนแทบคลั่ง
เมืองห้วยโจวนับเป็นเมืองที่มีเหมืองเกลือใหญ่ที่สุดในแคว้น ก่อนหน้านี้ทางการเป็นผู้ดูแลเหมืองเกลือด้วยตนเอง กระทั่งต่อมาจึงได้คิดมอบสัมปทานให้กับพ่อค้าที่เหมาะสมคอยดูแลและส่งเกลือชั้นดีเข้าวังหลวง
การที่ได้รับสัมปทานนั้นย่อมเกี่ยวข้องกับความสนิทสนมที่เกาเฟยอวี่มอบให้กับอันผิงจือ และเป็นจริงดังคาดในที่สุดการต่อสู้แย่งสัมปทานก็สิ้นสุดลง เมื่อฝ่าบาทมีหนังสือมอบสัมปทานเกลือให้สกุลอันดูแล
ซูลี่จูอิจฉาริษยา ซูเผยบิดาของซูลี่จูจึงละโมบอยากได้สัมปทานนี้แทน เขาจึงได้วางแผนให้โจรขโมยเกลือออกจากคลังหลวงและหมายใส่ร้ายสกุลอันว่าเป็นผู้ที่ลงมือ
ในยามนั้นอันผิงจือคอยดูแลเรื่องรับซื้อเกลือจากพ่อค้ารายเล็กรายน้อย จู่ ๆ อันผิงจือก็บอกว่าบิดาของนางให้นางรวบรวมซื้อเกลือจากพ่อค้ารายเล็ก ๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จึงเข้าแผนการของซูเผยบิดาของซูลี่จู
บิดาของซูลี่จูได้จัดหาพ่อค้าเกลือตัวปลอมมาลวงอันผิงจือ ส่วนซูลี่จูนั้นได้วางแผนให้พ่อค้าเกลือคนนั้นบังเอิญได้ช่วยเหลืออันผิงจือจนทำให้พวกเขารู้จักกันในที่สุด
ในเวลาต่อมา ซูลี่จูก็วางแผนให้อันผิงจือได้พบกับพ่อค้าเกลือผู้หนึ่งและอันผิงจือก็ตกหลุมพราง
หลังจากสกุลอันส่งมอบเกลือเข้าวังหลวงแล้ว เจ้าหน้าที่กลับตรวจพบว่าเกลือที่ได้รับมาครานี้ มีเกลือเก่าจากคลังหลวงปะปนมาด้วย
เมื่อได้โอกาส บิดาของซูลี่จูก็ได้ส่งหลักฐานการซื้อขายเกลือเถื่อนให้กับทางการส่งผลให้สกุลอันได้รับความลำบาก กลายเป็นผู้ต้องหาปล้นคลังหลวงแล้วนำมาเวียนขายให้ทางการอีกรอบหนึ่ง เพื่อกินกำไรการค้าอันมหาศาล
ก่อนที่อันผิงจือจะถูกจับได้เกิดเรื่องลอบสังหารขึ้น ซึ่งนางก็ไม่รู้ว่าเป็นผู้ใด วันนั้นเกาเฟยอวี่ได้รับบาดเจ็บเพราะพุ่งตัวเข้าไปรับดาบแทนอันผิงจือ ยิ่งทำให้ซูลี่จูคับแค้นใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ
หลังจากอันเหลียนบิดาของอันผิงจือถูกจับ อันผิงจือก็ทุกข์ทรมานเป็นอย่างยิ่ง
ยามนั้นเกาเฟยอวี่ไม่อาจนิ่งดูดายได้ เขาปกป้องสกุลอันสุดชีวิตและติดตามสืบเรื่องนี้ด้วยตนเอง
ฝ่าบาทส่งผู้ตรวจการจากเมืองหลวงคนหนึ่งมาร่วมตรวจสอบ ในเวลาต่อมาพวกเขาก็พบว่าเป็นสกุลซูที่ใส่ร้ายสกุลอัน พวกเขาตามหาหลักฐานเงียบเชียบไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าบัดนี้สกุลซูกำลังล่มสลายแล้ว
นางคิดว่าเมื่อสิ้นขวากหนามอย่างอันผิงจือแล้ว เกาเฟยอวี่จะหันมาชอบนาง ทว่ากลับไม่เป็นเช่นนั้น นับวันยิ่งเลวร้ายเมื่อเกาเฟยอวี่ไม่เหลียวแลนางเลยแม้แต่น้อย
เมื่อสามีไม่ยอมกลับบ้าน ทำให้อันผิงจือบังเกิดอารมณ์คลุ้มคลั่งเหมือนคนบ้า บ่าวไพร่ในจวนล้วนนินทาว่าร้าย ซูลี่จูจึงมักมีปัญหากับบ่าวไพร่อยู่เสมอ
หลายคราที่นางจับได้ว่าผู้ใดนินทา นางก็จับโบยไม่ยั้งมือ ทั้งยังขับไล่ออกจากจวน
และหลายครั้งเพียงนางคิดว่าคนพวกนั้นกำลังนินทานาง แม้ไม่มีหลักฐานนางก็ลงโทษอย่างรุนแรงไม่ต่างกัน
ชื่อเสียงของนางเลื่องลือกระฉ่อน สตรีใจบาปที่สามีไม่ต้องการจึงดังไปทั่วเมืองห้วยโจว
ซูลี่จูหัวใจไม่สงบด้วยตนเองมีความผิดติดตัว การสืบหาตัวคนร้ายที่แท้จริงยิ่งทำให้ซูลี่จูอยู่ในจวนด้วยความหวาดระแวง ในวันหนึ่งนางจึงดื่มสุราจนเมามาย กระทั่งเกาเฟยอวี่กลับมาที่จวนและได้พบกับนางที่กำลังรออยู่
“นายท่าน ข้าทนไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ”
ซูลี่จูโผเข้าไปกอดเขาแน่น ทั้งยังร้องไห้สารภาพความผิดที่ตนเองก่อโดยไร้สติ เกาเฟยอวี่กลับฟังอย่างนิ่งเฉยทั้งเอ่ยว่า
“หลักฐานพร้อมแล้ว ข้าจะจัดการเอง เจ้าอยู่เฉย ๆ เถิด คนผิดต้องได้รับการลงโทษไม่อาจละเว้น”
“นายท่าน ท่านจะจับข้าหรือ ท่านจะฆ่าข้าหรือเจ้าคะ ท่านไยใจร้ายยิ่ง ที่ข้าทำเช่นนี้ก็เพราะรักท่าน”
เขามองนางก่อนจะเอ่ยว่า
“คนรักกันไม่มีใครทำกันแบบนี้หรอก ซูลี่จูเจ้ายังไม่สำนึกถึงความผิดอีกหรือ”
“ข้าไม่ได้ทำผิด ไม่ข้าไม่ได้ทำอะไร เป็นนาง เป็นนางที่ทำให้พวกเราตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ เป็นอันผิงจือที่สมควรตาย”
ซูลี่จูถึงขั้นตบตีเขา ที่เขาไม่เห็นแก่ความเป็นสามีภรรยา แต่เขาก็เอาแต่ทำสีหน้าราบเรียบและปล่อยให้นางตีเขาจนพอใจ กระทั่งในที่สุดนางก็ยกสุราขึ้นดื่มจนหมดไหและเมาหลับไปในที่สุด