ตอนที่ 2.1 ของขวัญ
ตอนที่ 2.1
ของขวัญ
"แม่คะ หนูกลับมาแล้วค่า" เสียงหวานใสดังมาจากทางหน้าประตูบ้านไม้ 2 ชั้น ทรงเก่าแต่ยังคงสะอาดสะอ้านทั้งภายในและนอกบ้าน
"อ้าวกลับมาแล้วหรอลูก ...เป็นยังไงบ้างวันนี้สอบโอเคไหม หื้ม?"
คนด้านในเดินออกมาจากในครัว ถือน้ำเย็นไว้ในมือ ขณะที่ยังถามคนตรงหน้าที่เพิ่งเดินเข้ามาในบ้านเมื่อครู่อย่างอบอุ่น
"ก็ทำได้เยอะพอสมควรค่ะแม่ อื้มม ...แต่ขวัญคิดว่าสอบเสร็จแล้ว ขวัญอยากจะพาแม่ไปเที่ยวฉลองที่ริมทะเลบ้าง แม่จะว่ายังไงคะ?" พูดไปกระดกน้ำเข้าปากไปด้วย
'ของขวัญ' หญิงสาววัย 22 ปี ดีกรีว่าที่เกียรตินิยมอันดับ 1 คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังอันดับ 1 ของประเทศ ทั้งรูปร่างหน้าตาทั้งการศึกษาและนิสัยดูจะเป็นใจให้เธอหมดทุกสิ่งอย่าง
...แต่ก็ยกเว้นเรื่องฐานะทางบ้านบวกกับหนี้สินตอนนี้ ที่นับวันดอกของมันยิ่งผลิบานขึ้นทุกวันๆ
ตั้งแต่พ่อเธอเสียไปตอนเด็กด้วยโรคมะเร็งร้าย เธอกับแม่ก็ไม่เหลือใครให้เป็นที่พึ่งพาอาศัย พ่อของของขวัญเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยเงินเดือนไม่มากนักแต่พอเลี้ยงดูครอบครัวได้
จนกระทั่งมีวาระเกือบได้เลื่อนตำแหน่ง แต่หลังจากนั้นทราบว่าตัวเองป่วยเป็นเร็งระยะสุดท้ายแล้ว ก็ได้ตัดสินใจลาออกจากงานมาพักฟื้นรักษาตัวได้ไม่นานก่อนจะสิ้นใจลง
เงินกองทุนข้าราชการหมดไปกับการรักษาตัวของพ่อเขาหมดแล้ว เงินก้อนสุดท้ายจากพ่อของเขาที่เก็บสะสมไว้ให้ของขวัญก็พอจะต่อลมหายใจได้ไม่มากนัก
หลังจากทำพิธีจัดการเผาศพพ่อของของขวัญได้ไม่นาน 'สายใจ' แม่ของของขวัญจึงตัดสินใจหอบลูกเข้าไปขอพึ่งใบบุญจากคุณท่านผู้เคยมีเมตตากับเธอตั้งแต่ที่เคยเข้าไปทำงานในคฤหาสน์ตระกูลพิทหิรัณย์กุลในครั้งแรก
ความหวังที่จะให้ลูกของเธอลืมตาอ้าปากได้ แต่แล้วชะตากรรมก็ทำให้สองแม่ลูกต้องระเหเร่ร่อนออกจากบ้านหลังนั้นอีกครั้งแบบไม่มีวันกลับไปที่นั่นได้อีกแล้ว อย่างไรซะสายใจเธอมั่นใจว่าลูกสาวของเธอก็ไม่ได้มีเจตนาจะทำให้คุณสุดาต้องกลายเป็นอัมพาตนอนไม่ได้สติแบบนั้น เธอเองก็ยังรักและเป็นห่วงคุณผู้หญิงไม่ต่างจากคนในบ้านหลังนั้นเลย
"อ่อ ได้สิจ้ะ แม่เองก็ไม่ได้ไปเที่ยวไหนมานานแล้ว แต่ที่ขวัญส่งรูปมาให้แม่ดูในแชทนี่ ค่าห้องมันจะไม่แพงมากไปหรอลูก?" สายใจถามลูกสาว เธอเข้าดีว่าลูกคงอยากจะมอบสิ่งดีๆในวันที่พิเศษหลังจากที่ลูกของเธอนั้นเพิ่งเรียนจบ
"ไม่แพงหรอกจ้ะแม่ อีกอย่างห้องนี้หนูก็ได้ส่วนลดมาตั้งเยอะเลยน้า" ของขวัญอธิบายให้สายใจฟังอย่างอารมณ์ดี
"อีกอย่างที่รีสอร์ทนั่นที่บ้านของเจษเค้าก็เป็นหุ้นส่วนอยู่ด้วยค่ะแม่ เจษเลยให้ส่วนลดมา"
"อ่ออ แบบนี้นี่เองเอางั้นก็ได้จ้ะ เฮ้ออ ...งั้นแม่ฝากขอบคุณเจษเค้าด้วยนะลูก"
สายใจโล่งอกไปเมื่อได้ยินเรื่องราวจากปากลูกสาวของตน 'เจษฎา' คือเพื่อนสนิทของของขวัญ ไปมาหาสู่เข้านอกออกในบ้านนี้บ่อยครั้ง
จนแม่ของของขวัญเองก็สึกใจสบายใจ หากได้มีเจษคอยอยู่เคียงข้างของขวัญ ในใจเธอก็แอบเชียร์อยู่ไม่น้อย หากได้ผู้ชายนิสัยดีอย่างเจษฎาจะมาเป็นลูกเขย ทว่าลูกสาวหัวรั้นคนนี้กลับใจแข็งไม่ยอมเปิดประตูให้เพื่อนชายนิสัยดีอย่างเจษฎาได้เลื่อนสถานะเป็นอย่างอื่นได้เลย
"งั้นหนูขอตัวขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะคะ พอดีวันนี้ยัยหวานกับเจษชวนไปฉลองด้วยกันกับเพื่อนที่คณะค่ะแม่"
ของขวัญกล่าวลาสายใจเสร็จก็รีบวิ่งแจ้นขึ้นบันไดไปด้านบน ด้วยความดีใจที่จะได้เรียนจบแล้ว เธอรอเวลานี้มานานมาก วันที่เธอจะได้เข้าสู่โหมดทำงานเต็มตัวสักที ในระหว่างเรียนนั้น ด้วยความที่ครอบครัวลำบากเธอจึงพยายามทำงานหาเงินช่วยแม่ตลอดไม่เคยบ่นเหนื่อย
พอหลังเลิกเรียนเธอก็จะไปทำงานพิเศษที่ร้านกาแฟตลอดจนตอนนี้เธอกำลังจะเรียนจบมหาลัยแล้ว เธอหวังว่าจะได้เป็นที่พึ่งของแม่ยามเหน็ดเหนื่อย
ยิ่งช่วงนี้เธอแอบเห็นสายใจไม่ค่อยสบายอยู่บ่อยครั้งจึงเป็นห่วงไม่อยากให้แม่ทำงานหนักอีกแล้ว เงินก้อนใหญ่ที่กู้มาซื้อบ้านไม้เก่าๆ หลังนี้กับค่าเรียนของเธอ เธอจะรับผิดชอบแทนผู้เป็นแม่เอง
(เธียรธาดา)
หลังจากที่สุดาแม่ของเขาล้มป่วยไปได้ไม่นาน พ่อของเขาก็ได้ส่งตัวเขาลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลพิทหิรัณย์กุลกลับเข้ามาบริหารธุรกิจต่อที่เมืองไทย ทันทีที่เขาเรียนจบปริญญาโทในทันที ทั้งที่ในตอนนั้นเธียรธาดาอายุยังน้องเองแท้ๆ แต่ทุกคนรอบข้างทั้งครอบครัวทั้งลูกน้องต่างก็รู้ดีว่าเธียรธาดาเป็นคนฉลาดตั้งแต่ยังเด็ก และรับแรงกดดันจากบิดาให้เรียนอย่างหนักมาโดยตลอด
ทั้งที่ตัวเองอายุยังน้อยแต่ต้องสอบเทียบเข้าเรียนคลาสเรียนระดับสูงกับผู้คนที่อายุมากกว่าตั้งหลายปี จนเขาเองไม่ได้มีชีวิตในวัยเด็กที่ต้องมาวิ่งเล่นไล่จับเหมือนเด็กคนอื่นเลยด้วยซ้ำ
และตอนนี้เขากลายเป็นเสือตัวใหม่แห่งอาณาจักร' พิทหิรัณย์กุล' แทนที่พ่อของเขาไปแล้ว ชายวัยใกล้สามสิบอย่างเธียรธาดา นอกจากจะยังเป็นที่เลื่องลือเรื่องความสามารถที่หลากหลายแล้ว ยังเป็นที่หมายปองของเหล่าสาวๆ มากมาย ทั้งบรรดา ดารา เซเลบฯ ตบตีกันให้วุ่นเพื่อเสนอตัวอยากนอนกับเขา ยิ่งถ้าได้เป็นนางบำเรอของเขาล่ะก็ พวกเธอคงจะมีเงินซื้อกระเป๋าใบละแพงๆใช้สบายไปทั้งชาติ
"นายครับ! วันนี้โกดังแถวท่าเรือของเราเกิดปัญหาครับนาย" ลูกน้องมือขวาคนสนิทเดินเข้ามารายงานผู้เป็นเจ้านาย
“มีเรื่องอะไรอีกวะนาวี? ...นี่มันจะกัดกูไม่ปล่อยจริงๆใช่ไหม!”
“ครับนาย”
“ได้!! ไอ้สวะเอ้ย!!" หลังจากลูกน้องมือขวาคนสนิทควบตำแหน่งคนรู้ใจของเธียรธาดารายงาน ผู้เป็นนายก็เดือดขึ้นมาทันทีพอจะปะติดปะต่อเรื่องได้ "ก็ไปสิวะ กูต้องจัดการไอ้สวะนั้นให้เด็ดขาดแล้ว"
"คะ...ครับ นาย!"
มันกล้ามาหยามเขาถึงถิ่น ทางเดียวของพวกมันก็คือความตาย ไอ้พวกนักธุรกิจสวะนั่น ดีแต่จะจ้องทำร้ายคู่แข่งที่รวยกว่าอย่างเขา