บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1

ตอนที่ 1

ความเดิม

"อื้อ...อืมมม เดี๋ยวก่อนสิคะ 'เธียร' เฌอเอมยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะคะ" มือเรียวบางของร่างอรชรชวนน่าหลงใหล อก เอว สะโพก เนื้อนมไข่ยั่วสายตาคนมองหักห้ามใจไม่ได้ โดยเฉพาะเสือร้ายร่างกำยำตรงหน้าหญิงสาว

‘เธียรธาดา’ หนุ่มลูกครึ่งอิตาลี่ไทยวัย 29 ปี แม่ของเขาเป็นคนไทยส่วนพ่อของเขาเป็นนักธุรกิจชาวอิตาลี่ที่มีเชื้อสายออสเตเลียผสมอยู่

"เถอะน่า...เอม คุณทำผมปวดไปทั้งตัวแล้วนะ" ไม่ว่าเปล่าคนตัวใหญ่ยังล้วงมือเข้าไปในเพนตี้ตัวจิ๋วลายลูกไม้สีเข้มของร่างยั่วยวนเย้าแหย่เขาตรงหน้า

"อืมมม ก็ได้ค่ะ อ๊ะ!" ว่าพลางทำหน้าเขินอายใส่

.

.

.

"อ่าาส์ อืมม ซีสสส!!! สุดยอดเลยเอม" บทรักทั้งสองดำเนินไปเกือบถึงเย็นแล้ว ทั้งสองร่างที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันภายในห้องคอนโดสุดหรูใจกลางเมือง ทั้งที่ตอนนี้ได้กลายเป็นสงครามขนาดย่อมไปแล้ว

"อ๊ะ อื้มม!! ไม่ไหวแล้วค่ะ อ...เอม จะแตกแล้วค่ะ ที่รักขา อ๊ะๆ ...ซี้ดด!!!" ใต้ร่างกำยำของชายหนุ่มผู้มีประสบการณ์ช่ำชองเรื่องอย่างว่า พาหญิงสาวตรงหน้าไปแตะขอบสวรรค์ถึง 3 ครั้งติด คนใต้ร่างกระตุกถี่ๆ รัวๆ หลายรอบจนน้ำสวาทไหลออกท่วมล้นแก่นกายของคนด้านบนตัวเธอ

"อ๊าาส์ ซี้ดดด......อืมม" เพียงไม่กี่วินาทีต่อมาชายผู้มีอำนาจควบคุมบังเหียนอยู่ด้านบนตัวเธอก็เสร็จไปตามๆ กัน เขาเอื่อมมือไปหยิบกระดาษชำระด้านบนหัวเตียงพร้อมกับดึงถุงยางอนามัยออกเป็นถุงสุดท้ายของบทรักสำหรับวันนี้

"จุ๊บบ จ๊วบบ เดี๋ยวผมต้องไปเคลียร์งานต่อแล้ว" ใบหน้าเรียบนิ่งเอ่ยบอกคู่นอนที่เพิ่งไปแตะขอบสวรรค์ด้วยกันเมื่อครู่นี้ "ผมจะให้ลูกน้องไปส่ง คุณแต่งตัวเถอะ"

"งื้ออ เธียรคะเอมเหนื่อย เอมขอนอนสักพักนะคะเธียร" มือเรียวคว้าแขนแกร่งเจ้าของใบหน้าเรียบนิ่งไว้พลางส่งสายตาออดอ้อน "เอมรอคุณในห้องได้ค่ะ แต่เอมยังไม่อยากกลับบ้านนะคะ นะคะเธียร จุ๊บบ!!" หญิงสาวร่างอรชรลุกขึ้นเอาแขนคล้องคอร่างแกร่งข้างเตียงพร้อมขโมยจูบปากเขาอย่างออดอ้อนเอาอกเอาใจ

แบบนี้จะไม่ให้เธียรธาดาผู้เอาแต่ใจ หวั่นไหวใจอ่อนให้เธอได้ยังไงกัน เธอทั้งออดอ้อนเขาเก่ง สั่งอะไรได้ดั่งใจเขาทุกอย่างโดยเฉพาะเรื่องบนเตียง และที่สำคัญเธอยังเป็นลูกสาวคนเดียวของคุณรตรีเพื่อนมารดาของเขาอีกด้วย

รตรีเธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของสุดาแม่ของเขา ทั้งสองครอบครัวมีอะไรก็ช่วยเหลือกันมาตลอด ฮึ! ไม่เหมือนกับคนพวกนั้น ที่เขาจำได้ดีเลยล่ะ โดยเฉพาะในตอนนั้น

(10 ปี ก่อนหน้านี้)

'คุณท่านคะ! แย่แล้วค่ะ แย่แล้ว' หนึ่งในคนรับใช้หญิงวัยกลางคนของบ้านมหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจอสังหาฯ ยักษ์ใหญ่ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมทั้งยังมีธุรกิจในเครือยิบย่อยอีกมากมาย อาทิ นำเข้ารถสปอร์ตหรู โรงงานผลิตอะไหล่รถยนต์ ธุระร้านอาหาร และยิบย่อยอีกมากมาย

เรียกได้ว่าตระกูล 'พิทหิรัณย์กุล' หยิบจับอะไรขึ้นมาทำก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด

'มีอะไรยัยสาย รีบวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่นขนาดนี้!!' หญิงวัยชรานั่งรถเข็นกล่าวดุลูกน้องอย่างรำคาญ มือพลางถือเข็มกับด้ายนั่งเย็บผ้าอยู่ข้างในบ้าน

'อ้าว มีอะไรว่ามาสิ!'

'เอ่อ... คือ คุณผู้หญิงจมน้ำค่ะคุณท่าน!' หญิงคนใช้ชื่อสายใจเอ่ยบอกท่าทีตัวสั่น

'ห้ะ!! แล้วแกเรียกคนไปช่วยยัง? มีใครไปช่วยสุดารึยัง ห้ะ?' คุณท่านที่เป็นแม่สามีของคุณผู้หญิงบ้านหลังนี้เอ่ยถามด้วยสีหน้ากังวล

'มีคนช่วยไว้แล้วค่ะ คุณท่าน' สายใจรีบรายงานคนเป็นเจ้านายรายงานพูดคลายสถานการณ์

'ตอนนี้ลูกสาวของดิฉันก็อยู่ที่โรงบาลด้วยค่ะคุณท่าน'

'แกว่าอะไรนะ!? แล้วยัยขวัญลูกสาวแกไปที่นั่นด้วยทำไมกัน?' คุณนายของบ้านเอ่ยถามด้วยสีหน้าสงสัย

'คะ คือ ขวัญดำน้ำลงไปช่วยคุณผู้หญิง แต่ตะคริวกินก็เลยจมลงไปแทนค่ะ' สายใจพูดเสียงตะกุกตะกัก กลัวคนตรงหน้าคาดโทษลูกตัวเองหากคิดว่าของขวัญเป็นต้นเรื่องที่ทำให้เรือพลิกคว่ำครั้งนี้ คุณผู้หญิงเอ็นดูลูกของเธอมากซึ่งเธอก็รับรู้และซาบซึ้งดี หากแต่พรุ่งนี้เป็นเกิดของขวัญเธอแค่จะแวะไปเก็บดอกบัวที่สระน้ำหลังบ้านใหญ่ของคุณท่านเพื่อนำมาไหว้พระตักบาตรวันเกิดก็เท่านั้น แต่คุณผู้หญิงของบ้านกลับคะยั้นคะยออยากจะลงไปช่วยเก็บดอกบัวด้วยความเอ็นดูลูกสาวของเธอ และไม่อยากให้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียวไปเก็บตามลำพังจึงอาสาพายเรือให้เด็กหญิงเป็นคนเก็บ

'อะไรนะ! ไปเรียกคนรถเตรียมพาฉันไปโรงบาลเดี๋ยวนี้เลยสายใจ'

'ค่ะ คุณท่าน'

เนื่องจากสามีของคุณหญิงสุดาที่ยังคงติดงานอยู่ที่ต่างประเทศ แถมลูกชายคนเดียวของตระกูลพิทหิรัณย์กุล ยังเรียนอยู่ที่ประเทศออสเตเลียที่เดียวกับบิดาที่ยังตั้งหน้าตั้งตาเคลียร์งานอยู่ที่นั่น

ภรรยาอย่างสุดาจึงต้องอยู่ดูแลบริษัทที่ไทยแทนสามีและอยู่ดูแลแม่ของสามีที่นี่ จนกว่าลูกชายคนเดียวของเขาจะเรียนแล้วกลับมาบริหารที่นี่แทน

(โรงพยาบาล)

'คุณหมอคะ ตกลงลูกสะใภ้ฉันเป็นยังไงบ้าง?' หญิงชราวัย เอ่ยถามหมอหลังจากเห็นเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน

'คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วครับ แต่...เอ่อ.…'

'อะไรคะหมอ!? ลูกสะใภ้ฉันเป็นอะไร?'

'คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ แต่เนื่องจากศีรษะของคนไข้ได้รับแรงกระแทกอย่างมาก จนสมองได้รับแรงกระทบกระเทือน

เฉพาะนั้นหมออยากให้ญาติคนไข้ทำใจไว้นะครับ ถ้าเป็นรุนแรงอาจถึงตาย หรือไม่ก็อาจมีภาวะแทรกซ้อนในภายหลัง เช่น เป็นโรคลมชัก บุคลิกเปลี่ยนแปลง แขนขาเป็นอัมพาต ความจำเสื่อมได้ครับ'

คุณหมอตรงหน้าพูดสาธยายถึงสาเหตุและผลลัพธ์ของอาการให้เจ้าของคนไข้ฟัง

'สมองกระทบกระเทือนอย่างนั้นหรอคะ' สายใจที่เดินทางมากับคุณท่านเอ่ยถาม

'ครับ สันนิษฐานว่าตอนที่คนไข้จมลงไปใต้น้ำศีรษะอาจจะไปกระแทกกับของแข็งใต้น้ำได้ครับ'

เมื่อได้รับทราบอาการของสุดา คุณท่านจึงได้ติดต่อสามีของเธอซึ่งเป็นลูกชายของคุณท่านมาดูอาการคุณผู้หญิงของบ้าน

วันต่อมา

'เพราะลูกสาวของเธอคนเดียว สายใจ! เพราะยัยเด็กนั่น ทำให้เมียฉันต้องกลายมาเป็นอัมพาตแบบนี้!!'

เสียงดุดันของชายกลางคนวัย 59 ปี ผู้มีอำนาจในบ้านหลังนี้ด่าทอคนรับใช้เสียงดังลั่นโรงพยาบาล นัยน์ตาสีฟ้าของเขานั้นตอนนี้ได้ลุกเป็นไฟขึ้นเมื่อได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด

'ฮึกก... ดิฉันขอโทษค่ะคุณนาธาน จะให้ฉันกับลูกทำยังไงก็ได้ค่ะ ฉันยอมแล้ว' สายใจร้องไห้ทั้งยกมือขอโทษผู้เป็นนาย

'เธอพาลูกออกจากบ้านฉันไปซะ! ก่อนที่ฉันจะเอาเธอและลูกสาวของเธอเข้าคุก!!'

คำสั่งเด็ดของผู้เป็นนายสั่ง ทั้งที่ในใจเขาไม่ได้อยากทำแบบนี้เลย ลึกๆ เขาก็เอ็นดูเด็กคนนั้นมากไม่ต่างจากภรรยาของเขา แต่ด้วยความที่เขาเองก็เคียดแค้นผู้หญิงตรงหน้านี้ไม่น้อย เหอะ! ถ้าตอนนั้นเธอไม่อวดดีรับรักของเขาไปแล้วแต่งงานกัน

ป่านนี้สายใจคงจะมีลูกกับเขาและสุขสบายไปนานแล้ว ไม่ใช่กับไอ้ชั้นต่ำนั่นเป็นแค่ครูบ้านนอกอยู่สร้างรังรักด้วยกันได้ไม่นานก็ตายไปด้วยโรคมะเร็ง จนเธอกับลูกซมซานกับมาพึ่งใบบุญคุณแม่ของเขาอีกครั้ง แต่ตอนนี้เขาจะไล่เธอกับลูกออกจากบ้านไปให้พ้นๆ หน้าซะ!

เห็นทีต้องรีบปั้นให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขา เธียรธาดาจะต้องเตรียมกลับมาบริหารธุรกิจของเขาต่อจากสุดาและล่ะ

--------------------------------------------------

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel